“อภิสิทธิ์” ค้านข้อเสนอ “วัฒนา” ให้ กมธ.ปรองดองลงมติข้อเสนอสถาบันพระปกเกล้า เชื่อเป็นการสร้างความขัดแย้งมากกว่าปรองดอง จวกอย่าเอา “ทักษิณ” เป็นตัวตั้ง ซัด “แม้ว” ไม่มีหลักคิด หลังให้ รบ.ซื้อพันธุ์ข้าวจาก ตปท. เตือนรัฐบาลอย่าอ้างกลไกตลาดทำสินค้าราคาแพง ราคาน้ำมันพุ่งไม่หยุด
วันนี้ (15 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่นายวัฒนา เมืองสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางสร้างความปรองดองแห่งชาติ มีแนวคิดว่าหาก กมธ.ปรองดอง ไม่ได้ข้อสรุปในรายงานของสถาบันพระปกเกล้าก็กรรมาธิการลงมติว่า ตนเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แนวทางที่ควรจะเป็นตามวัตถุประสงค์แนวทางปรองดอง ในเรื่องนี้เห็นว่าจะต้องไม่เป็นการสร้างความขัดแย้งในเกิดขึ้นใหม่ ขอให้นายวัฒนาทบทวนและอย่าเอา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มาเป็นตัวตั้ง อย่างไรก็ตาม หากกรรมาธิการทางฝั่งพรรคเพื่อไทยยังยืนยันที่จะให้มีการลงมติ พรรคประชาธิปัตย์ก็จะคัดค้านให้ถึงที่สุด นอกจากนี้ก็จะมีการไปพูดคุยกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน กมธ.ปรองดอง ว่าจะต้องไม่ใช่วิธีการเช่นนี้
ส่วนที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ กมธ.ปรองดอง ได้ทำหนังสือไปถึงสถาบันพระปกเกล้า เพื่อขอให้ทบทวนผลการวิจัยแนวทางการสร้างความปรองดอง ที่เสนอต่อ กมธ.มาก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ได้คุยกับนายนิพิฏฐ์ แต่จากการที่ได้คุยกับนายวุฒิสาร ตันไชย รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ก็ทราบว่าในเรื่องผลการวิจัยดังกล่าวก็ยังเป็นร่างอยู่ ซึ่งอาจจะมีการแก้ไขปรับเปลี่ยนใหม่ร่างได้ ตนก็เชื่อว่านายวัฒนาไม่สามารถแทรกแซงได้ และหากมีการใช้วิธีการลงมติจริงก็อาจจะไม่เกิดความปรองดอง ขณะที่มีข่าว ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะเดินทางไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประเทศกัมพูชานั้น ตนไม่ทราบว่าในบรรดา ส.ส.ที่ไปจะมีผู้ที่เป็น กมธ.ปรองดอง รวมอยู่ด้วยหรือไม่ เพราะเรื่องของการเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มีมาโดยตลอด นอกจากนี้ ตนเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีส่วนให้เกิดการชี้นำ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
เมื่อถามถึงบทบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อสายตาต่างประเทศ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มีความชัดเจนแล้วว่า ไม่ว่าคนของรัฐบาลจะมีการแสดงความคิดเห็นในเรื่องใด ก็ดูเหมือนจะเป็นการตอบสนองความต้องการให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งผลจะออกมาเป็นเช่นไรก็ขอให้รัฐบาลรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น หากมีการกระทำผิดกฎหมายก็จะต้องถูกดำเนินการ เพื่อผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นแก่ประเทศชาติ
ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีปัญหาสินค้าราคาแพง ที่ทางรัฐบาลออกมาชี้แจงว่าเป็นกลไกทางการตลาดว่า เรื่องนี้ประชาชนก็ทราบดีว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะของเรื่องราคาน้ำมันที่มีราคาเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ ตนขอให้รัฐบาลหยุดความพยายามที่จะทำเกิดความสับสน แล้วหันกลับมาแก้ไขปัญหาจะดีกว่า ในส่วนของนโยบายในเรื่องการบริหารจัดการกองทุนน้ำมันตนเห็นว่ารัฐบาลก็ยังมีโครงสร้างที่สับสนและไม่สามารถตอบโจทย์ได้ว่า จะให้ความเป็นธรรมกับผู้บริโภคอย่างไร ซึ่งหากยังเป็นเช่นนี้ก็จะทำให้ประชาชนเกิดความสับสนและส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อเศรษฐกิจในภาพรวม ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุว่าให้รัฐบาลไปซื้อพันธุ์ข้าวใหม่มาจากต่างประเทศนั้น ตนเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ และเกรงว่าประเทศไทยจะเกิดการสูญเสียความสามารถในการแข่งขันทางการตลาด ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาระบุเช่นนี้เป็นการคิดที่ไม่หลักคิด
นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงนโยบายการพักหนี้เกษตรกรของรัฐบาลว่า รัฐบาลต้องอธิบายให้ได้ว่ามีเหตุผลอะไรในการดำเนินการในเรื่องนี้ ถ้าเป็นนโยบายทางสังคมก็ต้องมีการดำเนินการให้โปร่งใส จากการที่ตนได้พูดคุยกับคณะรัฐมนตรีเงาของพรรค ก็เห็นว่านโยบายดังกล่าวไม่น่าจะเป็นนโยบายที่ปฏิบัติได้ อย่างไรก็ตาม ตนก็เห็นว่าทำไมรัฐบาลจึงไม่กลับมาใช้โครงการประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งในสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็เคยทำมาแล้ว อีกทั้งตนยังเห็นว่ายังไม่มีเงื่อนไขใดที่รัฐบาลมีความจำเป็นจะต้องกู้เงินจำนวนมากมายมาใช้ภายในประเทศ