“ณัฐวุฒิ” อ้าง พท.พ่ายเลือกตั้ง จ.ปทุมฯ ไม่พลิกล็อก เหตุผู้สมัคร พท.เป็นรองคู่ต่อสู้ ขณะที่ประชาชนอาจไม่พอใจที่ลาออกจาก ส.ส.ไปลงเลือกตั้งนายก อบจ. โดยไม่ดูแลปัญหาน้ำท่วม เชื่อไม่เกี่ยวชาวบ้านไม่พอใจการทำงานรัฐบาล
วันนี้(23 เม.ย.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ หนึ่งในแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงการพ่ายแพ้เลือกตั้งซ่อม ส.ส. และเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (นายก อบจ.ปทุมธานี) ของพรรคเพื่อไทยว่า ต้องดูลักษณะทางกายภาพของพื้นที่เลือกตั้งใน จ.ปทุมธานี หากพูดถึงสนามนายก อบจ.ปทุมธานี ตัวนายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้ชนะเลือกตั้ง เป็นแชมป์เก่า 2 สมัยและมีบาทบาทในพื้นที่ การลงสนามครั้งนี้ ว่าที่ ร.ต.สุเมธ ฤทธาคนี ที่ลงทุนลาออกจาก ส.ส.พรรคเพื่อไทยไปลงเลือกตั้ง ซึ่งมีสถานะที่เป็นรอง ผลที่ออกมาไม่ถือว่าพลิกล็อกหรือผิดความคาดหมาย
ส่วนในพื้นที่เขตเลือกตั้งเดิมที่ ว่าที่ ร.ต.สุเมธ ลาออก มีประชาชนไม่น้อยที่คิดต่าง เพราะเพิ่งผ่านการเลือกตั้ง ส.ส.มาไม่ถึงปีก็ลาออกไปลงเลือกตั้งนายก อบจ. อีกทั้งชาว จ.ปทุมธานีเพิ่งผ่านวิกฤตน้ำท่วม ประชาชนคาดหวังว่า ส.ส.น่าจะช่วยกันเยียวยาความเสียหาย มากกว่าที่จะตัดสินใจลาออกไปสมัครการเมืองระดับท้องถิ่น แต่ผลคะแนนที่ออกมาคงไม่สามารถนำมาสรุปว่าคนที่สนับสนุนพื่อไทยได้เปลี่ยนใจ
“สนาม ส.ส.มีผู้มาใช้สิทธิ 30% ขณะที่คนส่วนใหญ่ยังไม่ได้ออกมาใช้สิทธิ ปรากฏการณ์ทั้งสองสนามคงยังสรุปไม่ได้ แต่เป็นสัญญาณที่พรรคเพื่อไทยแลรัฐบาลต้องตระหนักพิเคราะห์โดยละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเชิงนโยบายหรือขับเคลื่อนทางการเมืองให้รัดกุม และสอดคล้องความคิดประชาชนให้มากขึ้น”
ส่วนการลาออกจาก ส.ส.ของว่าที่ ร.ต.สุเมธ ประเมินว่าเป็นความผิดพลาดหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า การตัดสินใจไม่ได้เป็นการตัดสินใจภายใต้มติพรรค แต่เป็นการตัดสินใจเฉพาะบุคคล แต่ตนคงไม่พูดว่าในพื้นที่ตัดสินใจพลาดหรือไม่ แต่เราต้องเก็บบทเรียนและประสบการณ์จากเรื่องนี้ และเรื่องนี้การตัดสินใจลงสมัครครั้งนี้ พูดกันในส่วนของฝ่ายการเมืองเป็นหลัก คนเสื้อแดงในทุกจังหวัดก็ไม่ได้คาดหวังจะเข้ามาตัดสินใจ เรื่องนี้คงไม่นำมาอธิบายว่าเป็นความผิดพลาดอย่างไร
ส่วนผลการเลือกตั้งแสดงถึงความไม่พอใจต่อการบริหารจัดการของรัฐบาล หรือแนวทางการเมืองของรัฐบาลหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ยังอธิบายไม่ครอบคลุมไปอย่างนั้น เพราะที่ จ.ปทุมธานีมีปัจจัยหลายข้อ
