xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว” เคลียร์ผู้พิพากษาช่วยพ้นคดี ถ้าไม่เพี้ยนก็ถือว่าใหญ่จริง!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

วันก่อนได้เคยชี้ให้เห็นถึงอาการร้อนรนแบบนั่งไม่ติดของ “ทักษิณ ชินวัตร” หลังจากเริ่มมีเสียงโวยวายออกมาจากคนเสื้อแดงปลายแถว ทั้งจากบ้านนอกและในเมือง พวกที่ไร้ประโยชน์จนต้องติดคุกไปตามยถากรรม ไร้คนเหลียวแล ไม่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทยไปใช้ตำแหน่งประกันตัว ที่สำคัญไม่มีเงินที่ควักจากกระเป๋าของทักษิณเลยสักบาทเดียว ทั้งที่คนพวกนั้นมาเจ็บ มาตาย มาติดคุก เพื่อเขา และทำให้ครอบครัวของเขาได้ประโยชน์ทั้งอำนาจและผลประโยชน์อยู่ในปัจจุบัน

ต่างจากพวกหัวโจกมีชื่อ ที่มีประโยชน์มีความหมายต่างได้รับการช่วยเหลืออุ้มชูตามลำดับความสำคัญ บางคนได้ดิบได้ดีถึงขั้นเป็น “เสนาอำมาตย์” มีโอกาสเปลี่ยนแปลงฐานะ มีทรัพย์สินเงินทองนับสิบล้านร้อยล้านบาท เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า

มิหนำซ้ำเวลานี้กำลังจะ “ลืมอดีต” หันไปปรองดองกับอำมาตย์ หน้าตาเฉย หรือพวก “หัวโจกไพร่กลายพันธุ์” ก็เปลี่ยนใจเอาดื้อๆบอกว่าตอนนี้ไม่อยากรู้แล้วว่า “ใคร”อยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ไม่โกรธแล้ว ทั้ง “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ รวมทั้ง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ตรงกันข้ามกลับชื่นชมยินดีเสียอีกทำนองว่าเป็นคนเสียสละมองการณ์ไกล ว่าเข้าไปนั่นเสียอีก

กลายเป็นว่าคำว่า “สองมาตรฐาน” ที่เคยกล่าวหาคนอื่น กลับเป็นสิ่งที่ฝ่ายตัวเองนั่นแหละกำลังดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะกับคนเสื้อแดงที่ ทักษิณ ตีค่าไม่เท่ากัน และด้วยเหตุดังกล่าวทำให้เกิดเสียงโวยวายตามมา ซึ่งหากมองในมุมนี้ก็ทำให้ “ทักษิณ” เริ่มนั่งไม่ติด เพราะในขณะที่กำลังปรองดองกับฝ่ายอำมาตย์กำลังไปได้ดี ใกล้ถึงจุดหมายอยู่แล้ว แต่ดันมีอีกพวกหนึ่งที่ยังไม่ได้รับผลประโยชน์ออกมาโพนทะนา ทำให้ต้องรีบออกมากลบกระแสความไม่พอใจเสียก่อน การบอกว่ากำลังเคลียร์กับผู้พิพากษาเพื่อช่วยให้ปล่อยตัวคนเสื้อแดง โดยเฉพาะในเรื่องประกันตัวออกมา มีการบอกว่าถ้าใครไม่มีเงินก็จะควักออกไปให้ก่อนนั้น เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความจริงแบบ “สองมาตรฐาน” แบบโกหกกันอย่างหน้าด้านๆ ที่สุด เพราะถ้าพิจารณากันในความเป็นจริงคนเสื้อแดงปลายแถวเหล่านี้ต้องต่อสู้คดีกันตามลำพัง มานานเป็นปี แต่ไม่เคยมีใครไปเหลียวแล ไม่เคยมี ส.ส.พรรคเพื่อไทยใช้ตำแหน่งประกันตัวออกมา รวมทั้งไม่เคยเห็น ทักษิณ และคนครอบครัว “โยนเศษเงิน” ลงมาเจือจานคนพวกนี้เลย ตรงกันข้ามกับพวกหัวโจกคนสำคัญที่ต่างได้รับการดูแลอย่างดี ดังนั้นถ้าจริงใจจะช่วยทำไมไม่ช่วยพวกเขาตั้งแต่แรก ทำไมเพิ่งมาพูดเอาใจกันตอนนี้

