ปชป.ประกาศขวางปรองดองกำมะลอเพื่อช่วย “นช.แม้ว” พ้นผิด ได้ทรัพย์สิน 4.6 หมื่นล้านคืน หวังรักษาหลักนิติรัฐ-นิติธรรมแม้แพ้เสียงในสภา ชี้บ้านเมืองมีปัญหาเพราะวิบัติ 4 ประการ มอบฝ่ายกฎหมายดำเนินคดีทูตไทยประจำลาว พ่วง “เพรียวพันธ์” ผบ.ตร.ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ไม่จับนักโทษหนีคุก เย้ย “รัฐบาลปู” ล้มเหลวทุกเรื่อง สำเร็จแค่อุ้มนายทุน ช่วย “ทักษิณ”
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศจุดยืนพรรคขวางการปรองดองเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พ้นผิดในทุกคดีได้ทรัพย์สินที่ถูกยึด 4.6 หมื่นล้านบาทคืน ด้วยการทำลายหลักนิติรัฐ และนิติธรรมของบ้านเมือง ซึ่งพรรคจะต่อสู้อย่างถึงที่สุดเพื่อรักษาหลักการและความถูกต้องของบ้านเมืองเอาไว้ เพราะสำนึกในหน้าที่ของการเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ที่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน 12 ล้านเสียงที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์และรับผิดชอบต่อประเทศในการตรวจสอบไม่ให้รัฐบาลนำ 15 ล้านเสียงมาเป็นข้ออ้างละเมิดหลักกฎหมายตามอำเภอใจ
ทั้งนี้ เห็นว่าบ้านเมืองมีปัญหาเพราะวิบัติ 4 ประการ คือ มนุษย์วิบัติ ตรรกะวิบัติ นิติรัฐวิบัติ และประชาธิปไตยวิบัติ โดยความวิบัติทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะต้องการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณเพียงคนเดียวเท่านั้น พร้อมกับยกตัวอย่างข้าราชการที่ทำตัวเป็นมนุษย์วิบัติ เช่น นายวิทวัศ ศรีวิหค เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศลาวที่ไปต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นนักโทษหนีคดีในระหว่างพำนักอยู่ที่ประเทศลาว และ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่าส่งเสื้อเกราะกันกระสุนไปให้ โดยจะได้ให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคพิจารณาเพื่อดำเนินคดีต่อข้าราชการทั้ง 2 คน ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่โดยตรงในการแจ้งเบาะแส จับกุมนักโทษมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยยืนยันว่าการดำเนินการของพรรคไม่ได้ต้องการเล่นงานข้าราชการ แต่ต้องรักษาหลักนิติรัฐของบ้านเมืองให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างเสมอภาคและเป็นธรรม
นายชวนนท์ยังระบุว่า 8 เดือนรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ล้มเหลวในนโยบายเร่งด่วน 16 ข้อ ละทิ้งประชาชนอุ้มนายทุนมุ่งช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ โดยตัวอย่างนโยบายที่ล้มเหลวของรัฐบาล เช่น ค่าแรงขั้นต่ำ 300 เงินเดือนปริญญาตรี 1.5 หมื่นบาท นอกจากจะได้ไม่ครอบคลุมทั่วประเทศแล้วยังส่งผลกระทบทำให้เกิดการเลิกจ้างจนแรงงานตกงานนับล้านราย เอสเอ็มอีต้องปิดกิจการโดยที่รัฐบาลไม่มีมาตรการช่วยเหลือ แม้แต่นโยบายปราบปรามยาเสพติดที่รัฐบาลชุดนี้อ้างว่าประสบความสำเร็จเมื่อเทียบกับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พบว่า ม.ค. ถึง ก.ค.54 จับกุมคดียาเสพติดสำคัญได้ 421 คดี ผู้ต้องหา 673 ราย ขณะที่ 6 เดือนของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก.ย.54 ถึง ก.พ.55 จับกุมคดียาเสพติดได้ 335 คดี ผู้ต้องหา 598 ราย ในขณะที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะการปราบปรามแต่ให้ความสำคัญต่อการบำบัดผู้ติดยาด้วย
นอกจากนี้ นโยบายที่จะแก้ปัญหาภาวะเงินเฟ้อราคาพลังงานก็ผิดพลาดจนทำให้เงินเฟ้อพุ่งสูงราคาพลังงานเพิ่มขึ้นทุกชนิด แต่การลดภาษีนิติบุคคลจากร้อยละ 30 เหลือร้อยละ 23 นายทุนได้ประโยชน์ทันที เช่นเดียวกับการนำความปรองดองมาบังหน้าเพื่อล้างความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลับหน้าอย่างเร่งด่วนมัดมือชกให้สภาต้องดำเนินการตามเป้าหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งพรรคยืนยันจะคัดค้านเรื่องนี้จนถึงที่สุด