ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ตั้งข้อสังเกต “นช.แม้ว” เจรจาผู้พิพากษขอปล่อยตัวเสื้อแดง สะท้อนความพยายามแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เย้ยชอบทำตัว 2 มาตรฐาน อย่าไปหวังแผนปรองดองจะสำเร็จ วอนสถาบันตุลาการออกโรงแจงสร้างความมั่นใจกับ ปชช.
วันนี้ (25 มี.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โฟนอินมายังเวทีเสื้อแดง แล้วบอกว่ากำลังพูดคุยกับผู้พิพากษาเพื่อปล่อยตัวคนเสื้อแดงที่กำลังถูกคุมขัง และจะกลับบ้านอย่างเท่ๆ ไม่มีความผิดนั้น ถ้ามองเผินๆ ก็อาจจะเป็นแค่การปราศรัยหลอกคนเสื้อแดงไปวันๆ เพราะความสัมพันธ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และแกนนำ นปช.เริ่มถูกมวลชนเสื้อแดงหลายกลุ่มตั้งคำถามว่า แค่ใช้คนเสื้อแดงเป็นเครื่องมือเข้าสู่อำนาจ สัญญาประชาคมเรื่องแก้ความเหลื่อมล้ำในสังคมไม่มีความชัดเจน และความคืบหน้าจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ซ้ำร้ายหลายนโยบายของรัฐบาลไปเอื้อกลุ่มทุนพวกพ้องอย่างเห็นได้ชัด
นายสุริยะใส กล่าวว่า หากเรื่องพูดคุยกับผู้พิพากษามีมูลความจริง ก็น่าเป็นห่วงบ้านเมือง เพราะในช่วง พ.ต.ท.ทักษิณ เรืองอำนาจก็พยายามทุกวิถีทางที่จะแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม แม้ในช่วงหนีอยู่นอกประเทศก็ยังพยายามติดสินบนศาลกรณีที่ทนายความนำถุงเงิน 2 ล้านไปวางหน้าบัลลังก์ ก็เคยทำมาแล้ว ยิ่งไม่ใช่เรื่องแปลกในยุคที่มีน้องสาวเป็นนายกฯ และมีรัฐบาลนอมินี ความพยายามแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมจึงเป็นเรื่องที่สังคมต้องจับตามองเป็นพิเศษ และก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวต่างประเทศก็บอกว่าจะกลับเมืองไทย ไม่จำเป็นต้องแก้รัฐธรรมนูญก็ทำได้
“พฤติกรรมคุณทักษิณที่กล่าวหาศาลไทย 2 มาตรฐาน แต่ตัวเองกลับทำเสียเอง ชาวบ้านทั่วไปเมื่อโดนคดีความต้องขึ้นศาล แต่ถ้าเป็นคดีตัวเองและพวกพ้องจะใช้วิธีพูดคุยเจรจากับผู้พิพากษา สังคมไทยยังจะหาวิธีปรองดองกับคนที่มีความคิดแบบนี้ได้อีกหรือ” นายสุริยะใสกล่าวและว่า
หลังรัฐประหาร 19 กันยา 49 สังคมไทยคาดหวังกับกระบวนการตุลาการภิวัฒน์ เพื่อทำความจริงให้ปรากฏและนำหลักนิติรัฐและนิติธรรมพาสังคมไทยคืนสู่ความสงบ จนทำให้เราได้เห็นเบื้องหลังของความจริงจากการใช้อำนาจที่ทุจริตเอื้อประโยชน์เครือญาติและพวกพ้องของคุณทักษิณในหลายๆ กรณี ฉะนั้นถ้าคุณทักษิณจะกลับเข้าประเทศอย่างเท่ๆ ตามที่พูด ก็ต้องสลายป้อมค่าย ตุลากาภิวัฒน์ เพราะป้อมค่าย คมช.ถูกสลายไปเรียบร้อยแล้ว จึงเห็นว่าเรื่องนี้มีความจำเป็นที่ทางศาลสถิตย์ยุติธรรมจะต้องชี้แจงกับประชาชนเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะไม่มีการแทรกแซงในคดีความที่เกี่ยวเนื่องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และเครือข่าย