“ยิ่งลักษณ์” อ้างสถิติไตรมาส 2 ทุกปีชาวบ้านกระเป๋าแฟบ โอ่สินค้าแค่ 2 อย่างที่สูงขึ้น เชื่อไตรมาส 3 ราคาลด พืชออกผล ป้องแม่ค้าขึ้นค่าข้าวแกง บอกกลัวไม่รู้จะได้ขึ้นอีกเมื่อไหร่ โต้ ปชป.ชี้ต้นทุนมีค่าน้ำมันเอี่ยวแค่ 10% ปัดพูดคิดไปเองของแพง โอดถ้าไม่ห่วงประชาชนคงไม่ลงเดินตลาด โยน พณ.เปิดธงฟ้าขายใต้ทางด่วน ก่อนยกมือไหว้สื่อขออย่าถามปรับ ครม.
วันนี้ (7 พ.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาสินค้าราคาแพงว่า เกิดจากความรู้สึกของประชาชนว่ามีเงินในกระเป๋าน้อยลง เพราะตามสถิติในช่วงไตรมาสที่ 2 ของทุกปีจะเป็นช่วงที่ประชาชนมีเงินในกระเป๋าน้อยที่สุด เพราะมีรายจ่ายมาก อากาศร้อน ค่าไฟแพง ทั้งจากค่าเทอมและค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว เนื่องจากเดือน เม.ย.-พ.ค.เป็นช่วงที่มีวันหยุดหลายวัน ผู้มีรายได้เป็นเงินเดือนจะไม่ค่อยเดือดร้อน แต่พวกที่มีรายได้รายวันจะมีรายได้ลดลงหรือมีรายได้เท่าเดิม ซึ่งต่างกับช่วงไตรมาสที่ 1 โดยเฉพาะในเดือน ธ.ค.ที่ประชาชนได้รับโบนัสปลายปี ทำให้จะไม่รู้สึกว่าสินค้ามีราคาแพง
ทั้งนี้ เท่าที่ตรวจสอบพบว่าสินค้าที่มีราคาสูงขึ้นมีเพียง 2 ประเภท 1. สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน และ 2. สินค้าที่วงจรปลูกนาน และต้องอาศัยฤดูกาล โดยในไตรมาสที่ 3 ราคาสินค้าจะเริ่มลดลง เพราะพืชผลที่ปลูกหลังน้ำท่วมจะเริ่มมีผลผลิตออกมา ส่วนสาเหตุที่ราคาข้าวแกงยังสูงถึงจานละ 35-50 บาท เพราะพ่อค้าแม่ค้าคงมองว่าถ้าลดราคาลงไป ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้ขึ้นมาอีก จึงต้องคงราคาขายเดิมไว้ก่อน ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องเห็นใจคนค้าขาย
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านอ้างว่าเหตุที่สินค้าราคาแพงเนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นทุกชนิด น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า หากดูจากข้อมูลจะพบว่าต้นทุนราคาสินค้าทั้งหมด มาจากวัตถุดิบร้อยละ 60 ส่วนน้ำมันเชื้อเพลิงแค่ร้อยละ 10 น้อยกว่าค่าเช่าแผง ที่ร้อยละ 15 ด้วยซ้ำ
“อีกเรื่องที่อยากชี้แจง คือ ที่ไปพาดหัวว่ายิ่งลักษณ์บอกว่าชาวบ้านคิดไปเองว่าของแพง จริงๆ แล้วดิฉันบอกว่าเหตุที่รู้สึกว่าสินค้ามีราคาแพงมาจากหลายๆ ปัจจัย ไม่ได้บอกว่าชาวบ้านคิดไปเอง ที่สำคัญโดยส่วนตัวเห็นใจประชาชน ไม่เช่นนั้น คงไม่ลงมาตรวจสอบราคาในตลาดสดเช่นนี้” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
นายกฯ ยังเปิดเผยว่า รัฐบาลได้ออกมาตรการเสริมจากโครงการร้านค้าธงฟ้า โดยมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) จัดหาพื้นที่ให้นำสินค้ามาขายในราคาต้นทุน โดยไม่คิดค่าเช่าแผง อาจจะเป็นพื้นที่ใต้ทางด่วน โดยจะหาพื้นที่ใน กทม.ให้ได้ครบทั่วทุกมุมเมือง ส่วนต่างจังหวัดถ้ามีพื้นที่ก็จะทำเช่นกัน เบื้องต้นอาจจะให้เปิดขายสัก 2 เดือน หรือจนกว่าสินค้าจะราคาลงมาเท่าปกติ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังปฏิเสธจะให้ความชัดเจนเรื่องการปรับ ครม. โดยยกมือไหว้เสมออก ขอร้องนักข่าวอย่างอารมณ์ดีแบทีเล่นทีจริงว่า “ทำเรื่องนี้ก่อนเถอะ ตอนนี้ห้ามก่อนนะ เรื่องปรับ ครม. ขอเรื่องอาหาร-ร้านค้าก่อน เดี๋ยวสินค้าไม่ได้ขาย เรื่องปรับ ครม.ขอไว้วันหลัง เดี๋ยวเรื่องราคาสินค้าไม่พาดหัว เราต้องช่วยกันเรื่องสินค้า อุตส่าห์มาเดินตลาดทั้งที”
