สะเก็ดไฟ
ยิ่งลักษณ์จะนำคณะรัฐมนตรีเข้ารดน้ำดำหัว พล.อ.เปรม ว้าว..แหมมันช่างเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจเสียจริง!!
นั่นเป็นเสียงอุทานของบางคนที่ไม่ได้ติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิด และเฝ้าถวิลหาความปรองดอง... มโนภาพอยู่ในโลกแห่งความหวัง มองโลกในแง่ดีถ่ายเดียว คิดเตลิดไปเพียงว่าถ้าได้เห็นระดับหัวแถวของ 2 ฝ่าย อี๋อ๋อกันแล้ว อะไรๆ ก็คงดีขึ้น
ทว่า คนในแวดวงการเมืองกลับตั้งคำถามเชิงไม่ไว้วางใจในปรากฏการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น การตบเท้าเข้ารดน้ำดำหัวของยิ่งลักษณ์คราครั้งนี้ต้องมีนัยยะอื่นใดแอบแฝงไว้แน่นอน
ที่คิดว่าอยู่ดีๆ จะไปรดน้ำดำหัวตามประเพณีสงกรานต์เฉยๆ คงไม่ใช่แน่ เพราะถ้าจะรดคงรดกันไปนานแล้ว ไม่ต้องปล่อยเวลาให้ล่วงเลยเทศกาลสงกรานต์มานานโขขนาดนี้ ช่วงสงกรานต์บ้านสี่เสาก็เปิดอ้าซ่า ขุนทหาร แม่ทัพนายกองก็ตบเท้าไปยังบ้านสี่เสาฯ เยอะแยะ
ซึ่งระหว่างนั้นเองมันมีสัญญาณบางอย่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรีนักโทษหนีคดี จับทางได้ลางๆ จึงฉวยโอกาสส่งสัญญาณทางไกลรูปหัวใจมายัง พล.อ.เปรม แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
ภาพที่แม่ทัพนายกองนำโดย พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกลาโหม พาคณะทหาร พ่วงด้วย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าอวยพร พล.อ.เปรมนั้น ปรากฏว่าได้รับสัญญาณตอบรับที่ดี จาก พล.อ.เปรม ประธานองคมนตรียิ้มแย้มแจ่มใสโอภาปราศรัยกับทุกคนที่ตบเท้ามาพบอย่างเป็นกันเอง
เหตุการณ์นั้นทำให้ฝ่ายทักษิณ ฉุกคิดถึงการเดินเกมพินอบพิเทาเดินเข้าหาด้วยความนอบน้อมละมุนละม่อม ลุยเข้าไปจุดที่โฟกัส เป้าหมายใหญ่ทรงพลังที่สุด
หลังจากนายใหญ่นักโทษหลบหนีคดีเดินเกมแรงมาต่อเนื่องยาวนานแต่ไม่สำเร็จเสียที เวลาผ่านมาหลายปีดีดักนับร่วม 6 ปีเข้าไปแล้ว พาลให้คิดว่าสิ่งที่ทำอยู่มันอาจไม่ใช่ อาจไม่ประสบผลสำเร็จ
วันนี้เมื่อโอกาสอำนวยก็ลองเชิงลองใจพลิกไปเล่นอีกบทหนึ่งดีกว่า อาจเป็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ นำทางกลับบ้านที่ถวิลหามานาน
ทุกกระบวนคิด ทุกแนวทางที่ลงมือกระทำล้วนมีเป้าหมายเดียวที่ปักธงฝังรากมายาวนาน คือการพาตัวเองกลับบ้านเกิดเมืองนอนในที่สุด ไม่ว่าสถานการณ์จะแปรเปลี่ยนอย่างไร จะต้องเปลี่ยนแนวทางเดินเกมไปรูปแบบไหน ล้วนทำได้หมด
ไม่คำนึงสนใจว่ากองเชียร์ ฝ่ายสนับสนุน จะมีความรู้สึกอย่างไร ถูกลากจูงสนตะพายเดินไปทางนั้นทีทางนี้ที ล่าสุดเริ่มทนไม่ไหวต้องออกมาเตือน มาปรามกันดังๆ ว่า การเข้าไปเลียแข้งเลียขาพล.อ.เปรมไม่ใช่หนทางแห่งการปรองดอง รัฐบาลจะรดก็รดกันไป แต่คนเสื้อแดงส่วนใหญ่ไม่อยากเห็น
รับไม่ได้ที่ “ยิ่งลักษณ์”จะนำคณะเข้าไปนอบน้อมกับศัตรูหมายเลข 1 ที่เคยต่อสู้ฟาดฟันกันมา ถึงขั้นฆ่าแกงกัน เคยบุกบ้านถูกจับติดตารางมาแล้ว วันนี้จะไปกราบกรานขอขมา...ถรุยส์
โดยเฉพาะ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แกนนำคนเสื้อแดงที่สวมหัวโขนเสนาบดี ไปไม่ได้เด็ดขาด ถ้าไปรับรองมีเรื่อง ไม่กล้านึกภาพตอนรดน้ำ จะสะอิดสะเอียนหัวใจของใครหลายคนขนาดไหน
อย่างไรก็ตาม มันพิสูจน์แล้ว “นายใหญ่”ทำทุกวิถีทางเพื่อพาตัวเองกลับบ้าน ที่บอกว่าจะกลับอย่างเท่ๆ แต่เสื้อแดงหลายคนมองแล้วบอกว่า น่าอดสูมากกว่า เหมือนยอมศิโรราบกราบไหว้ศัตรูที่เล่นงานตัวเองมาจนงอมพระราม ไม่เหลือเชิงของชายอกสามศอกแม้แต่น้อย
วันนี้ “นายใหญ่” และพรรคเพื่อไทยที่นำโดยยิ่งลักษณ์ กำลังเดินเกมแก้รัฐธรรมนูญ เตรียมออก พ.ร.บ.ปรองดอง จำเป็นต้องลดแรงเสียดทานจากสังคม เพราะกระแสต่อต้านเรื่องนี้มีเยอะ การค้อมหัวเข้าหาพล.อ.เปรม เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้การเดินเกมนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณแบบเนียนๆ เป็นไปอย่างราบรื่น
ขณะที่ “ป๋าเปรม” เองก็หลงไปตามเกมของนักโทษหลบหนี พ่ายแพ้ความสวย น่ารักของยิิ่งลักษณ์ เปิดโอกาสให้เข้าออเซาะครั้งแล้วครั้งเล่า “งานรักษ์เมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย” นั่นก็ทีหนึ่งแล้ว เกิดภาพบาดตาแสลงใจใครหลายคน
ลืมไปหมดแล้วว่าอดีคเคยทำอะไรกันไว้ ห้ำหั่นกันชนิดไม่เผาผี คนเสื้อแดงเคยบุกมาลูบคมถึงหน้าเคหะสถาน ลืมไปหมดแล้วว่าเครือข่ายวงศ์วานว่านเครือตระกูลชินวัตร สร้างความบอบช้ำอะไรไว้ให้ประเทศบ้าง
ภาพที่กำลังจะเกิด เหมือนเป็นการบอกประชาชนให้ลืมๆ มันไป ใครจะทำระยำตำบอนกับประเทศไว้แค่ไหนก็ช่างแม่มัน!!
พล.อ.เปรมคิดในบริบทที่ว่าเมื่อเครือข่ายพรรคเพื่อไทยให้เกียรติ มองเห็นหัวเข้ามาพบอวยพร ก็เอาล่ะ ให้อภัยจบๆ กันไป
แต่ใช่ว่าความขัดแย้ง แตกแยก จะจบไปตามเกมที่ผู้มีอำนาจกำลังสร้างฉากเล่นละครกัน
คนเสื้อแดงหลายภาคส่วนยังฝังใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน ต้องบาดเจ็บ ล้มตาย บอบช้ำทางจิตใจ วันนี้เมื่อฝ่ายการเมือง นายใหญ่สมประโยชน์ตัวเอง แล้วก็ทิ้งให้คนเสื้อแดงอยู่ข้างหลังอย่างเปล่าดาย
โยนเศษเงิน เศษทานให้แล้วจบกันไป ไม่ยอมเอาคนผิดมาลงโทษ นัยว่าจะเอาผิดแลกผิด เจ๊าๆ กันไป
เช่นเดียวกับความเคลื่อนไหวของภาคประชาชนบางส่วน ที่ออกมากระตุกเตือนสังคมอย่ายอมให้คนผิดลอยนวล อย่าปล่อยให้คนชั่วปู้ยี่ปู้ยำกฎหมาย ล้างโทษล้างผิดกันจนใสสะอาด
ภาพการเกี๊ยะเซียะ ออมชอมระหว่าง “ป๋าเปรม” และเครือข่ายคนรักแม้ว ทำใครหลายคนกระอักกระอ่วนจนอยากจะอาเจียน
สุดท้ายการเมืองก็จะวนกลับไปสู่การรอมชอม แบ่งสรรอำนาจกระนั้นหรือ เมื่อผลประโยชน์ลงตัวก็เอาประเทศไปเป็นตัวประกัน ปู้ยี่ปู้ยำกันตามใจฉันเหมือนเดิม
ปรองดองที่พูดกันไปมา ก็ปรองดองแต่ปาก เมื่อผลประโยชน์การเมืองลงตัว เกมปรองดองก็ไม่จำเป็นแล้วกระมัง!!