ศิลปินแห่งชาติเขียนจดหมายผ่านสื่อ ตกใจเห็นข่าวอนุมัติ 2 พันล้านช่วยแดง แทนที่จะนำไปทำนุบำรุงประเทศ ชี้คนทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำ กับคนที่เผาบ้านเผาเมืองเสียหายนับแสนล้าน คุ้มกันไหม ซัดไม่มีใครชอบก่อม็อบทำร้ายประชาชน ทำคนไข้แม้แต่พระสังฆราชย้ายโรงพยาบาล แทนที่จะโดนลงโทษกลับได้เงินมหาศาล สงสัยทำไมทหาร-ตำรวจชายแดนใต้ถูกปลิดชีวิตได้แค่ธงชาติคลุมหีบศพ แม้แต่ครูจูหลิงใครจะมีค่ามากกว่ากัน
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา ในคอลัมน์ “ถูกทุกข้อ” โดยสามวา สองศอก เรืออากาศตรี สุเทพ วงศ์กำแหง ศิลปินแห่งชาติ ได้เขียนจดหมายลงตีพิมพ์ในคอลัมน์ดังกล่าว โดยแสดงความไม่เห็นด้วยกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบเพื่อค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) ในการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองตั้งแต่ปลายปี 2548 ถึงเดือนพฤษภาคม 2553 วงเงิน 2 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า จากที่ได้ทราบข่าวทำให้ประชาชนคนไทยทุกคนที่อ่านแล้วก็ต้องตกใจ และรีบอ่านเพื่อติดตามข่าวต่อด้วยความสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเงินแต่ละบาทแต่ละสตางค์ที่ประชาชนคนไทยยอมเสียภาษีให้แก่รัฐบาล ผู้มีหน้าที่ที่จะต้องนำเงินภาษีจากประชาชนทั่วประเทศไปทำนุบำรุงประเทศ ในส่วนที่มันยังมีปัญหาขาดแคลนเงินที่ควรจะนำไปใช้ให้สมเหตุสมผล ตามวิธีบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้สำคัญกว่าเป็นไหนๆ
“2 พันล้าน ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ เลย คนทำงานได้เงินเดือนเดือนละ 15,000 โดยไม่หักค่าใช้จ่ายเลย กว่าจะรวบรวมให้ได้ 1 ล้านบาทจะต้องใช้เวลาในการรวบรวมถึง 66 เดือน จึงจะได้ 1 ล้านบาท ท่านผู้อ่านลองช่วยผมคิดดูซิว่า คนทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำแล้วได้เงินเดือนที่ยังไม่หักค่าใช้จ่าย ต้องใช้เวลาถึงหกสิบหกเดือนจึงจะรวมเงินได้ 1 ล้านบาท กับคนที่ป่วนบ้านป่วนเมือง แห่กันไปเผาบ้านเผาเมืองให้ตึกรามและโรงภาพยนตร์ของประชาชนเสียหายเป็นพัน เป็นหมื่นล้าน รวมทั้งสถานที่ราชการของรัฐแต่ละจังหวัดให้เสียหายไปกี่หมื่นกี่แสนล้านบาท ต้องหาเงินมาเพื่อสร้างขึ้นใหม่เพื่อบริการประชาชนต่อไปอีกเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ก็ยากจะหาตัวเลขที่แท้จริงมารองรับความเป็นจริงในความชั่วช้าของคนเหล่านี้ได้ มันคุ้มกันไหมกับความเลวของคนกลุ่มนี้” เรืออากาศตรี สุเทพ กล่าว
