xs
xsm
sm
md
lg

จาก “อังคณา” ถึง “นิชา ธุวธรรม” สตรีนักสู้หัวใจน่ากราบ!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อังคณา นีละไพจิตร
ผ่าประเด็นร้อน

ที่ผ่านมาเราได้เห็นบทบาทการเคลื่อนไหวของ นางอังคณา ลีนะไพจิตร ที่ออกมาทวงความยุติธรรมให้แก่สามี คือ ทนายสมชาย นีละไพจิตร ที่ถูก “อุ้มหาย” ไปในยุครัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร เมื่อหลายปีก่อน หลังจากนั้นเธอก็มีบทบาทในเรื่องของการออกมาต่อสู้เรียกร้องต่อสู้กับความไม่ถูกต้องในสังคมเรื่อยมา

ในวันนี้เราก็อาจมีสตรีนักต่อสู้คนใหม่เกิดขึ้น นั่นคือ นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ภรรยาของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม นายทหารที่เสียชีวิตจากการถูกซุ่มยิงจาก “ชายชุดดำ” ที่ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง ที่สี่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 หลังจากได้เห็นหน่วยก้าน มีหลักการ คำพูด รวมทั้งมีท่าทางอันเด็ดเดี่ยว หลังจากที่เธอเริ่มออกมาเคลื่อนไหวทวงถามความยุติธรรมและความคืบหน้าการหาตัวคนร้ายที่เป็นคนลงมือสังหารสามีของเธอ ถี่ยิบมากขึ้น หลังจากให้โอกาสกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภาครัฐมานานนับปีแล้วทุกอย่างยังไม่คืบหน้า

ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ตรงกับ “วันสตรี” เธอนำคณะครอบครัวทหารที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ชุมนุมของคนเสื้อแดง ไปยื่นหนังสือต่อ ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าหน่วยงานต้นสังกัดช่วยติดตามความคืบหน้าของคดีการเสียชีวิตอย่างผิดปกติของสามีและทหารคนอื่นๆ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่อเค้าจะมีการเบี่ยงเบนรูปคดี มีแนวโน้มว่าไม่อาจหาตัวคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายได้ เพราะจากเดิมที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เคยแถลงอย่างเป็นทางการว่าคดีของ พล.อ.ร่มเกล้า อยู่ในกลุ่มคดีที่ 1 คือ เสียชีวิตจากการกระทำจากกลุ่มผู้ชุมนุม และเคยมีการจับกุมผู้ต้องสงสัย แต่ก็ได้ปล่อยตัวไปแล้ว ล่าสุดมีหนังสือจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก กลับระบุว่า “ไม่อาจระบุตัวคนร้ายได้”

ที่ผ่านมาเรามี อังคณา นีละไพจิตร ภรรยาของทนายสมชาย ที่เดิมเป็นแค่แม่บ้านธรรมดา อยู่บ้านเลี้ยงลูกทำงานเงียบๆ แต่หลังจากเหตุการณ์ที่สามีของเธอถูกอุ้มหายตัวไปในยุครัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร จนบัดนี้ยังไร้ร่องรอย ทำให้เธอต้อง “กัดฟันลุกขึ้นสู้” เดินหน้าชนกับอำนาจอธรรมอย่างไม่เกรงกลัว ซึ่งเวลานี้ทำให้เราได้นักสู้เพื่อสังคมเกิดขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ และจนบัดนี้เธอก็ยังเดินหน้าทำหน้าที่ได้อย่างคงเส้นคงวาน่าชื่นชม

ตอนนี้เราก็อาจจะมีนักสู้สตรีเกิดขึ้นใหม่อีกคน นั่นก็คือ นิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ภรรยาของ พล.อ.ร่มเกล้า ดังกล่าวนี่แหละ เพราะเมื่อพิจารณาจากลักษณะท่าทาง คำพูดคำจา ถือว่า “ไม่ธรรมดา” เพราะมีหลักมีเกณฑ์ มีแก่นสาร จากเดิมที่ไม่ค่อยเปิดตัว แต่มาวันนี้เมื่อความจำเป็นบังคับ และด้วยศักดิ์ศรีของสามีที่เป็นชายชาติทหาร ทำหน้าที่ปกป้องชาติและราชบัลลังก์มาตลอดชีวิตที่รับราชการ ซึ่งตามประวัติสามารถกล่าวได้อย่างนั้น หรือแม้แต่ชื่อ “ร่มเกล้า” ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ดีว่าหมายถึงสิ่งใด