เมื่อวกกลับมาถึงเรื่องคำพูดของทักษิณ ที่กล่าวว่ากำลังเคลียร์กับผู้พิพากษา เพื่อช่วยเหลือเรื่องคดีของคนเสื้อแดง นอกเหนือจากเรื่องการกล่าวเพื่อเอาใจ และสร้างความหวังให้กับบรรดาคนพวกนี้ไม่ให้เกิดอารมณ์โกรธเพื่อจะได้หลอกใช้ต่อไปแล้ว อีกด้านหนึ่งเมื่อแนวทางการปรองดองในแบบที่ทำให้ตัวเองพ้นผิดกำลังลุ้นอยู่จะสำเร็จอีกไม่กี่วันข้างหน้า ก็ต้องรีบออกมาตัดเกมเสียก่อน ก่อนที่จะบานปลายจนเสียการใหญ่

อย่างไรก็ดี หากตัดเอาเรื่องการดับความไม่พอใจของคนเสื้อแดงปลายแถวออกไปแล้ว มาพิจารณาเฉพาะสาเหตุคำพูดดังกล่าวของทักษิณ ที่บอกว่า “กำลังเคลียร์กับผู้พิพากษา” นั้น ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะในเมืองไทยถ้าลองใครสามารถพูดว่าสามารถเคลียร์กับผู้พิพากษาได้รับรองว่าต้อง “ใหญ่จริง” และยิ่งบอกว่าจะเคลียร์ให้ทั้งหมดมันก็ยิ่งต้องน่าติดตามมากขึ้นไปอีก เพราะเพียงแค่คดีเดียวหรือสองคดีก็ขนหัวลุกพอแล้ว นี่จะ “ปลดปล่อย” ทุกคดี หรืออย่างน้อยได้รับการประกันตัวกันทุกคนลองคิดดูก็แล้วกันว่า “ใหญ่แค่ไหน” ในประเทศนี้จะมีสักกี่คนที่ทำได้ ดังนั้นถ้าพิจารณาจากคำพูดอย่างเดียว ไม่ต้องดูเรื่ององค์ประกอบอื่นๆ ก็ต้องชูนิ้วให้เขา ว่า “เจ๋งจริง” และความหมายก็คือเขาได้คุมทุกอย่างเอาไว้ในมือหมดแล้ว และ “ขอโทษที่ต้องตั้งคำถามว่า เวลานี้เขาสั่งผู้พิพากษาได้แล้ว” อย่างนั้นหรือ

แต่อีกด้านหนึ่งหากพิจารณาจากให้รอบด้าน มันก็เป็นไปได้ว่า นี่คืออาการของ “คนเพี้ยน” ขี้โม้พูดอะไรเรื่อยเปื่อยตามสันดาน เพราะที่ผ่านมาหากจำกันได้ก็เคยมีกรณี “ถุงขนม 2 ล้าน” หิ้วไปกลางศาลจนทนายความของ ทักษิณ ชินวัตร ต้องติดคุกถึง 6 เดือนฐานละเมิดศาล มีตัวตนปรากฏให้เห็นชัดๆ ขณะเดียวกันตัวเองยังเอาตัวไม่รอด ยังถูกตัดสินจำคุก 2 ปี ในคดีที่ดินรัชดา และถูกออกหมายจับในคดีทุจริตและอาญาอีกเป็นพรวนจนต้องหลบหนีระเหเร่ร่อนมาจนถึงทุกวันนี้

ดังนั้น ถ้าพิจารณาจากทั้งสองด้านมาประกอบกัน ก็ถือว่าคนอย่างทักษิณ กำลังใช้มุกเก่าๆ ทางการตลาด เพื่อปลุกกระแส สร้างความหวังให้กับลิ่วล้อ ไม่ให้ตีจาก กลบเกลื่อนความเห็นแก่ได้ ใช้ “สองมาตรฐาน” กับพวกเดียวกันเอง โดยให้ความสำคัญเฉพาะคนที่มีประโยชน์แบบนักธุรกิจที่เน้นผลกำไรอย่างเดียว ใครที่ไม่ประโยชน์หรือทำให้ขาดทุนก็โละทิ้งไม่ให้ความสำคัญ กรณีคนเสื้อแดงก็เหมือนกันเวลานี้มีสองประเภทนั่นคือมีทั้งใช้งานได้และพวกที่ “เป็นภาระ” ซึ่งอย่างหลังนี่แหละที่เริ่มมีเสียงโวยวายเล็ดลอดออกมาดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้นั่งไม่ติดต้องรีบออกมาเบรกเสียก่อน เพราะถ้าไม่รีบสร้างความหวังว่า “ช่วยได้” แต่ให้รอไปก่อน แล้วคนเสื้อแดงพวกนั้นเกิดสติแตก เดี๋ยวจะยุ่ง งานใหญ่ที่กำลังเดินหน้าจะพังกันหมด!!
กำลังโหลดความคิดเห็น