ผ่าประเด็นร้อน
การไม่ยอมรับความจริง หรือการโทษคนอื่น ล้วนแล้วแต่เป็นต้นเหตุของปัญหา อีกทั้งทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นลุกลามเกินความควบคุม ขณะเดียวกันหากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชาวบ้านมันก็ยิ่งทำให้เกิดความเดือดร้อนไปทั่วและขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ จนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า
ขณะเดียวกัน การบิดเบือนความจริงก็ถือว่าเป็นอันตรายไม่แพ้กัน!!
อย่างไรก็ดี ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นมันก็สะท้อนให้เห็นว่า สิ่งที่กำลังมีความพยายามบิดเบือน ไม่ยอมรับความจริงอย่างที่เป็นอยู่ ต้องมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด มีผลต่อความเป็นความตายของตัวเองอย่างแน่นอน
อย่างเรื่อง “ของแพง” ที่กำลังกลายเป็นปัญหาหันกลับมารัดคอรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนดิ้นไม่หลุดอยู่ในขณะนี้ แต่สิ่งที่เห็นกันอยู่ก็คือรัฐบาลกำลังไม่ยอมรับความจริง ยืนยันว่าของไม่แพง หรือไม่ก็หันไปโทษเรื่องปัญหาภัยธรรมชาติ อย่างเช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง ที่เป็นต้นตอของปัญหาที่เกิดขึ้น
รัฐบาลกำลังท่องมนต์ “ของไม่แพงๆๆ” อยู่ตลอดเวลา ไม่ต่างจากการใช้มนต์สะกด ชาวบ้านไม่ให้เกิดความรู้สึกว่าแพง พร้อมทั้งให้ความหวังแบบเดิมๆเหมือนอย่างเช่นเคยทำมาตลอดว่าทุกอย่างกำลังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ราคาสินค้ากำลังลดลงมาแล้ว อะไรประมาณนี้
ในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ยังได้ยืนยันเช่นเดิมว่า “ของไม่แพง” หากแพงก็เป็นเพราะมีสาเหตุมาจากเรื่องน้ำท่วม และภัยแล้ง
จากนั้นบรรดารัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ บุญทรง เตริยาภิรมย์ รองนายกรัฐมนตรี กิตติรัตน์ ณ ระนอง ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลก็ออกมาตอกย้ำในทำนองเดียวกันประสานเสียงว่า “ไม่แพง” และยังมีการเปรียบราคาสินค้าปีนี้กับปีที่แล้วให้เห็นเสียอีก
ถัดมาก็มีพวก ส.ส.พรรคเพื่อไทยและรัฐมนตรีต่างลงสำรวจราคาสินค้าในตลาดสดให้เห็นแล้วก็ตามคาดยืนยันเสียงเดียวกันว่า “ไม่แพง”
แน่นอนว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าว ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปอย่างที่มีรายงานข่าวที่สื่อกำลังนำเสนอออกไป และที่สำคัญกำลังถูกฝ่ายค้านอย่างประชาธิปัตย์ย้อนเกล็ดเอาเรื่องปัญหาปากท้องกลับมาขย่มรัฐบาลปู ยิ่งลักษณ์ อย่างหนักหน่วงในเวลานี้ ซึ่งรัฐบาลกำลังอยู่ในภาวะเข้าตาจนเรื่อยๆ
ที่ผ่านมาเกือบทุกรัฐบาลที่พังพาบหรือเสื่อมความนิยมลงอย่างฮวบก็มาจากสองสาเหตุหลักนั่นคือเรื่องคอร์รัปชัน และเรื่องปัญหาค่าครองชีพ ข้าวยากหมากแพงนี่แหละ
สำหรับรัฐบาลชุดนี้ หากจะว่าไปแล้วถือว่ามีองค์ประกอบสมบูรณ์แบบมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสถียรภาพ มี ส.ส.เกินครึ่ง รวมทั้งไม่มีม็อบมาป่วนกวนใจ ทำให้สามารถใช้สมาธิบริหารราชการแผ่นดินแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านได้อย่างเต็มร้อย แต่กลายเป็นว่ายิ่งเวลาผ่านไปยิ่งทำให้ชาวบ้านผิดหวังมากขึ้นเรื่อยๆ มีการเปลือยตัวตนให้เห็นมากขึ้นว่า ที่แท้คนพวกนี้ก็เป็นเพียงแค่คนไร้ฝีมือ แต่ที่ผ่านมากลับมีการฉวยโอกาสสร้างกระแสบิดเบือนกลบเกลื่อนความจริงมานาน
โดยเฉพาะคนที่เป็นนายกรัฐมนตรี อย่าง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยิ่งหนักกว่าใคร เอาแค่ท่องสคริปต์ให้ถูกต้อง ไม่ผิดพลาดตกหล่นก็ถือว่าเป็นบุญนักหนาแล้ว เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าเธอ “กลวง” อย่าว่าแต่จะเป็นผู้นำประเทศ เอาแค่ “เสมียนบริษัท” ยังไม่แน่ใจมีความเหมาะสมหรือเปล่า
ที่ผ่านมาชาวบ้านต่างเทใจให้แทบทุกอย่าง หวังให้เข้าปลดความทุกข์ยาก หลังจากที่มีการออกนโยบายประชานิยมมาเรียกคะแนนเสียง แต่กลายเป็นว่าผลงานที่ออกมากลับเป็นตรงกันข้าม “ดีแต่โม้” กลายเป็น “ต้มทั้งแผ่นดิน” จนกระทั่งเวลานี้กำลัง “แพงทั้งแผ่นดิน” เดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า
มีเพียงคนในครอบครัว ทักษิณ ชินวัตร และนักการเมืองเพียงหยิบมือ หรือหากจะพ่วง “หัวโจก” คนเสื้อแดงที่มีความหมายต่อ ทักษิณ เท่านั้นที่อยู่ดีมีสุข ใช้อำนาจรัฐไต่เต้าไปสู่ความร่ำรวย ทิ้งพวก “แดงไพร่” ให้ลำบากแสนสาหัส
เพราะเวลานี้ไม่ใช่เดือดร้อนเฉพาะเรื่องสินค้าราคาแพงหูฉี่เท่านั้น ยังมีเรื่องค่าครองชีพอื่นๆ ต่างปรับราคาแพงไปล่วงหน้าหมดสิ้นแล้ว เช่น ค่ารถมอเตอร์ไซต์ รถสองแถว เรือ ทุกอย่างพุ่งทะยานไปข้างหน้า รายจ่ายมากกว่ารายรับเทียบกันไม่ได้
การที่รัฐบาลต่างออกมาตอกย้ำอยู่ทุกวันว่า “ไม่แพง” หวังเพียงว่ากลบความรู้สึกของชาวบ้านที่กำลังเริ่มสะสมความไม่พอใจ และผิดหวังมากขึ้นทุกวัน ดังนั้นไม่ว่าจะพยายามปิดบังกลบเกลื่อนอย่างไร แต่ความจริงก็ย่อมหนีความจริงไม่พ้น แพงมันก็ย่อมแพงวันยังค่ำ ตรงกันข้ามยิ่งเบี่ยงเบนเท่าไรมันอาจเพิ่มอารมณ์โกรธมากขึ้นไปอีก และให้ระวังให้ดี เพราะเรื่อง “แพงทั้งแผ่นดิน” นี่แหละที่จะน็อกทั้งยิ่งลักษณ์ และทักษิณ ลงไปกองกับพื้นแบบไม่เป็นท่าเร็วกว่ากำหนดก็เป็นได้
เพราะหนีความจริงไม่พ้น!!
