xs
xsm
sm
md
lg

“ทศพร” จ่อฟ้อง อธ.ป่าไม้-อุทยานฯ ฐานละเว้นปกป้องป่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ย้อนถามรัฐบาลทุ่มงบหลายหมื่นล้านนำต้นกล้าไปปลูกป่าจะได้ประโยชน์อะไร เตรียมฟ้อง อธ.กรมป่าไม้-อุทยานแห่งชาติ ละเว้นปฏิบัติหน้าที่รักษาป่า ชี้แต่ละปีหายไป 1.6 ล้านไร่

วันนี้ (30 มี.ค.) ที่รัฐสภา นพ.ทศพร เสรีรัตน์ อดีต ส.ส.แพร่ พรรคไทยรักไทย และสมาชิกบ้านเลขที่ 111 แถลงถึงกรณีการตัดไม้ และบุกรุกทำลายป่าในพื้นที่ภาคเหนือว่า ปัญหาที่แท้จริงนอกจากปัญหาหมอกควันในภาคเหนือ คือ เขาเผาพื้นที่เพื่อนำไปปลูกข้าวโพด และยางพารา ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาน้ำท่วมในช่วงฤดูฝน และน้ำจะแล้งมากในฤดูแล้ง เพราะป่าเป็นตัวดูดซับน้ำในอ่างเก็บน้ำธรรมชาติ รัฐบาลได้จัดงบเงินกู้ 3 แสนล้าน และประมาณหลายหมื่นล้านนำไปปลูกป่า แต่ปรากฏว่าที่จะนำไปปลูกป่าคือเอาต้นกล้าไปปลูกในพื้นที่ที่เป็นป่าอยู่แล้ว ถามว่าจะได้ประโยชน์อะไร แต่พื้นที่ที่ถูกบุกรุกเป็นหมื่นๆ ไร่ หากไม่เร่งทำก็จะเกิดความเสียหายอย่างมหาศาล

ทั้งนี้ ตนได้ไปแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีต่ออธิบดีกรมป่าไม้ และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ฐานละเลยต่อหน้าที่ อาจจะผิดต่อมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญาที่ระบุว่า หากราชการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จะมีความผิด ที่สถานีตำรวจภูธร อ.เมือง จ.แพร่ และสถานีตำรวจภูธร อ.ร้องกวาง เพื่อที่จะได้ออกมารักษาป่าไม้อย่างจริงจัง ตนอยากเสนอว่า ต่อไปคนจะมาทำหน้าที่เป็นอธิบดีกรมป่าไม้ น่าจะทำสัญญาก่อนเข้ารับตำแหน่งว่าจะต้องเพิ่มพื้นที่ป่าและรักษาป่าให้ได้ให้ได้ตามยอดที่ได้ระบุไว้

“ขณะนี้ป่าไม้หายไปปีละประมาณ 1.6 ล้านไร่ ซึ่งแนวทางการแก้ไขนั้นควรหยุดยั้ง และฟื้นที่ให้เป็นไม้ยืนต้น เช่น ไม้สัก ไม้ตะแบก และให้ชาวบ้านเข้ามารับจ้างปลูก ถางหญ้า เพราะหากปล่อยให้ปลูกข้าวโพดต่อ พอเกิดปัญหาน้ำท่วมจะสร้างความเสียหาย 1 ล้านล้านบาท จากรายได้ในการปลูกข้าวโพดในเขตภูเขาประมาณ 2 หมื่นล้านบาท เอาเงินที่รัฐบาลจะนำไปช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ควรเอาไปจ้างชาวบ้านให้ช่วยปลูกป่าจะดีกว่า” นพ.ทศพรกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น