เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 ไม่ว่าฝ่ายรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะพยายาม “สร้างกระแส” เพื่อกลบเรื่อง “ของแพงทั้งแผ่นดิน” อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้ผล เพราะเรื่องแบบนี้ชาวบ้านทุกคนมันต้องกินต้องใช้ ต้องเดินทาง แต่ทุกอย่างมันปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นทุกรายการ ยกตัวอย่าง เช่น พอออกจากบ้านก็ต้องเจอกับค่ารถมอเตอร์ไซต์ ค่ารถสองแถว ที่คิดราคาใหม่ไม่ต่ำกว่า 1-2 บาท ขณะที่กระทรวงคมนาคมของ รมต.จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ บอกว่าการขึ้นราคาดังกล่าวทำโดยพลการยังไม่ได้รับการอนุมัติจากทางการ แล้วไง เวลานี้ทั่น รมต.ลองไปนั่งรถสองแถวในย่านถนนศรีนครินทร์-ซีคอน-พระโขนง เวลานี้ต่างไม่สนใจอ้างน้ำมันแพงปรับราคาจาก 6 บาท เป็น 7 บาทมาตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.เรียบร้อยแล้ว ใครจะทำไม ทุด !!
00 ทั้งที่ต้นเหตุก็มาจากต้นทุนด้านพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหรือแก๊ส ที่ปรับราคากันพรวดพราด โดยที่รัฐบาลไม่รู้จักบริหารจัดการควบคุมราคาในบางตัว ที่ผ่านมายังใช้วิธีการแบบมักง่ายเลิกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เพื่อให้ราคาน้ำมันลดลงมา ซึ่งวิธีการแบบนั้นมันก็ไปได้ประโยชน์ให้กับบริษัทน้ำมันเต็มๆ ขายได้มากเท่าไหร่ก็รับไปเต็มเหนี่ยวไม่มีแบ่ง แต่เวลานี้เมื่อเงินกองทุนฯเจ๊งก็ต้องหันกลับมาเก็บอย่างเดิม แต่ทีนี้การเงินดังกล่าวมันก็ยิ่งทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นไปอีก เวลานี้สิ่งที่กำลังทำอยู่ก็คือ “กู้เงิน” อีกสองหมื่นล้านบาทเข้ามาโปะรวมกับของเก่าอีกหมื่นล้านเป็นสามหมื่นล้าน อ้อนี่ไม่ใช่เงินทักษิณกับ ปูยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สักบาทนะพี่น้อง แต่เป็นเงินของพวกทั่นทั้งน้าน
00 เมื่อต้นทางด้านพลังงานไม่มีการจัดการที่สมดุล มันก็ย่อมส่งผลต่อเนื่องไปถึงราคาสินค้าชนิดอื่นที่ต้องปรับตาม ไม่ว่าจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน ซึ่งมันก็ไม่ต่างจากอุปทานหมู่ บางครั้งก็ต้องคิดว่า “ต้องขึ้น” เอาไว้ก่อน เหมือนกับเหตุผลของบรรดาผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก.และรถสองแถวเล็กที่นัดถกกับผู้บริหารกระทรวงคมนาคมเพื่อขอปรับราคาค่าโดยสารอีก 1-2 บาท โดยอ้างเรื่องค่าแรงวันละ 300 บาท เงินเดือน 15,000 บาท มาประกอบด้วย นี่แหละถือว่าเป็น “จิตวิทยา”ต่อเนื่องทั้งที่ค่าแรงยังต้องรอจนถึงวันที่ 1 เม.ย.ซึ่งก็แค่นำร่องแค่ 7 จังหวัดเท่านั้น ดังนั้นนาทีนี้ก็อยากให้รัฐบาล และนายกฯปูย้ำให้ตลอดว่า “ไม่แพงค้า”
00 โผล่มาสร้างข่าวเพื่อไม่ให้พวกเดียวกันลืมว่า “ยังสนใจอยู่” สำหรับ “เหลี่ยมจัด” ทักษิณ ชินวัตร ทั้งที่ผ่านมาก็ “ดีแต่พูด” ไม่เห็นช่วยเหลือใครจริง โดยเฉพาะพวกเสื้อแดงปลายแถวที่เผาศาลากลาง ก่อจลาจลกลางเมืองคนพวกนี้ต้องติดคุกติดตะราง ไม่มีใครไปเหลียวแล เพราะไร้ประโยชน์ไม่มีผลทางยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหว ผิดกับพวก “ไพร่หัวแถว” ไม่ว่าจะเป็น จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รวมไปถึงพวกหัวโจกคนอื่นๆ ที่ได้รับการดูแลอย่างดี หากสังเกตให้ดีจะพบว่าการโผล่หัวออกมาเที่ยวนี้เกิดขึ้นหลังจากเริ่มมีความ “ไม่พอใจ” จากพวกเสื้อแดงบางกลุ่มว่าไม่ได้รับการเหลียวแล เหมือนกับ “ถีบนั่งร้านทิ้ง” ถึงกับมี “เว็บไซต์แดง”การประกาศ “หาคนหาย” ทวงความจำ และหนึ่งในนั้นก็มีชื่อของ ทักษิณ รวมอยู่ด้วย ถึงได้นั่งไม่ติดไงละ หรือแม้กระทาง ขวัญชัย ไพรพนา ที่ประกาศนำกลับบ้านก็เถอะก็ยังไม่วายบ่นโอดโอยว่าถูกพวกไพร่กลายพันธุ์เป็นอำมาตย์และ ส.ส.เพื่อไทยที่ทิ้งขว้าง นี่แหละความจริงที่กำลังประจานออกมาเรื่อยๆ รอฟังข่าวเถอะ
00 คำพูดเท่ๆบอกว่ากำลัง “เคลียร์ผู้พิพากษา” นี่มันน่าคิด จริงไม่จริงไม่รู้ รู้แต่ว่างานนี้ฝ่าย “ตุลาการ” เสียหายเต็มๆโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง รู้อยู่ว่าตุลาการทำใน “พระปรมาภิไธย” ถ้าเคลียร์ได้ในความหมายของแม้วมองอีกมุมหนึ่งนี่มันร้ายกาจนัก แต่ขณะเดียวกันทำให้มองเห็นได้ชัดเจนถึงว่าเวลานี้กำลังมีเสียงทวงบุญคุณจากพวกเดียวกัน โดยเฉพาะ “เสื้อแดงชั้นต่ำ” ทั้งหลายไม่เคยดูดำดูดี ดังนั้นการออกมาพูดว่า “รออีกนิดเดี๋ยวจัดการให้” นั้นก็เป็นการซื้อเวลา พูดเอาตัวรอดเพื่อดับความโกรธไปวันๆเท่านั้น เพราะถ้าจริงใจจริงทำไมไม่ควักเงินตัวเองประกันตัว หรือแม้แต่สั่งให้พวก ส.ส.เพื่อไทยรวมหัวกันไปประกันตัวให้หมดละ แต่นี่กลับไม่มีให้เห็นช่วยแต่พวกที่สำคัญเท่านั้น นี่แหละสันดานแม้วละที่คิดแต่กำไร แต่ช่วยไม่ได้อยากไปหลงลมเอง !!