ส.ว.ห่วงเล่นเกมแก้ รธน. วอนสมาชิกเป็นกลาง ยึดประโยชน์ปชช.

ส.ว.ประชุมนอกรอบ ห่วงฝ่ายค้าน-รัฐบาลเล่นเกมแก้ รธน. ทำรัฐสภาป่วน เรียกร้อง ส.ว.วางตัวเป็นกลาง ยึดประโยชน์ประชาชน

นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ส.ว.สรรหา กล่าวภายหลังการหารือนอกรอบถึงการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ.... ว่า ได้มีการหารือระหว่าง ส.ว.ที่เสนอคำแปรญัตติในร่างรัฐธรรมนูญฯ โดยมี ส.ว.เข้าร่วมประมาณ 35 คน ซึ่งเป็นห่วงถึงการเล่นเกมการเมืองในสภาระหว่างฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล โดยคาดว่าทางฝ่ายค้านอาจใช้วิธีตีรวน และวอล์กเอาต์จากห้องประชุม ซึ่งหากมีการนับองค์ประชุม ส.ว.จะถือว่าเป็นตัวแปรสำคัญ รวมทั้งพรรคภูมิใจไทย ขณะนี้เสียงของรัฐบาลมีประมาณ 300 เสียง ยังขาดเพียง 24 เสียงจึงจะถึงกึ่งหนึ่งขององค์ประชุมที่มีสมาชิกทั้งสิ้น 648 คน ดังนั้น ที่ประชุมจึงขอให้ ส.ว.วางตัวเป็นกลางและใช้ดุลพินิจตามเหตุผลมาพิจารณาเป็นหลัก

“การจะวอล์กเอาต์ตามฝ่ายค้านขอให้ ส.ว.พิจารณาเหตุผลว่าเอาเหตุผลอะไรมาอ้าง ซึ่งหากเป็นเหตุที่เหมาะสมก็ขึ้นอยู่ดุลพินิจของ ส.ว.แต่คนจะเห็นตามด้วยหรือไม่ รวมถึงการลงมติเมื่อต้องใช้เสียงข้างมากตัดสินในบางมาตราที่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ก็ขอให้พิจารณาบนผลประโยชน์ของประชาชนมากกว่ายึดถือเกมการเมือง”

นายวิชาญยังตั้งข้อสังเกตถึงการเสนอคำแปรญัตติของสมาชิกพรรคฝ่ายค้านว่าน่าจะเป็นการตีรวน เช่น กรณีนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และกมธ.จากพรรคประชาธิปัตย์ สงวนความเห็นแก้ไขเพิ่มในมาตรา 1 ให้เป็น “รัฐธรรมนูญนี้เรียกว่า รัฐธรรมนูญรวบรัดเพื่อทักษิณ” นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง กมธ.พรรคประชาธิปัตย์ ได้สงวนคำแปรญัตติเช่นเดียวกันว่า “รัฐธรรมนูญนี้เรียกว่ารัฐธรรมนูญฉบับ นปช.ครองเมือง” เป็นต้น ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงวุฒิภาวะของผู้แปรญัตติ อีกทั้งมุ่งเล่นเกมการเมืองมากเกินไป ซึ่งประเด็นนี้อาจจะนำไปสู่การหักดิบปิดอภิปรายได้ หรือหากปล่อยให้มีการอภิปรายในประเด็นดังกล่าวต่อไปเชื่อว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะใช้เวลา 7 วันก็ไม่จบ อย่างไรก็ตาม หากทาง ส.ส.มุ่งเล่นเกมการเมืองกันเกินไป ทาง ส.ว.คงร่วมทำงานกับ ส.ส.ไม่ได้