โฆษก ปชป.โต้ “ภักดีหาญส์” อ่อนภาษาอังกฤษ หรือด้อยศัพท์ภาคเศรษฐกิจ กรณีสื่อต่างชาติประโคมข่าวบริษัท ฮอนด้า ย้ายฐานการผลิตไปอินโดฯ เพราะไม่มั่นใจแผนรับมือน้ำท่วม รบ.แขวะ มอบตำแหน่งรองโฆษกคณะลิเกน่าจะเหมาะสมกว่า
วันนี้ (21 มี.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกรัฐบาล ออกมาระบุว่า บริษัท ฮอนด้า ไม่ได้มีการย้ายฐานการผลิตไปที่ประเทศอินโดนีเซีย ว่า คำชี้แจงของนายภักดีหาญส์ ที่ว่าบริษัท ฮอนด้า ไม่ได้ย้ายฐานการผลิตนั้น ตนก็ไม่ทราบว่า นายภักดีหาญส์ อ่อนภาษาไทย ภาษาอังกฤษ เพราะสิ่งที่ตนพูดไป เมื่อวานนี้เป็นเรื่องของการรายงานข้อเท็จจริงว่า บริษัท ฮอนด้า ได้มีการขยายการลงทุน และเพิ่มเม็ดเงินสร้างโรงงานในประเทศอินโดนีเซียถึงกว่า 1 หมื่นล้านบาท เพื่อผลิตรถยนต์ ซึ่งก็เป็นข้อเท็จจริงทั้งสิ้น และไม่มีเรื่องใดเลยที่เป็นการไปกล่าวอ้าง ควรทำความเข้าใจกับศัพท์ภาษาไทย หรือศัพท์เศรษฐกิจในเรื่องของการย้ายฐานการผลิต กับการย้ายฐานการลงทุน เพราะการที่บริษัท ฮอนด้า ไปลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย แทนที่จะขยายการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งมีความพร้อมและมีโรงงานอยู่แล้ว คนเป็นรองโฆษกรัฐบาลควรจะนำไปวิเคราะห์ว่าเกิดจากเหตุใด บริษัท ฮอนด้า ถึงได้ย้ายฐานการลงทุนไปยังเพื่อนบ้านของไทยในอาเซียน เพราะหากว่าเราแสดงถึงความพร้อมในการรับการลงทุน หรือสร้างความมั่นใจ ให้กับเขาอย่างเพียงพอในเรื่องการป้องกันน้ำท่วม
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า แถลงการณ์ของบริษัท ฮอนด้า เอง ซึ่งเป็นคำกล่าวของนายฮิโรชิ โคบายาชิ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารสำนักงานภูมิภาคของบริษัท ฮอนด้า ที่ยืนยันว่า การลงทุนในอินโดนีเซียนั้น จะเป็นการสร้างบทบาทให้ประเทศอินโดนีเซียเป็นฐานการผลิตใหญ่ของบริษัท ฮอนด้า รวมทั้งจะมีการขยายการลงทุน และจะเป็นผู้ส่งออกหลักทั้งในส่วนของรถยนต์และชิ้นส่วน คำพูดอย่างนี้ไม่ก่อให้เกิดความละอายใจแก่รัฐบาลไทยบ้างหรือ มากไปกว่านั้น ในรายงานของบริษัท ฮอนด้า เอง ก็พูดชัดว่า หลังจากมีการสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่ประเทศอินโดนีเซียเสร็จในปี ค.ศ.2014 แล้ว ก็จะมีการผลิตรถยนต์ Eco car เพิ่มเติม เช่น รุ่น Brio หรือ freed, CRV หรือ ฮอนด้า Jazz ที่โรงงานแห่งใหม่ในอินโดนีเซีย ซึ่งจะเป็นโรงงานหลักที่จะส่งออกรถยนต์ไปทั่วโลกของบริษัท
“ผมจึงไม่แน่ใจว่า นายภักดีหาญส์ มีปัญหา หรืออ่อนด้อยความรู้ในเรื่องใด จึงออกมาตอบโต้ ด้วยคำพูดไร้สาระ แทนที่จะเอาเวลาไปสร้างประโยชน์ สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างชาติ ดังนั้น ถ้าคิดว่าตัวเองไม่พร้อมอย่ามาเป็นรองโฆษกด้านเศรษฐกิจ ไปหาตำแหน่งรองโฆษกตามคณะลิเก น่าจะเหมาะสมกว่า” นายชวนนท์ กล่าว