ศิลปินแห่งชาติได้กล่าวถึงกรณีที่ ครม.อนุมัติเงินจำนวน 2 พันล้านบาท ท่ามกลางความขัดแย้งอย่างหนักจากประชาชนผู้บริสุทธิ์และข้าราชการดีๆ ที่ต่างก็มองเห็นว่าเป็นการกระทำที่ทุเรศ โดยไม่มีใครเห็นชอบที่แห่กันมาสร้างม็อบ ทำร้ายประชาชนผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ให้เดือดร้อนวุ่นวาย บรรดาคนไข้หนักต้องย้ายไปหาโรงพยาบาลแห่งใหม่ เพื่อรักษาเยียวยาจนกว่าจะหาย แม้กระทั่งสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ก็ยังต้องอพยพหนีเป็นพัลวัน บรรดาคณะรัฐมนตรีเอาเหตุผลอะไรมาอ้างว่าเหมาะสม แล้วได้รับผลตอบแทนด้วยเงินก้อนมหึมาอย่างนี้ สมควรแล้วหรือไม่
“โจรควรจะมีผลตอบแทนด้วยตะราง แต่กลับได้รับเงินมหาศาลจากรัฐบาลนี้ คนพวกนี้หรือที่มีความดีจนควรจะได้รับเงินรายละเจ็ดกว่าล้านบาทจากรัฐ คนพวกนี้น่ะหรือที่ขนยางรถยนต์มาเป็นคันรถเพื่อเอามาสร้างความปั่นป่วนให้เจ้าหน้าที่รัฐและทหารให้ยุ่งยากยิ่งขึ้น คนพวกนี้หรือที่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีให้มาดูแลทุกข์สุขของประชาชนคนไทยทั้ง 66 ล้านคน คนพวกนี้หรือที่รัฐบาลปัจจุบันปล่อยให้บินออกนอกประเทศไป (แกล้ง) บวชห่มเหลือง หวังให้หายมลทินที่ทำชั่ว ชวนคนไทยเผากรุงเทพฯ ด้วยขวดพลาสติกคนละขวด แค่ขอให้มาเอาน้ำมันจากพวกมันเพื่อให้กรุงเทพฯ เป็นทะเลเพลิงอย่างง่ายๆ และโง่ๆ คนพวกนี้น่ะหรือ? ที่เอาเงินมาจ่ายให้พวกคนไร้การศึกษาจากจังหวัดต่างๆ มาลงคะแนนให้พวกมันได้คะแนนนำหน้าพรรคอื่นอย่างขาดลอย” นายสุเทพกล่าว
นายสุเทพยังกล่าวอีกด้วยว่า อย่าเพิ่งด่วนลงโทษว่าตนเป็นคนของพรรคใคร เพราะตนลาออกจากพรรคฝ่ายค้านมาหลายปีแล้ว ดังนั้น จึงขอตั้งข้อสังเกตอย่างง่ายและเป็นธรรมที่สุดว่า ทำไมทหาร, ตำรวจ และข้าราชการพลเรือนที่ทำงานอยู่ชายแดนภาคใต้ในสามจังหวัดนั้น เสียชีวิตเป็นจำนวนที่น่าตกใจ ทุกคนมีสิทธิ์เพียงได้รับธงชาติคลุมหีบศพเท่านั้น เงินของประชาชน 2 พันล้านบาท ควรจะโอนไปให้ทหารหาญและผู้ปฏิบัติการผู้รักชาติเหล่านั้น มากกว่าจะมาให้คนที่เดินขบวนเผาบ้านเผาเมืองอย่างไร้สำนึกในความเป็นคนใช่หรือไม่ รัฐมนตรีเหล่านี้มีมติออกมาเพื่อผลาญชาติบ้านเมืองยังไม่พอ ยังจะเย้ยทหาร, ตำรวจ และข้าราชการรวมทั้งครู และประชาชนผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ถูกระเบิดตายฟรีๆ ด้วยการเอาเงินของประชาชนมาแจกจ่ายพวกตัวเองอย่างหน้าด้านๆ
“ชีวิตครูจูหลิงผู้พร่ำสอนเด็กนักเรียนให้มีความรอบรู้ในการศึกษา เปรียบกับพวกที่กวนบ้านป่วนเมืองจนแขกต่างประเทศ เช่น คณะทูตานุทูตต้องหนีออกจากโรงแรมในพัทยากลับประเทศตนกันจ้าละหวั่น ให้เมืองไทยเสียชื่อย่อยยับ ใครจะมีค่ามากกว่ากัน!” ศิลปินแห่งชาติกล่าวทิ้งท้าย
