ที่ประชุมพรรคภูมิใจไทยมีมติหนุนโหวตแก้ รธน.วาระ 2-3 หากประชามติเกินหนึ่งเห็นชอบ ชี้ “ยิ่งลักษณ์” ควง 4 รองนายกฯ คารวะ “ป๋าเปรม” แค่สัญลักษณ์รัฐบาล แนะ “ตู่-เต้น” ขอโอกาสมุดบ้านสี่เสาฯ กราบเท้า “ป๋า” ลืมวาทกรรมอำมาตย์ไพร่ เชื่อผู้ใหญ่ให้อภัย โวลูกพรรคยึดเก้าอี้การเมืองท้องถิ่นได้มาอื้อ ขอบายสนามเชียงใหม่ เหตุไม่ใช่ฐานเสียง
วันนี้ (24 เม.ย.) ที่พรรคภูมิใจไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงจุดยืนของพรรคในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรคภูมิใจไทยยืนยันว่า รัฐธรรมนูญฉบับปี 50 จำเป็นต้องแก้ไขในหลายเรื่องเพื่อให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยในการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 นี้ ทั้งเรื่องจำนวน และที่มาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) นั้น ทางพรรคไม่ติดใจว่าจะมีจำนวนเท่าใด มีนักวิชาการกี่คน แต่อยากเรียกร้องว่าในการทำประชามติ หากคะแนนเสียงออกมาว่ามีประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 47 ล้านคน หากเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่ง คือมากกว่า 24 ล้านคน ตรงนี้จะหมดข้อกังขาว่าประชาชนเห็นด้วยต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้หรือไม่ เพราะถ้าเสียงออกมาเกินกึ่งหนึ่งว่าเห็นด้วยสังคมก็ต้องยอมรับ
“ยืนยันว่าในการลงมติวาระ 3 พรรคภูมิใจไทยเห็นชอบด้วยอย่างแน่นอน แม้เราจะเป็นฝ่ายค้าน แต่เราก็ไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญปี 50 จึงไม่อยากให้ใครสับสนในจุดยืนของพรรค” โฆษกพรรคภูมิใจไทยระบุ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนำรองนายกรัฐมนตรีเข้ารดน้ำดำหัว พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในวันที่ 26 เม.ย.นี้ ตรงนี้จะเป็นการส่งสัญญาณเรื่องการปรองดองหรือไม่ โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า หนทางใดที่สามารถก่อเกิดประโยชน์ต่อประเทศเราสนับสนุนทั้งสิ้น เพราะพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคการเมืองแรกที่เสนอให้ออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมผู้ชุมนุมทางการเมือง เมื่อรัฐบาลจะดำเนินการอะไรที่เกี่ยวกับความปรองดองเราสนับสนุน และการที่ พล.อ.เปรมให้เข้าพบก็ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี
“ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตกันว่า เหตุใดนายกฯ จึงไม่นำ ครม.เข้าไปทั้งคณะนั้น โดยส่วนตัวเห็นว่าในฐานะนายกฯ ไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำเช่นนั้น เพราะหากไปกันทั้ง ครม.จะอธิบายให้สังคมเข้าใจยากว่าทำไม ครม.ต้องไปพบป๋า เนื่องจากป๋าไม่มีสถานะอะไรที่ ครม.จะต้องไปพบ ในฐานะประธานองคมนตรี ก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอยู่แล้ว การที่ ครม.เข้าไปทั้งคณะจะเป็นเรื่องประหลาด การที่คุณยิ่งลักษณ์นำรองนายกฯ ไป 4 คน ถือเป็นสัญลักษณ์ว่ารัฐบาลตั้งใจสร้างความปรองดอง เพราะวันนี้สังคมปฏิเสธไม่ได้ว่าป๋าถูกดึงเข้ามามีส่วนในเรื่องความขัดแย้ง ทั้งที่ความเป็นจริงยังไม่ชัดเจน” นายศุภชัยกล่าว
เมื่อถามว่า ท่าทีของรัฐบาลในขณะนี้แสดงว่าหมดหนทางที่จะสร้างปรองดอง หากไม่ได้ พล.อ.เปรมเข้ามาช่วยเหลือหรือไม่ นายศุภชัยกล่าวว่า หากรัฐบาลคิดได้และยอมรับเช่นนั้น ก็น่าชื่นชม ดีกว่าการไปถือดี เพราะวันนี้ปัญหาสำคัญในสังคม คือ การถือดีถือตนกันเอง
ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงกรณีที่มีการเรียกร้องให้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย 2 แกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยออกมาโจมตี พล.อ.เปรม เข้าไปขอขมา พล.อ.เปรมด้วย โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า ขณะนี้ทั้ง 2 คนอยู่ในสถานะที่ได้เปรียบ เพราะอยู่ในรัฐบาล และเป็นตัวแปรสำคัญในการหาทางปรองดอง จึงสมควรที่ต้องไปขอเข้าพบด้วย
“ทั้ง 2 คนเป็นเด็ก ก็ควรเข้าไปกราบเท้า พล.อ.เปรม อย่าไปยึดติดกับวาทกรรมที่สร้างขึ้นมาของคำว่าไพร่กับอำมาตย์ เพราะวันนี้ทั้ง 2 คนนี้คงไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นไพร่แล้ว อย่าคิดมากอะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านไป พล.อ.เปรมท่านเป็นผู้ใหญ่คงไม่คิดอะไร เมื่อไปถึงทั้ง 2 คนชวนท่านแหลงใต้กัน” นายศุภชัยกล่าวในที่สุด
นายศุภชัยกล่าวถึงผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ที่ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยพ่ายแพ้ว่า แสดงให้เห็นว่าการเมืองมีพลวัต ไม่หยุดนิ่ง เคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งพรรคภูมิใจไทยได้ย้ำกับ ส.ส.พรรค ทั้ง 29 เขต ตลอดเวลาว่าให้เกาะติดพื้นที่ ทำให้ประชาชนเห็นว่า “ยามทุกข์เราอยู่เคียงข้างประชาชน” ซึ่งวันนี้ปรากฏว่าแม้การเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 3 ก.ค.54 พรรคไม่ได้ ส.ส.ตามเป้า แต่ในระดับท้องถิ่น เช่น จ.มหาสารคาม ชัยภูมิ บุรีรัมย์ จนมาถึง จ.ปทุมธานี คนของพรรคได้รับการเลือกตั้ง แสดงว่าประชาชนยังคงให้ความไว้วางใจคนทำงานอย่างจริงจัง
“ภูมิใจไทยค่อยๆ เติบโตจากสนามเล็กๆ มาถึงระดับชาติ ด้วยจุดยืนของพรรคแสดงให้ประชาชนเห็นชัดเราไม่ได้คิดว่า เมื่อชนะแล้วจะฮึกเหิม เรามีความภาคภูมิใจที่เดินมาถูกทางแล้ว” นายศุภชัยกล่าว
ส่วนการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 จ.เชียงใหม่ แทน น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ที่พ้นจากการเป็น ส.ส.และถูกตัดสิทธิทางการเมืองกรณีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จนั้น โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า พรรคคงไม่ส่งผู้สมัครลงแข่งขันเนื่องจากไม่ใช่ฐานเสียง
ในการประชุมกรรมการบริหาร และส.ส.พรรคภูมิใจไทย ทั้งนี้ ภายหลังเลิกประชุมได้เปิดโอกาสให้สมาชิกพรรครดน้ำขอพรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ จากนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค และนายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตประธานรัฐสภา นำทีมโดยนายเนวิน ชิดชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นางพรทิวา นาคาศัย เลขาธิการพรรค นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรค พร้อม ส.ส. และสมาชิกพรรคภูมิใจไทย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น ทั้งนี้นายชวรัตน์และนายชัยได้ให้พรลูกพรรคให้มีสุขภาพแข็งแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าที่นายก อบจ.ปทุมธานี ที่เพิ่งชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมาได้มาร่วมรดน้ำขอพรด้วย โดยมีนายเนวิน นายอนุทิน พร้อม ส.ส.ภายในพรรคเข้าไปร่วมแสดงความยินดีกับชัยชนะในครั้งนี้