“นิชา” ได้กล่าวถึงการเยียวยาของรัฐบาลที่กำลังจ่ายเงินจำนวน 7.75 ล้านบาทให้ทุกฝ่ายในขณะนี้ว่า ต้องมีการตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อนว่า ต้องไม่ใช่ผู้ที่กระทำความผิด ต้องมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน รวมทั้งเรื่องปรองดอง ที่เธอบอกว่าต้องทำควบคู่กับการค้นหาความจริงและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จากนั้นจึงค่อยมาลงโทษ ให้อภัยโทษ ชดเชยเยียวยาอย่างไร แต่เวลานี้ยังสับสนเพราะการเยียวยาเกิดขึ้นแล้วโดยที่ยังไม่มีการค้นหาความจริงให้สาธารณชนได้ทราบ ช่างเป็นคำพูดที่ถูกต้องมีเหตุผล ไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาจากปากของผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยเก็บตัวเงียบอยู่หลังบ้านมานาน เพราะนี่คือหลักการของการปรองดองที่แท้จริง ที่คนในรัฐบาลจงใจไม่ยอมคิดและทำแบบนี้

ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดจากผู้หญิงธรรมดา ทั้งที่น่าจะเป็นคำพูดของ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย อย่าง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่วันๆเอาแต่ลอยไปลอยมา ไม่เคยรู้เรื่องรู้ราวไม่มีความชัดเจน ตอบคำถามแบบสามวาสองศอก นอกจากได้แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแพรพรรณสวยงามราคาแพง

ที่ต้องกล่าวแบบนี้เพราะมองเห็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะสภาที่กำลังเกิดขึ้นเหมือนกับว่า ยิ่งลักษณ์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแต่เพียงในนามเท่านั้น แต่ไม่ได้ใช้ตำแหน่งสำหรับบริหารราชการแผ่นดิน เป็นเพียงนั่งหัวโต๊ะแล้วนั่งฟังรายงานไปแบบท่องจำแค่นั้นเอง เพราะจากการทำหน้าที่ผู้นำประเทศมานานกว่า 7 เดือน เธอไม่ได้มีศักดิ์ศรีสมกับความไว้วางใจที่ชาวบ้านเทใจให้เลย แม้นาทีนี้อาจยังไม่ระบุว่าทรยศ แต่ก็ถือว่าไร้ค่าไร้ความหมายอย่างสิ้นเชิง มิหนำซ้ำยังสร้างความอับอายกลับมาแทบทุกครั้งหลังจากที่เธอเดินทางไปเยือนต่างประเทศเสียอีก

เมื่อย้อนมาเปรียบเทียบกันระหว่าง อังคณา นีละไพจิตร และล่าสุดเรากำลังมีดาวรุ่งนักสู้สตรีคนใหม่เกิดขึ้นด้วยความจำเป็น คือ นิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ซึ่งคนแรกสังคมได้รู้จักกันไปมากแล้ว แต่สำหรับคนหลังกำลังเริ่มเดินหน้า และเท่าที่สังเกตเหมือนกับว่ากำลังให้โอกาสหน่วยงานต้นสังกัดคือ กองทัพบก และผู้บัญชาการทหารบกดำเนินการตามขั้นตอน แต่หากยังไม่มีความคืบหน้าซึ่งแนวโน้มก็อาจเป็นไปได้ เพราะเวลานี้แม้กระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นผู้บัญชาการทหารบก รวมไปถึงนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบเหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะถูกดำเนินคดีในข้อหา “เข่นฆ่าประชาชน” ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า กลับตาลปัตร ไม่รู้เอาตัวรอดได้หรือเปล่า ดังนั้นทำให้เชื่อว่าอีกไม่นานก็จะได้เห็นบทบาทในฐานะนักต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม ซึ่งเธอไม่คาดคิดมาก่อน แต่ต้องทำ ต้องเดินหน้า!!
นิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
กำลังโหลดความคิดเห็น