สำหรับเนื้อหาจดหมายของเรืออากาศตรี สุเทพ มีดังต่อไปนี้
เรียน คุณสามวา สองศอก
“อนุมัติ 2 พันล้านช่วยแดง” ที่ไทยโพสต์โปรยหัวในหน้าหนึ่งของฉบับวันพุธที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา มันย่อมทำให้ประชาชนคนไทยทุกคนที่อ่านแล้วก็ต้องตกใจ และรีบอ่านเพื่อติดตามข่าวต่อด้วยความสนใจเป็นอย่างยิ่ง
เพราะเงินแต่ละบาทแต่ละสตางค์ที่ประชาชนคนไทยยอมเสียภาษีให้แก่รัฐบาล ผู้มีหน้าที่ที่จะต้องนำเงินภาษีจากประชาชนทั่วประเทศไปทำนุบำรุงประเทศ ในส่วนที่มันยังมีปัญหาขาดแคลนเงินที่ควรจะนำไปใช้ให้สมเหตุสมผล ตามวิธีบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้สำคัญกว่าเป็นไหนๆ
2 พันล้าน ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ เลย คนทำงานได้เงินเดือนเดือนละ 15,000 โดยไม่หักค่าใช้จ่ายเลย กว่าจะรวบรวมให้ได้ 1 ล้านบาท จะต้องใช้เวลาในการรวบรวมถึง 66 เดือน (5 ปีกว่า) จึงจะได้ 1 ล้านบาท
ท่านผู้อ่านลองช่วยผมคิดดูซิว่า
คนทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำแล้วได้เงินเดือนที่ยังไม่หักค่าใช้จ่าย ต้องใช้เวลาถึงหกสิบหกเดือนจึงจะรวมเงินได้ 1 ล้านบาท กับคนที่ป่วนบ้านป่วนเมือง แห่กันไปเผาบ้านเผาเมืองให้ตึกรามและโรงภาพยนตร์ของประชาชนเสียหายเป็นพัน เป็นหมื่นล้าน รวมทั้งสถานที่ราชการของรัฐแต่ละจังหวัดให้เสียหายไม่กี่หมื่นกี่แสนล้านบาท ต้องหาเงินมาเพื่อสร้างขึ้นใหม่เพื่อบริการประชาชนต่อไปอีกเท่าไหร่ต่อเท่า ไหร่ ก็ยากจะหาตัวเลขที่แท้จริงมารองรับความเป็นจริงในความชั่วช้าของคนเหล่านี้ ได้
มันคุ้มกันไหมกับความเลวของคนกลุ่มนี้
แต่...คณะรัฐมนตรีของรัฐบาลนี้ (แกล้งตีหน้าตาย) ทำทองไม่รู้ร้อน อนุมัติเงินจำนวน 2 พันล้านให้แก่คนเลวๆ อย่างหน้าตาเฉย ท่ามกลางความขัดแย้งอย่างหนักจากประชาชนผู้บริสุทธิ์และข้าราชการดีๆที่ต่าง ก็มองเห็นว่า การกระทำอย่างนี้มันแสนจะทุเรศในสายตาของคนดีที่ไม่ยอมรับการกระทำห่ามๆ ของคนไทยชั่วๆ ไม่กี่หมื่นกี่แสนคน
แม้ว่าคนไทยทั้งประเทศจะมีตั้งหกสิบกว่าล้านคน
ไม่มีใครเห็นชอบกับพวกอมนุษย์ที่แห่กันมาสร้างม็อบ และทำร้ายประชาชนผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ให้เดือดร้อนวุ่นวาย อีกทั้งยังทำให้บรรดาคนไข้หนักทั้งหลายแหล่ต้องย้ายไปหาโรงพยาบาลแห่งใหม่ เพื่อรักษาเยียวยาจนกว่าจะหาย
แม้กระทั่งองค์พระสังฆราชา (พระสังฆราช) ก็ยังต้องอพยพหนีเป็นพัลวัน
แล้วอย่างนี้ไอ้พวกรัฐมนตรีขี้ฉ้อ มันเอาเหตุผลอะไรมาอ้างว่าเหมาะสมกับความชั่วที่พวกมันทำกัน แล้วได้รับผลตอบแทนอย่างพิลึกพิลั่นด้วยเงินก้อนมหึมาอย่างนี้
สมควรแล้วหรือ?
