เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 น้ำท่วมก็บอกว่า “อำมาตย์-อำนาจเก่า” แกล้งปล่อยน้ำในเขื่อนใหญ่ลงมาทำน้ำท่วมเสียหายย่อยยับ มาวันนี้หลังจากน้ำมันขึ้นราคาพรวดๆแทบทุกสัปดาห์ เบนซิน 91ราคาลิตรละ 42.58 ดีเซลทะลุไปถึงลิตรละ 32.33 บาท และมีกำหนดจะต้องปรับขึ้นไปทุกวันศุกร์รวมทั้งทุกวันที่ 16 ของเดือน อ้อราคาน้ำมันแบบนี้เป็นราคาเฉพาะในกรุงเทพฯและปริมณฑลเท่านั้นนะ พี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัดยิ่งอยู่ห่างไกลออกไปก็ยิ่งแพงกว่านี้อีก เพราะต้องบวกค่าขนส่ง ซึ่งราคาน้ำมันแพงแบบนี้แหละที่เป็นต้นทุนหลักของสินค้าทุกอย่าง ที่ผ่านมาขนาดน้ำมันไม่ขึ้นพ่อค้าก็อ้างโน่นอ้างนี่ แพงเอาๆ ทีนี้พอน้ำมันปรับราคาขึ้นไปไม่หยุดแบบนี้มันจะไปเหลืออะไร
00 ยิ่งมาเจอกับนโยบาย “ประชานิยม” บิดเบือนความจริง มันก็ยิ่งไปกันใหญ่ แถมส่วนใหญ่จะล้มเหลวสร้างความเสียหายในระยะยาว โดยเฉพาะโครงการจำนำข้าวที่ตั้งราคาสูงกว่าตลาด และต้องใช้เงินงบประมาณมหาศาลเข้าไปแบกภาระ แต่ในที่สุดทำให้ไทยส่งออกข้าวสู้ประเทศคู่แข่งไม่ได้เพราะ “แพงกว่า” ขณะเดียวกันเมื่อสำรวจบรรดาสินค้าเกษตรอื่นๆทั้งมันสำปะหลัง อ้อย หอม กระเทียมสารพัด ที่ปลูกในพื้นที่ภาคอีสาน กลาง เหนือ ต่างราคาตกต่ำติดดิน หรือแม้แต่โครงการจำนำข้าวที่ประกาศเอาไว้เกวียนละ 15,000 บาท เอาเข้าจริงพวกพ่อค้าโรงสีก็อ้างว่า “ความชื้น” เกิน 15 เปอร์เซ็นต์ ถ้าจะขายก็ให้แค่หมื่นบาทเศษเท่านั้นจะเอาหรือไม่เอา ฮ่วย !!
00 ความจริงเหล่านี้กำลังปรากฏออกมา “ประจาน” ให้เห็นเรื่อยๆ มันก็ช่วยไม่ได้ที่เวลานี้บรรดาคนในรัฐบาลต่างพยายาม “กลบ” เรื่องของแพงเอาไว้อย่างเต็มที่ โดยใช้วิธีแบบเดิมๆคือ แถไปว่ามีการ “ปั่นกระแส” เกินจริง มิหนำซ้ำยังพูดสวนทางกับความรู้สึกอีกว่า “ของไม่แพง” อีกต่างหาก เวลานี้เท่าที่เห็นนอกจาก นายกฯปูนิ่ม ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ยืนยันเสียงแข็งว่าของไม่แพงเมื่อเทียบกับรัฐบาลชุดที่แล้ว ยังดีที่ไม่ใช้คำว่า “ของถูกกว่า” ล่าสุดก็ส่งโฆษกส่วนตัวคนใหม่ สุรนันทน์ เวชชาชีวะ ออกมาตอกย้ำว่าฝ่ายตรงข้ามใช้เรื่องข้าวของแพงมาทำลายว่างั้นเถอะ หมายความว่าเวลานี้ สิ่งที่ชาวบ้านเห็น และกำลังประสบอยู่นั้นมันไม่จริงใช่มั๊ย ก็ขอให้คิดแบบนี้ตลอดไปก็แล้วกัน
