วันตาสว่างแห่งชาติที่ปทุมฯ !!

เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
 
00 เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาถือว่าเป็นวันอัปยศอดสูของพลพรรคเพื่อไทย และหัวโจกเสื้อแดงที่กลายพันธุ์เป็นอำมาตย์ หลังจากทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ปทุมธานี เขต 5 ที่ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย คือ สมชาย รังสิวัฒนศักดิ์ แพ้แก่ผู้สมัครจากปชป.คือ กิตติศักดิ์ ส่องแสง ถัดมารุ่งขึ้นอีกวัน มีการเลือกตั้งนายกฯอบจ.ปทุมฯก็ปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย คือ สุเมธ ฤทธาคนี ที่คิด “ดูถูกชาวบ้าน” ด้วยการลาออกจาก ส.ส.เขต 5 ดังกล่าวเพื่อมาลงสมัครในสนามท้องถิ่น ก็ต้องพ่ายแพ้ย่อยยับให้กับอดีตนายกฯอบจ.คนเดิมคือ ชาญ พวงเพชร ในทางการเมืองถือว่างานนี้พรรคเพื่อไทย และหัวโจกเสื้อแดงถูกชาวบ้านตบจนหน้าหันไปเลย และจ๋อยกันทั้งพรรค เพราะทำให้มีประเด็นต่อเนื่องตามมาอีกมากมาย

00 อย่างแรกเอาแค่ในพื้นที่ปทุมฯก่อน นาทีนี้ถือว่า “เสียหาย” ใหญ่หลวงสำหรับพรรคเพื่อไทย และลามมาถึงเครดิตของ ทักษิณ ชินวัตร ในทางอ้อมอีกด้วย เพราะต้องไม่ลืมว่า ก่อนหน้านี้ไม่ว่า “สุนัข” ที่ไหนก็ตามถ้าลองมาเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย อาศัยชื่อหน้าเหลี่ยมทำงานการเมืองไม่ว่าระดับใด จนมีคำพูดติดปากย้อนกลับมาใหม่นั่นคือ ส่ง “เสาไฟฟ้า” ลงไปก็ต้องได้รับเลือก โดยเฉพาะในพื้นที่ปทุมฯนี่ยิ่งเป็น “แดงจ๋า” ก็ไม่มีทางพลาด แต่อย่างว่าบรรยากาศมันทำท่าเปลี่ยนเป็น “หลังเท้า” หลังเกิดเหตุน้ำท่วมที่ชาวบ้านถูกลอยแพไม่ได้รับการช่วยเหลือ ทั้ง ส.ส.และคนในรัฐบาล ไปจนถึงหัวโจกเสื้อแดงก็ไม่เคยมาดูดำดูดี มีแต่ราคาคุยและปัดความรับผิดชอบ ผลจึงต้องถูกสั่งสอน งานนี้อาจเรียกได้ว่าเป็น “วันตาสว่างแห่งชาติ” ก็ว่าได้

00 จำได้หรือเปล่าในช่วงหาเสียงโค้งสุดท้าย “อำมาตย์หน้าใหม่” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แอ็กท่าโชว์วาทะพ่นน้ำลาย “เลีย” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อหน้าว่ามีผลงานสุดยอดทุกเรื่อง โดยเฉพาะการอัดเทปเตือนภัย หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตราผ่านไป 6-7 ชั่วโมง ที่ต่างประเทศเขายกเลิกการเตือนภัยให้กลับบ้านกันไปแล้ว แต่กลายเป็นว่า เครดิตหัวโจกที่พูดอะไรคนเสื้อแดงก็ต้องเชื่อ มาวันนี้ทำท่าไม่มีความหมาย เพราะชาวบ้านเขาจำได้ ไม่ลืม

