รองนายกฯ ยันไม่มีอำนาจย้ายรอง ผบก. ลั่นไม่ได้ตังค์สักบาท ไม่รู้ชายชั้น 7 จุ้น เชื่อ "เพรียวพันธุ์" ก็ไม่รับตังค์ ปัดขอ ก.ตร.ขยายเวลาเพิ่ม ไม่ทราบ "อชิรวิทย์" แฉ ผบ.คนไหนจุ้นโยกย้าย แต่การันตีงวดนี้ไม่มีแน่ เล็งชงสารตั้งต้นยาเสพติดคดีพิเศษจันทร์นี้ รับห้ามนำเข้าสารซูโดอีเฟดรีนไม่ได้เพราะต้องใช้ใน รพ. โวจับได้หมด แย้มฝีมือ ผอ.รพ.,เภสัช
วันนี้ (23 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่ามีการวิ่งเต้นและรับส่วยเรื่องโผโยกย้ายนาย ตำรวจระดับรองผู้บังคับการและสารวัตร มีคนชั้น 7 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าไปเกี่ยวข้อง ว่า ตนไม่มีอำนาจในการแต่งตั้งตำรวจระดับรองผบก. และสาบานว่าเงินซักบาทซักสลึงก็ไม่ได้รับ และไม่ทราบว่ามีชายชั้น 7 เข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะ เรื่องนี้เป็นอำนาจของพล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. และยืนยันว่าพล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ไม่รับเงินแน่นอน เมื่อถามว่า มีข่าวในวันนี้จะมีการเสนอในที่ประชุม ก.ตร.ขอขยายเวลาการ พิจารณาโผโยกย้ายตำรวจระดับรองผบก.ออกไปก่อน เพราะมีเรื่องของการวิ่งเต้นมาเกี่ยวข้อง รองนายกฯกล่าวว่า จะไม่มีการขอขยายเวลา เพราะเรื่องนี้ช้ามานานแล้ว
ส่วนที่มีข่าวพล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อดีตรองผบ.ตร.ในฐานะก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวในการสัมมนา “ตำรวจกับการเมือง” จัดโดยคณะกรรมาธิการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา ระบุตำรวจต้องปลอดการเมืองเข้ามาแทรกแซง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนอ่านข่าวแล้วว่ามีผู้บัญชาการตำรวจบางคนเสนอรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายที่ส่อไปในทางที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ไม่ทราบว่าพล.ต.อ.อชิรวิทย์ หมายถึงใคร เพราะไม่ได้เข้าไปยุ่งเลย ส่วนที่ตนประชุมร่วมกับตำรวจในหลายจังหวัด เป็นการเน้นย้ำเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดและการปราบปรามอาชญากรรม และเน้นย้ำกับผบ.ตร.ไปแล้วว่าเรื่องการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งต้องหมดไป เพราะเมื่อวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง ตำรวจก็ต้องไปหาเงินจากพ่อค้า ทำให้พ่อค้าบางคนที่ทำชั่วสามารถทำได้ต่อไปไปจบสิ้น เชื่อว่าการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ไม่มีการซื้อขายตำแหน่งแน่นอน
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงปัญหายาเสพติดที่แพร่ระบาดในขณะนี้ว่า ที่ผ่านมาไม่มีใครเอาจริง สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำได้ดีมากแต่ก็ถูกกล่าวหาว่าฆ่าตัดตอนทำให้ตำรวจไม่กล้าทำงาน ตนเชื่อว่าทุกคนตั้งใจจะแก้ปัญหาแต่วิธีคิดไม่เหมือนกัน และที่ผ่านมาถือเป็นความโชคดีของประเทศไทยที่ได้รับรู้ว่าสารตั้งต้นที่นำไป ผลิตยาเสพติดมาจากประเทศไทยเพราะจะทำให้เราแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น โดยวันที่ 26 มี.ค.