00 เรื่องพาแม้ว กลับบ้านนี่มันทำให้หลายคน ร่ำรวย สร้างอาชีพทำมาหากินได้จริงๆ อย่างล่าสุดถึงคราวของ “หัวโจก”แดง อย่างขวัญชัย ไพร่พนา เอ้ย ไพรพนา(สาราคำ) ก็เอาบ้างประกาศขอนำลูกพี่กลับมาบ้าง กำหนดดีเดย์ช่วงวันสงกรานต์หลังจากเห็นช่องทางที่ดอดเข้ามารดน้ำดำหัวที่เวียงจันทน์ประเทศลาว อยากทำอะไรก็ทำไป อยากเด่นอยากสร้างกระแสช่วงชิงการนำแย่งความสำคัญกันเองในหมู่หัวโจกก็ว่ากันไป อยากมาก็มาไม่มีใครห้าม แต่ต้องมาติดคุก 2 ปี แล้วมีอีกหลายคดีที่คาอยู่ในศาล อย่ามาเอาเปรียบคนอื่นก็แล้วกัน
00 มองลงไปทางชายแดนใต้ต้องยอมรับว่าเริ่มเข้าขั้น “วิกฤติ” ทุกขณะ ลักษณะการก่อเหตุร้ายระยะหลังแม้ว่าถ้าพิจารณาจากสถิติการก่อเหตุจะน้อยครั้งลง แต่สังเกตหรือไม่การก่อเหตุที่เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่หนักแน่นเป็นเนื้อเป็นหนัง มีผลทางยุทธศาสตร์ทั้งสิ้น เพราะล้วนแล้วแต่มุ่งเข้ามาในเมือง ทำร้ายเจ้าหน้าที่แบบหวังผลได้แทบทุกครั้ง สถานการณ์ที่พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆทำให้เริ่มคิดกันไปไกลแล้วว่ามี “มหาอำนาจ” จากภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องจงใจป่วนไม่ต้องการให้ “สงบ” เพราะมีทรัพยากรด้านพลังงานเป็นต้นตอหรือเปล่า ขณะเดียวกันระยะหลังก็เริ่มมีการพูดถึง “เขตปกครองพิเศษ” กันถี่ยิบมากขึ้น ก็ฝาก รองนายกฯ ยุทธศักดิ์ ศศิประภา อย่าหลงลมมองอะไรตื้นๆ ที่สำคัญควรหุบปากเอาไว้ให้แน่นจะดีกว่า อ้อ เวลาลงใต้อย่าลืมชวน นายกฯปูนิ่มลงไปดูใจชาวบ้านและเจ้าหน้าที่บ้าง !!
00 มาแล้ว ธีรยุทธ บุญมี “ขาประจำ” ของ เครือข่าย ทักษิณ ล่าสุด ออกมาวิพากษ์การเมืองในยุค รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้อย่างแสบสันต์เช่นเคย ซึ่งคอการเมืองคงไม่ผิดหวังพูดไปก็แค่นั้นรู้กันอยู่แล้ว แต่สรุปโดยรวมก็คือ ต้นตอของปัญหาทุกอย่างอยู่ที่ “หน้าเหลี่ยม” แต่ที่ไม่สนุกทุกครั้งก็เห็นจะเป็นพวกคนในซีกรัฐบาล รวมไปถึงพรรคเพื่อไทยที่ต่างออกมาดักคอ “ชิงลงมือ” ถล่มล่วงหน้าหาว่ามี “วาระซ่อนเร้น” เลือกวิจารณ์ทีรัฐบาลมาร์คเห็นนิ่งเฉยก็ว่ากันไป แต่มองอีกด้านหนึ่งการออกมาเคลื่อนไหวแบบ “สะดุ้ง” ไว้ก่อนมันก็แสดงให้เห็นว่า เสียงของ ขาประจำคนนี้มันสร้างความสั่นสะเทือนได้ไม่เบาจริงๆ!!