ดุสิตโพล ปชช.สนข่าวงาน “ปู” ไม่อยากรู้นักการเมืองกัดกัน

สวนดุสิตโพล เผย ชาวบ้าน 18 จังหวัดหัวเมือง 95.04% ติดตามข่าวการเมืองมากสุด 62.55% อยากรู้ข่าวการทำงานนายกฯ 64.32% ไม่อยากรู้นักการเมืองกัดกัน 53.89%เมินข่าวเศรษฐกิจตกต่ำ 59.27% สนข่าวปราบยาเสพติด 51.43% อยากรู้นโยบายการศึกษา 62.65% เบื่อใส่สีตีข่าวบันเทิง 49.28% ไม่อยากรู้เรื่องลับนักกีฬา

วันนี้ (25 มี.ค.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯ และประชาชนที่อาศัยอยู่ตามหัวเมืองจังหวัดต่างๆ รวม 18 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 1,533 คน ถึงการบริโภคข้อมูลข่าวสาร สรุปว่า ข่าวสาร ประเภทที่ประชาชนสนใจติดตามมากที่สุด 95.04% การเมือง 93.93% เศรษฐกิจ 79.65% สังคม 78.15% การศึกษา 70.97% บันเทิง และ 65.84% กีฬา

เมื่อถามถึงข่าวสารด้านการเมืองที่ประชาชน อยากรู้ 62.55% การทำงาน และการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรี 15.22% การดำเนินคดีทางการเมืองกับผู้ที่ทุจริตคอร์รัปชัน 15.07% การสร้างความปรองดองโดยเฉพาะนักการเมือง 3.65% ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีที่ดินรัชดา และ 3.51% การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะเรื่องที่ไม่อยากรู้ 64.32% การทะเลาะเบาะแว้ง ความขัดแย้งแตกแยกของนักการเมือง 11.48% การกล่าวหากันไปมาโดยไม่มีข้อมูลหลักฐาน หรือข้อเท็จจริง 10.03% เกมการเมือง เรื่องที่ไม่มีสาระ ไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคม 9.06% การแฉ ขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัว เรื่องในครอบครัวของนักการเมือง และ 5.11%การชุมนุมเคลื่อนไหวต่างๆ ม็อบประท้วงที่ผิดกฎหมาย

เมื่อถามถึงข่าวสารด้านเศรษฐกิจ ที่ประชาชนอยากรู้ 44.82% การประกาศปรับราคาขึ้น-ลง ของสินค้าทุกประเภท 24.27% การแก้ไขปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชน 13.68% การขึ้นเงินเดือนและค่าจ้างแรงงานต่างๆ 11.91% แนวโน้ม ทิศทางของเศรษฐกิจไทยที่จะดำเนินต่อไป และ 5.32% การค้า การลงทุนในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ขณะเรื่องที่ไม่ได้ยิน 53.89% ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ มีหนี้สินต้องกู้ยืมเงินจากต่างประเทศ 18.23% ราคาผลผลิตตกต่ำ/ส่งออก-นำเข้าขาดทุน 11.53% การขาดความเชื่อมั่นที่จะลงทุนในประเทศไทยของต่างชาติ 8.84% การถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายทุน ผู้ประกอบการหรือต่างชาติ และ 7.51% การถูกเลิกจ้าง ตกงาน สถานประกอบการปิดตัว

เมื่อถามถึงข่าวสารด้านสังคม ที่ประชาชนอยากรู้ 59.27% การปราบปรามยาเสพติด แหล่งผลิต และผู้ค้ารายใหญ่ 26.94% ภัยสังคมต่างๆ วิธีการป้องกันดูแลตัวเอง 6.85% การถ่ายทอดเรื่องราวดีๆ ในสังคม ความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อกัน 4.02% ภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้น เช่น น้ำท่วม หมอกควัน ฯลฯ และ 2.92% ความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีกับสังคมไทย ขณะเรื่องที่ไม่อยากรู้ 53.54% การนำเสนอข่าวที่หดหู่ เศร้า สะเทือนใจ 25.24% การใช้ความรุนแรงในการตัดสินปัญหา การฆ่ากันตาย 10.32% ความเสื่อม ความตกต่ำของสังคมไทย ขาดคุณธรรมจริยธรรม 6.31% ความเสื่อมถอยของศาสนา การผิดวินัยของพระสงฆ์ และ4.59% เรื่องงมงาย ความเชื่อ สิ่งลี้ลับต่างๆ เรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้

เมื่อถามถึงข่าวสารด้านการศึกษา ที่ประชาชนอยากรู้ 51.43% นโยบายด้านการศึกษา เช่น เรียนฟรี แจกแท็บเล็ต 15.96% การปฏิรูปการศึกษา 13.96% การสอบเข้าโอเน็ต เอเน็ต ศึกษาต่อ แอดมิชชัน 9.95% นวัตกรรมทางการศึกษา รูปแบบการสอนสมัยใหม่ และ 8.70% การพัฒนาการศึกษาไทยมุ่งสู่สากล ขณะเรื่องที่ไม่อยากรู้ 31.18% การขาดคุณธรรม จริยธรรม พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของครู 26.18% การศึกษาไทยไม่พัฒนา ล้าหลัง ขาดประสิทธิภาพ 20.88% การทุจริต คอรัปชั่นทางการศึกษา 14.71% การขึ้นค่าเทอมและค่าใช้จ่ายต่างๆในเรื่องการเรียน และ 7.05% พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักเรียน ยกพวกตบตีกัน

เมื่อถามถึงข่าวสารด้านบันเทิง ที่ประชาชน อยากรู้ 41.17% ข่าวซุบซิบดารา ชีวิตรัก ชีวิตส่วนตัว 26.85% ผลงานของศิลปิน ดารายอดนิยม 16.58% การประกาศผลรางวัลต่างๆ 10.63%โปรแกรมภาพยนตร์ ละครใหม่ๆ ที่กำลังจะฉาย และ 4.77% การแสดงคอนเสิร์ตของศิลปิน ดารา นักร้อง ขณะเรื่องที่ไม่อยากรู้ 62.65% เรื่องที่ไม่ได้เป็นเรื่องจริง การใส่สีตีข่าว 27.51% ดาราที่ประพฤติตัวไม่ดี ไม่เหมาะสม ต้องการสร้างกระแส และ 9.84%การฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่างๆ กรณีที่มีการกล่าวหากัน

และเมื่อถามถึงข่าวสารด้านกีฬา ที่ประชาชนอยากรู้ 47.80% การพัฒนาส่งเสริม สนับสนุนกีฬาไทยไปสู่สากล 32.07% ความเคลื่อนไหวของสโมสรกีฬาและนักกีฬา 13.88% โปรแกรมการแข่งขัน ผลการแข่งขันกีฬาที่ชื่นชอบ 5.62% การแข่งขันกีฬาระดับโลก กีฬาโอลิมปิก และ 0.63% บทลงโทษผู้ที่กระทำความผิด เช่น นักกีฬา โค้ช ผจก.ทีม ขณะเรื่องที่ไม่อยากรู้ 49.28% เรื่องส่วนตัว ปัญหาส่วนตัวที่ไม่อยากเปิดเผย 37.32% การพนันฟุตบอล ชกมวย แข่งม้า ฯลฯ และ13.40% การทะเลาะกันของกองเชียร์ทีมต่างๆ