“นพดล” ยัน “นช.แม้ว” ไม่ได้ถูกจับที่อิตาลี โวหลัง พท.ชนะเลือกตั้งทุกประเทศทั่วโลกต้อนรับเป็นอย่างดี บอกไม่แปลกใจ ปชป.ขวางผลวิจัย สถาบันพระปกเกล้า ย้อนถามเราจะทนรับผลพวงจากการรัฐประหารหรือ เหน็บ “อภิสิทธิ์” จ้องเล่นงาน “ทักษิณ” ด้วยผลไม้ที่เกิดจากต้นไม้พิษ
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เปิดเผยว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ประเทศอิตาลี เข้าใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปทำธุระที่ประเทศมอนเตเนโกร และก็เลยแวะไปพักผ่อนที่ประเทศอิตาลี ซึ่งอยู่ใกล้กัน ยืนยันว่า ไม่มีการถูกจับ หรือถูกกักตัวอะไรทั้งสิ้น ข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์ปูดออกมา เป็นการจับแพะชนแกะเหมือนเคย พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้อยู่ในบัญชีดำของอินเตอร์โพลตามที่บางฝ่ายพยายามกล่าวหา
ก่อนหน้านี้ สมัยที่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาลก็มีความพยายายามกดดันประเทศต่างๆ ไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศ ทั้งยังส่ง นายกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ เที่ยวไล่ล่าจับตัว แต่ก็ไม่สำเร็จ วันนี้ รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นฝ่ายเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชนะการเลือกตั้ง ก็ยิ่งไปไหนมาไหนได้สะดวก ทุกประเทศทั่วโลกต้อนรับเป็นอย่างดี ท่าทีเปลี่ยนไปมากเมื่อเห็นผลการเลือกตั้งที่สะท้อนว่าคนไทยยังให้การสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างล้นหลาม
นายนพดล ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร นำรายงานการวิจัยของสถาบันพระปกเกล้าไปดำเนินการตามคำแนะนำ แต่พรรคประชาธิปัตย์แสดงความไม่เห็นด้วย และขอให้มีการทบทวนว่า เดิมทีพรรคประชาธิปัตย์ก็เห็นด้วยที่จะให้สถาบันที่มีความเป็นอิสระ มีชื่อเสียง และประกอบไปด้วยนักวิจัยที่มีความรู้ เช่นสถาบันพระปกเกล้า เป็นผู้ศึกษาแนวทางปรองดอง เมื่อวันนี้ผลวิจัยออกมาอย่างไรก็ควรให้เกียรติ ไม่ใช่พอออกมาไม่ตรงกับความต้องการของตัวเอง ก็ออกมาดิสเครดิต จ้องทำลายงานวิจัยดังกล่าว เข้าทำนองเขียนด้วยมือลบด้วยเท้า
ส่วนตัวมองว่า สถาบันพระปกเกล้าดำเนินการไปตามหลักวิชาการ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับใคร และมั่นใจว่าไม่ได้รับใช้ฝ่ายใด อย่างไรก็ตามการที่พรรคประชาธิปัตย์จะมีจุดยืนเช่นนี้ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะไม่ว่าเรื่องใด หรือเมื่อใดที่จะมีการให้ความเป็นธรรมแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะมีเสียงคัดค้านแสดงความไม่เห็นด้วยทุกครั้ง เราเข้าใจความรู้สึกได้ เพราะตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าสู่สนามการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ก็แพ้เลือกตั้งตลอด
“ประชาธิปไตยคงทำให้ทุกคนเห็นด้วยอย่างเอกฉันท์ไม่ได้ ดังนั้น ต้องยึดเสียงข้างมากเป็นแนวทาง แต่ก็เคารพรับฟังเสียงส่วนน้อยด้วย แต่เสียงส่วนน้อยต้องไม่สามารถตีโต้เสียงส่วนใหญ่ได้ วันนี้ต้องถามใจกันว่าเราจะปล่อยให้ความขัดแย้งลึกลงไปมากกว่านี้ หรือจะเริ่มกันใหม่ แม้วันนี้จะยังไม่เห็นความปรองดอง แต่ควรทำอะไรสักอย่าง จะอยู่กันอย่างแตกแยก ทนยอมรับกับผลพวงการยึดอำนาจอย่างนั้นหรือ เรามาทำสัญญานับหนึ่งกันใหม่ดีกว่าหรือไม่”
นายนพดล กล่าวด้วยว่า กรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าคดีที่ดินรัชดาซึ่งมีการตัดสินคืนเงินให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ส่งผลต่อคดีอาญา เพราะคดีแพ่งเป็นเพียงคดีที่สืบเนื่องมาจากคดีอาญานั้น ตนไม่อยากไปโต้แย้งต่อความยาวสาวความยืดว่าจะใช้อาญาหรือแพ่งนำ เพราะมันเป็นคดีความจากผลไม้ที่เป็นพิษ แต่อยากพูดในมุมมองแง่กฎหมายโดยรวมว่า เราไม่สามารถสร้างความชอบธรรมจากกฎหมายภายใต้การรัฐประหารได้เลย เนื่องจากรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดถูกฉีกทิ้งไป และตั้งกติกาขึ้นมาใหม่กันเอง จะให้เคารพเชื่อถือได้อย่างไร
“เมื่อคุณทำลายหลักกฎหมายสูงสุดไปแล้ว จะมาอ้างความชอบธรรมได้อย่างไร สิ่งที่เราพยายามอธิบายประชาชนมาตลอดว่ารัฐประหารเป็นต้นไม้พิษ คตส.เป็นผลไม้พิษ เป็นหลักปรัชญาที่ลึกซึ้งจับต้องได้ บอกเหตุผลว่าทำไมเราไม่เอารัฐประหาร จะให้เราไปเชิดชูสิ่งของที่ได้มาจากการปล้นได้อย่างไร”