"โจร” ควรจะมีผลตอบแทนด้วยตะราง แต่กลับได้รับเงินมหาศาลจาก "รัฐบาล” นี้
คนพวกนี้หรือที่มีความดีจนควรจะได้รับเงินรายละเจ็ดกว่าล้านบาทจากรัฐ
คนพวกนี้น่ะหรือที่ขนยางรถยนต์มาเป็นคันรถเพื่อเอามาสร้างความปั่นป่วนให้เจ้าหน้าที่รัฐและทหารให้ยุ่งยากยิ่งขึ้น
คนพวกนี้หรือที่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีให้มาดูแลทุกข์สุขของประชาชนคนไทยทั้ง 66 ล้านคน
คนพวกนี้หรือที่รัฐบาลปัจจุบันปล่อยให้บินออกนอกประเทศไป (แกล้ง) บวชห่มเหลือง หวังให้หายมลทินที่ทำชั่ว ชวนคนไทยเผากรุงเทพฯ ด้วยขวดพลาสติกคนละขวด แค่ขอให้มาเอาน้ำมันจากพวกมันเพื่อให้กรุงเทพฯ เป็นทะเลเพลิงอย่างง่ายๆ และโง่ๆ
คนพวกนี้น่ะหรือ? ที่เอาเงินมาจ่ายให้พวกคนไร้การศึกษาจากจังหวัดต่างๆ มาลงคะแนนให้พวกมันได้คะแนนนำหน้าพรรคอื่นอย่างขาดลอย
อย่าเพิ่งด่วนลงโทษว่าผมเป็นคนของพรรคใคร
เพราะผมลาออกจากพรรคที่ท่านคิดว่าเป็นพรรคฝ่ายค้านมาหลายปีดีดักแล้ว
ดังนั้น ผมจึงขอตั้งข้อสังเกตอย่างง่ายและเป็นธรรมที่สุดว่า
ทำไมทหาร, ตำรวจ และข้าราชการพลเรือนที่ทำงานอยู่ชายแดนภาคใต้ในสามจังหวัดนั้น ถูกปลิดชีวิตไปในแต่ละวันรวมแล้วเป็นจำนวนที่น่าตกใจ
ทุกคนมีสิทธิ์เพียงได้รับ “ธงชาติ” คลุมหีบศพเท่านั้น!
เงินของประชาชนตั้ง 2 พันล้าน มันควรจะโอนไปให้ทหารหาญและผู้ปฏิบัติการผู้รักชาติเหล่านั้นมากกว่าจะมาให้ พวกเลวๆ เดินขบวนเผาบ้านเผาเมืองอย่างไร้สำนึกในความเป็นคนใช่หรือไม่! รัฐมนตรีเฮงซวยพวกนี้มีมติออกมาเพื่อผลาญชาติบ้านเมืองยังไม่พอ
ยังจะเย้ยทหาร, ตำรวจ และข้าราชการรวมทั้งครู และประชาชนผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ถูกระเบิดตายฟรีๆ ด้วยการเอาเงินของประชาชนมาแจกจ่ายพวกตัวเองอย่างหน้าด้านๆ
ชีวิตครูจูหลิงผู้พร่ำสอนเด็กนักเรียนให้มีความรอบรู้ในการศึกษา เปรียบกับพวกที่กวนบ้านป่วนเมืองจนแขกต่างประเทศ เช่น คณะทูตานุทูตต้องหนีออกจากโรงแรมในพัทยากลับประเทศตนกันจ้าละหวั่น ให้เมืองไทยเสียชื่อย่อยยับ
ใครจะมีค่ามากกว่ากัน!
เรืออากาศตรี สุเทพ วงศ์กำแหง
ศิลปินแห่งชาติ