นี้ตนจะนำเรื่องสารตั้งต้นเข้าเป็นคดีพิเศษ ไม่ใช่ไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ที่จะดำเนินการเรื่องนี้ แต่ต้องยอมรับว่าความผูกพันระหว่างตำรวจกับนายแพทย์มีความใกล้ชิดกัน มีความคุ้นเคยกัน แต่หากให้ดีเอสไอทำหน้าที่จะเหมาะสมกว่า ไม่เคยมีใครคาดคิดว่าระดับนายแพทย์ เภสัชจะคิดและดำเนินการเช่นนี้ ตรงนี้ถือว่าเรามาถูกทางแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อรัฐบาลรู้ว่าสารซูโดอีเฟดรีนเป็นสารตั้งต้นทำไมไม่สั่งห้ามนำเข้า ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ลำบากเพราะสารตัวนี้ก็ถือว่ามีความจำเป็นสำหรับใช้ในโรงพยาบาลเหมือนกัน แต่มันอยู่ที่ความประพฤติของคนมากกว่า และขณะนี้ก็มีการดำเนินการอย่างเต็มที่โดยทางกระทรวงสาธารณะสุขได้ส่งให้ กฤษฎีกาช่วยออกกฎเกณฑ์ใหม่ว่าจะดำเนินการอย่างไร เมื่อถามว่า เมื่อมีการออกข่าวเช่นนี้จะทำให้คนที่ยังไม่ถูกจับไหวตัวทันหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไหวตัวก็ตามจับอยู่ดี ยืนยันว่าจะเร่งจับให้หมด ตอนนี้คนที่ทำเวลาเหลือน้อยแล้ว เมื่อก่อนจะตามดักกันเฉพาะต่างประเทศ แต่เมื่อมีการพบว่าสารตั้งต้นมาจากประเทศเราก็จะปราบปรามง่ายแล้ว ตนทำเรื่องนี้มาเงียบๆอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้เคยจับพันตำรวจโทหญิงที่จังหวัดพะเยาอยู่คนหนึ่ง มีกล่องบรรจุยาแล่เม็ดยาหายไป ดังนั้นยืนยันว่าเรามาถูกทางแล้ว
เมื่อถามว่า นอกจากยาซูโดอีเฟดรีนมีการตรวจสอบพบว่ามียากลุ่มอื่นอีกหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะมาสรุปให้ตนฟัง เมื่อถามว่า ได้มีการวิเคราะห์หรือไม่ว่าการผลิตยาจำนวนมากๆอย่างนี้น่าจะมีประเทศใหญ่ๆซับพอร์ตอยู่ข้างหลังหรือไม่ โดยต้องการปล่อยเข้ามาทำลายเศรษฐกิจของไทย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า วิเคราะห์ยาก ตนถึงบอกว่าเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดมันไม่ใช่วาระแห่งชาติ แต่ต้องเป็นวาระแห่งภูมิภาคเนื่องจากประเทศไทยมีกำลังซื้อ เขาถึงผ่านมายังประเทศไทย เพราะใกล้
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าประเทศไทยไม่ใช่ประเทศทางผ่านแล้วใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ทางผ่านก็ส่วนหนึ่งแต่ไม่มาก แต่หนักตรงที่เอามาเสพกันเอง เมื่อถามว่า หลายจังหวัดที่จับกุมได้พิสูจน์ได้หรือยังว่าเป็นเครือข่ายเดียวกันหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจน แต่คิดว่าน่าจะเป็นลักษณะของการต่างคนต่างทำ อยากรวยก็เลยทำ อยากรวยก็เลยเห็นแก่ตัวไม่เห็นแก่ประเทศชาติ เมื่อถามว่า รู้หรือยังว่ามีกี่กลุ่ม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า อาชีพรู้แล้วว่า เช่น ผู้อำนวยการโรงพยาบาล เภสัชฯ แค่นั้น เพราะคนอื่นเอาออกไม่ได้
“สารพวกนี้ตอนสั่งเข้ามานำมาผลิตตามโรงงานต่างๆในประเทศไทย ซึ่งทางราชการก็ให้เกียรติโรงงานผลิต แต่บางโรงงานก็ชั่ว เมื่อผลิตแล้วกลับแอบไปขายในทางลับ ตามโรงพยาบาล อย.คุมได้ แต่ตอนเอาออกไป อย.คุมไม่ได้มันจึงเกิดปัญหา ซึ่งตอนนี้สาธารณะสุขมาถูกทางแล้ว ส่วนทางผมก็ตั้งหลักได้แล้วว่า เมื่อมาจากประเทศเรา ออกจากประเทศเราก็จะง่ายแล้ว ตอนนี้ทุกฝ่ายทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน ผมกับรัฐมนตรีสาธารณสุขประสานงานกันตลอด” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว