“สมจิตต์” แฉถูกกีดกั้นบินเขมรทำข่าว “ปูนิ่ม” ประชุมผู้นำอาเซียน

รัฐบาลแทรกแซงช่อง 7 ห้าม “สมจิตต์” ตาม “นายกฯ ปู” ไปทำข่าวผู้นำอาเซียนที่เขมร เจ้าตัวระบายผ่านเฟซบุ๊ก เตรียมบทข่าว-ตั๋วเครื่องบินพร้อม รับสุดงงมีจำกัดจำนวนสื่อ ก่อนตัดพ้อ “อะไรก็เกิดขึ้นได้ในยุคนี้” ด้าน ผช.ผจก.ฝ่ายข่าวช่อง 7 โพสต์แฉถูกการเมืองแทรกแซงเลวร้ายไม่ต่างจาก 10 ปีที่แล้ว ปลุกสื่อลุกขึ้นต่อต้านการเมืองแทรกแซง

วันนี้ (30 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. น.ส.สมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวมีข้อความว่า “เตรียมตัวเรียบร้อยจะเดินทางไปกัมพูชา ทำข่าวทีวีพูลภารกิจนายกฯ ประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 20 เพิ่งได้รับแจ้งจาก บก.ว่าไม่ต้องไปแล้ว เพราะสำนักโฆษก ทำหนังสือถึงสถานีให้ยกเลิกทีมข่าวล่วงหน้า เนื่องจากกัมพูชาแจ้งว่ามีข้อจำกัดในเรื่องจำนวนสื่อมวลชนและระบบรักษาความปลอดภัย จะเดินทางวันอาทิตย์และซื้อตั๋วเครื่องบินแล้วเนี่ยะนะ! เพิ่งจะรู้ว่ามีข้อจำกัดเรื่องจำนวนสื่อมวลชน อะไรก็เกิดขึ้นได้ใช่ไหมคะในยุคนี้”

หลังจากนั้นประมาณ 5 นาที น.ส.สมจิตต์ได้โพสต์ข้อความอีกครั้งว่า “บทข่าวก็เขียนล่วงหน้าแล้วที่จะโปรโมตภารกิจนี้ นายกรัฐมนตรีเตรียมเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน 3-4 เมษายนที่กัมพูชา พร้อมลงนามปฏิญญาอาเซียนปลอดยาเสพติด ค.ศ. 2015 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการไปปฏิบัติภารกิจที่กัมพูชาระหว่างวันที่ 3-4 เมษายนนี้ เพื่อร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 20 โดยสาระสำคัญที่จะมีการพิจารณาร่วมกัน คือ ร่างเอกสารปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยอาเซียนปลอดยาเสพติด ค.ศ. 2015 ร่างเอกสารแนวความ คิดเรื่องกลุ่มผู้มีแนวคิดแบบทางสายกลาง และร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย และสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ว่าด้วยการให้ที่ตั้งและเอกสิทธิ์ความคุ้มกันแก่สำนักเลขาธิการอาเซียน นอกจากนี้จะได้มีการหารือเกี่ยวกับร่างปฏิญญาพนมเปญว่าด้วยอาเซียน : หนึ่งประชาคมหนึ่งจุดหมาย ที่จะมีการรับรองระหว่างการประชุมสุดยอดครั้งนี้ด้วย ซึ่งประเทศไทยก็มีการเตรียมความพร้อมที่จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนไว้แล้ว

ประเด็นที่รัฐบาลไทยเตรียมที่จะผลักดันเพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนคือ การประกาศปฏิญญาอาเซียนปลอดยาเสพติด ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยนายกรัฐมนตรี ตั้งความหวังไว้ว่าการประชุมคราวนี้จะนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการร่วมอาเซียนเพื่อกำหนดแนวทางแก้ปัญหายาเสพติดร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมด้วย

สำหรับวาระสำคัญอีกประการหนึ่งที่จะมีการหารือในที่ประชุมครั้งนี้ คือ สามเหลี่ยมเศรษฐกิจที่จะมีความร่วมมือระหว่างประเทศไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย

หลังจากนั้นเวลาประมาณ 19.50 น. นายสมโภชน์ โตรักษา ผู้ช่วยหัวหน้ากองบรรณาธิการฝ่ายข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ได้โพสต์บทความชื่อ “เส้นทางสื่อมวลชนและการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง” ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวมีเนื้อหาว่า...

“ชีวิตการทำงานบนเส้นทางสื่อมวลชนตลอดระยะเวลาเกือบ 21 ปี ผมมีความสุข สนุก และมีความภาคภูมิใจกับอาชีพนักข่าว และภูมิใจกับการได้ทำงานในองค์กรที่มั่นคงแห่งนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่สามารถปฏิเสธความจริงได้เลยก็คือ การแทรกแซงการทำงานจากฝ่ายการเมือง ซึ่งเกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัย ด้วยวิธีการที่แตกต่างกัน แต่องค์กรของเราก็ยืนหยัดอย่างมั่นคงเป็นที่ยอมรับจากประชาชนมาได้จนถึงทุกวันนี้ และผมก็เชื่อด้วยความสุจริตใจว่า เราจะผ่านพ้นการแทรกแซงครั้งนี้ซึ่งหนักไม่แพ้เมื่อช่วง 10 ปีที่ผ่านมาไปได้ด้วยความมั่นคงด้วยจรรยาบรรณวิชาชีพของความเป็นสื่อมวลชน ที่สามารถเป็นที่พึ่งและที่หวังของคนไทยได้

ผมสัญญา ผมจะสู้ด้วยเหตุด้วยผลและเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตจริง ผมรู้ว่ามันอาจจะยากในการเมืองยุคนี้ แต่ผมเชื่อว่ามันจะยากยิ่งกว่าถ้าเราคนวิชาชีพเดียวกันจะไม่ต่อสู้ และต่อต้านการแทรกแซงการทำหน้าที่ของพวกเราด้วยความสุจริต ซึ่งผมมั่นใจว่า ความสุจริตใจของพวกเรา ประชาชนพิสูจน์ได้จากการทำงาน....ผมเชื่อมั่นในวิชาชีพนี้ตลอดชีวิตผม”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.สมจิตต์ มีชื่อเป็นสื่อมวลชนในนามทีวีพูลที่จะติดตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปทำข่าวภารกิจการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 20 ที่ประเทศกัมพูชา โดยถูกวางตัวให้เป็นทีมเดินทางล่วงหน้า ซึ่งจะเดินทางไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 1 เมษายนนี้ และเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ยังเดินทางมาที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลเพื่อสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับภารกิจดังกล่าวในนามของทีวีพูล ร่วมกับทีมข่าวช่อง 7 อีก 1 ทีมที่จะเดินทางไปพร้อมกับคณะของนายกรัฐมนตรี จนกระทั่งมีการโพสต์ข้อความว่าภารกิจดังกล่าวถูกยกเลิกโดยสำนักโฆษกตามข้อความข้างต้น