00 ที่บอกว่าเสียหายเพราะการพ่ายแพ้เลือกตั้งซ่อมคราวนี้ได้ทำให้พลพรรคเพื่อไทยขวัญเสียไม่น้อย โดยเฉพาะบรรดาคนเสื้อแดงทั้งหลายที่ได้เห็นความพ่ายแพ้ที่ปทุมฯ บางทีทำให้อาการกระอักกระอ่วนที่เคยตามเชียร์มานานได้หยุดอารมณ์คิดว่าที่ผ่านมามันไม่มีอะไรดีขึ้น ทุกอย่างมีแต่โม้ มีแต่ต้มหลอกลวง ให้รับใช้ปกป้องผลประโยชน์ แต่เฉพาะครอบครัว ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น ชาวบ้านทั่วไปมีแต่เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า

00 นอกจากนี้ที่น่าโมโหก็คือไม่รู้ว่า พรรคเพื่อไทย คิดได้อย่างไรถึงยอมให้ ส.ส.คนเก่า คือ สุเมธ ฤทธาคนี ทิ้งเก้าอี้เพื่อมาลงสมัครชิงเก้าอี้ นายกฯอบจ.หน้าตายเฉย นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป “ไม่เห็นหัวชาวบ้าน” ไม่คิดว่าจะวุ่นวาย รัฐต้องใช้งบเลือกตั้งซ่อมอีกมากมาย ผลงานในตำแหน่ง ส.ส.ที่ผ่านมาก็ไร้ค่า ยังมาทำตัวทุเรศต่อเนื่อง นั่นแหละจึงน่าจะเป็นสาเหตุถูกสั่งสอนทั้งสองสนาม เสียที่นั่ง ส.ส.ในสภาฟรีไปหนึ่งเก้าอี้ สมน้ำหน้า ที่สำคัญต่อไปความรู้สึกของชาวบ้านจะเริ่มเปลี่ยนแปลงกลายมาเป็นจับจ้องอยู่ที่เพื่อไทย และคนเสื้อแดงก็จะแตกระสานซ่านเซ็นเริ่มคุมกันไม่ติดมากขึ้นเรื่อยๆ

00 ภาพที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 26 เม.ย.ที่ นายกฯปูนิ่ม ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นำบรรดา รมต.เข้ารดน้ำดำหัวขอพรจาก “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ สร้างภาพปรองดอง แต่อีกด้านหนึ่งมันก็ช่วยไม่ได้ที่จะต้องเกิดคำถามคาใจคนเสื้อแดงที่ก่อนหน้านี้ถูกปลุกระดมให้ “เกลียดพล.อ.เปรม” ด่าว่า “หยาบคาย” อย่างไร ใครที่เคยร่วมชุมนุมบนเวทีเสื้อแดงมาตลอดสามสี่ปีที่ผ่านมาย่อมจำได้ดี โดยเฉพาะ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จะต้องถูกเกณฑ์ให้เข้าร่วมงานนี้หรือไม่ในฐานะที่กลายพันธุ์เป็น “อำมาตย์ใหม่” หรือไม่ แล้วจะอธิบายให้พรรคพวกฟังแบบไหน แต่เชื่อเถอะในที่สุดก็ต้องมีวาทะสวยหรูออกมาจนได้ ถึงได้บอกว่าไม่ต้องปฏิวัติให้เสียเวลาหรอก ปล่อยให้คนพวกนี้ได้เผย “สันดาน” ออกมาเรื่อยๆ มันก็จะก้าวข้ามเหยียบหัวคนพวกนี้เสียที !!

00 อ้อ ก่อนจาก มีข่าวดีมาบอกพี่น้องเสื้อแดง และพวกไพร่ไร้ทางออกด้วยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.เป็นต้นไป สมาคมค้าข้าวถุงประกาศว่าจะขึ้นราคาข้าวสารบรรจุถุงน้ำหนัก 5 ก.ก.จะขึ้นราคาอีกถุง 10 บาท และพวกเขาก็ยืนยันว่า รมว.พาณิชย์ ที่ชื่อ บุญทรง เตริยาภิรมย์ ก็ไม่ขัดข้องเสียด้วย โชคดีนะพี่น้อง ต้องรีบไปหากินข้าวผัดกระเพราจานละ 25 บาทอยู่ เวรกรรมจริงๆ !!