ประธาน กบอ.แถลงผลการประชุม กนอช.เผยนายกฯ ขอจีนส่ง จนท.ช่วยวิเคราะห์แผนงานป้องกันน้ำท่วมไทย ดูผลใช้เงิน 1.2 แสนล้าน คาดประจำทันช่วงน้ำท่วมพอดี พร้อมอนุมัติ 940 ล้านให้ ทส.ปลูกป่า 1.7 พันล้าน สร้างเขื่อนริมคลองรังสิต ระบุอีก 2 สัปดาห์จ่อเชิญรัฐบาล 10 ชาติคัดบริษัททำแผนบริหารน้ำตามงบ 3 แสนล้าน
วันนี้ (2 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.00 น. นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กนอช.) ที่มีนายกฯ เป็นประธานว่า นายกฯ
ได้แจ้งให้ทราบถึงการเดินทางไปจีน และขอให้รัฐบาลจีนส่งผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำมาช่วยวิเคราะห์แผนงานป้องกันน้ำท่วมของไทย พร้อมทั้งช่วยดูผลการใช้เงิน 1.2 แสนล้านที่ทำมาในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้แน่ใจว่าหากมีน้ำมาในปีนี้เราจะสามารถต่อสู้ได้ และเมื่อเสร็จแล้วทีมดังกล่าวจะอยู่ในไทยอีก 1 เดือน และทิ้งผู้เชี่ยวชาญไว้ให้เราซึ่งพอดีกับช่วงน้ำมาก ดังนั้น ประเทศไทยจะมีผู้เชี่ยวชาญจากจีนประจำอยู่เพื่อให้คำแนะนำ
นายปลอดประสพกล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการอนุมัติเงิน 2 ยอด จากวงเงิน 3.5 แสนล้านบาท ยอดแรกคืออนุมัติให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ใช้ในการปลูกป่า เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศให้ป่าต้นน้ำสามารถดูดซับน้ำได้ วงเงิน 940 ล้านบาท และอีกยอดหนึ่งคือเป็นการอนุมัติงบประมาณ 1,700 กว่าล้าน ของกระทรวงคมนาคม แต่ผู้ใช้คือกรมชลประทานและกรมโยธาธิการ นำไปสร้างเขื่อนริมคลองรังสิต แบ่งออก 2 ช่วง คือช่วงแรก 6 กม.กับ 17 กม. หากสร้างเสร็จแล้วจะช่วยให้น้ำเหนือไม่สามารถไหลบ่าข้ามคลองรังสิตมาฝั่งทางเหนือ กทม.ได้ ส่วนริมคลองหรือริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ได้งบฯ จากกระทรวงคมนาคมไปแล้วต้องยกถนนเพื่อกันน้ำ โดยให้ทางจังหวัดร่วมกับท้องถิ่นเป็นคนทำ มีเงื่อนไขว่าถ้าของจริงเสร็จไม่ทัน ต้องทำของชั่วคราวขึ้นมาให้ได้ เช่น อาจทำเป็นเขื่อนดิน โดยภายในเดือน ก.ค.นี้จะต้องทำเขื่อนกั้นน้ำไม่ทะลักมาจากแม่น้ำให้ได้ นอกจากนี้สัปดาห์หน้าคาดว่าที่ประชุมจะสามารถอนุมัติของกระทรวงอุตสาหกรรม เกี่ยวกับการสร้างเขื่อนกั้นน้ำนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งยังติดขัดเรื่องรายละเอียด โดยมีการวางวงเงินแล้วประมาณ 3,000 ล้านบาท สำหรับ 7 นิคมฯ
นายปลอดประสพกล่าวต่อว่า ส่วนวงเงินที่เหลือประมาณ 3 แสนล้านบาท กบอ.ได้เสนอ กนอช.และจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารหน้า โดยจะเลือกทำโครงการหลักที่เขียนอยู่ในแผนของคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ที่ทำไว้ ซึ่งเป็นแผนระยะยาว และใช้ในการกู้เงินและแถลงต่อศาล รธน.มาแล้ว ทั้งนี้ กบอ.จะเขียนทีโออาร์ ให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์นี้ จากนั้นอีก 2 สัปดาห์จะเชิญรัฐบาลต่างประเทศให้คัดเลือกบริษัทที่คิดว่ามีความเชี่ยวชาญทางด้านน้ำ พร้อมทั้งจะเปิดโอกาสให้บริษัทภายในประเทศไปทำการออกแบบเบื้องต้นที่สามารถแสดงราคา สถานที่ วิธีคิด วิธีทำและกรอบเวลาได้ โดยให้เวลา 3 เดือน ซึ่งต้องทำภายในกรอบที่กำหนดไว้ และเมื่อได้แผนดังกล่าวแล้ว กบอ.จะมาพิจารณาว่าแผนใครจะดีที่สุด ทั้งนี้ แผนที่เสนอมาต้องผ่าน กบอ. กนอช. ครม. 3 ขั้นตอน หรืออาจมีคณะอนุกรรมการประเมิน หลักคือจาก 8 แผนงาน ต้องทำแน่นอน แต่จะเสนอ 20 แผนงานก็ไม่ว่าอะไร ซึ่งแผนนี้จะอยู่ในวงเงิน 3 แสนล้านบาท หรือมากกว่าก็ได้ แต่เนื้อหาต้องครอบคลุมเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย โดยรัฐบาลจะเลือกและให้ทำทันที ขณะนี้ทราบว่ามีประมาณ 10 ประเทศที่สนใจ อาทิ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อังกฤษ
เนเธอร์แลนด์ ฮังการี อิสราเอล เป็นต้น ทั้งหมดนี้เราต้องทำให้ทันภายในเดือน ก.ค.ซึ่งอยากให้ประชาชนสบายใจว่าเงินที่รัฐบาลกู้มา ถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
นายปลอดประสพกล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการบูรณาการด้านป้องกันภัย ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 อย่าง คือในภาวะปกติก็จะใช้ระบบ กบอ. กนอช. แต่ถ้าเกิดมีภัยเกิดขึ้นกะทันหันก็จะไปใช้ระบบของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขณะนี้คณะกรรมการกฤษฎีกาก็ไปร่างแผนนี้อยู่ ดังนั้น ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าในภาวะปกติน้ำก็จะได้รับการดูแลในเชิงพัฒนาการ หากกะทันหันก็จะดูแลแบบเผชิญเหตุ นอกจากนี้นายกฯ สั่งเรื่องปัญหาภัยแล้ง สัปดาห์หน้าตนจะลงพื้นที่แก้ไขปัญหา ยืนยันว่า คนที่ปลูกข้าวในปีนี้จะอยู่รอด เน้นภาคกลางก่อน รัฐบาลไม่ทอดทิ้ง