“ประพันธ์” คาดปม “สัก” พ้น ส.ว.ชงศาล รธน.ภายในเดือนนี้

“ประพันธ์” แจงตั้งอนุฯ สอบ 73 ส.ว.ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งก่อน “เรืองไกร” ยื่นคำร้อง คาดปม “สัก” พ้นสมาชิกภาพ ชงศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้ใน มี.ค.นี้ ด้าน “สดศรี” เผย เหตุ “ศรีสุข” ถูกบัตรสนเท่ห์ร้องเป็นความปรากฏทำให้สอบกราวรูด 73 คน แจงเหลือสอบปม ส.ว.ไม่ใช้สิทธิแค่เรื่องเดียว เร่งเคลียร์สำนวน

วันนี้ (13 มี.ค.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณี กกต.ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณี 73 ส.ว.สรรหา เกี่ยวกับการใช้สิทธิเลือกตั้งก่อนวันที่มีการเปิดให้องค์กรลงทะเบียนเสนอบุคคลเข้ารับการสรรหา ส.ว.ว่า ขณะนี้ กกต.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเพื่อตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว เพราะ กกต.ได้รับข้อมูลมาก่อนหน้าที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา จะเปิดเผยกรณี 10 ส.ว.อาจไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เป็นผลให้ กกต.จึงตั้งอนุกรรมการไต่สวนว่าจะมี ส.ว.รายอื่นที่อยู่ในข่ายไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน

ทั้งนี้ การตรวจสอบคุณสมบัติของ 73 ส.ว.สรรหา ขณะนี้ต้องรอให้อนุกรรมการไต่สวนตรวจสอบก่อน ว่า จะมี ส.ว.คนใดไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งก่อนวันที่เปิดให้องค์กรมาลงทะเบียนเสนอชื่อหรือไม่ ซึ่ง กกต.กำลังพยายามเร่งรัดให้มีการตรวจสอบให้ทันก่อนครบกำหนด 1 ปี ที่มีการประกาศผลรับรองการสรรหา ส.ว.โดยจะตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.นี้ และหากตรวจสอบพบว่า มี ส.ว.สรรหารายใดไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง กกต.ส่งเรื่องให้ศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้งพิจารณา เช่นเดียวกับที่ กกต.ได้มีมติให้เพิกถอนสิทธิการสรรหาของนายสัก กอแสงเรือง ส.ว.สรรหา ซึ่งขาดคุณสมบัติที่ยังพ้นจาก ส.ว.เลือกตั้ง ปี 2543 ยังไม่เกิน 5ปี

นายประพันธ์กล่าวว่า สำหรับการจัดทำคำวินิจฉัยของ นายสัก เพื่อส่งให้ศาลฎีกาพิจารณานั้น ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างที่สำนักวินิจฉัยและคดีกำลังยกร่างคำร้องอยู่ ทั้งนี้ คาดว่า น่าจะส่งเรื่องให้ศาลฎีกาฯพิจารณาได้ภายในเดือนมีนาคมนี้

ด้าน นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ กล่าวว่า เพราะ กกต.เห็นว่าอาจมี ส.ว.สรรหาไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งเดิมทีมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพียงรายเดียวเท่านั้น คือ นายศรีสุข รุ่งวิสัย ส.ว.สรรหา ที่มีผู้ร้องเรียนเป็นบัตรสนเท่ห์เข้ามายัง กกต.ให้ตรวจสอบว่านายศรีสุขอาจไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ทำให้กกต.ต้องมีมติให้สอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้เรื่องร้องคัดค้านการสรรหา ส.ว.กกต.ได้พิจารณาจนเหลือเพียง 1 เรื่องเท่านั้น คือ การตรวจสอบคุณสมบัติการไปใช้สิทธิเลือกตั้งของนายศรีสุข อีกทั้ง เมื่อพบว่านายศรีสุข อาจมีปัญหาในเรื่องคุณสมบัติดังกล่าว จึงต้องดูด้วยว่า 72 ส.ว.สรรหา จะมีปัญหาเช่นเดียวกับนายศรีสุขหรือไม่ด้วย ซึ่งทำให้ กกต.ทั้ง 4 คนจึงมีมติให้ตั้งอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ 73 ส.ว.สรรหาทั้งหมดในคราวเดียวกัน ว่า ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งก่อนได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว.หรือไม่ โดยให้เวลาไปตรวจสอบภายใน 15 วัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวทาง กกต.จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนครบกำหนด 1 ปี ในวันที่ 12 เมษายนนี้ ที่มีการประกาศผลสรรหา ส.ว.

“แม้อีก 72 ส.ว.สรรหาจะไม่มีผู้ร้องเรียนเข้ามาก็ตาม แต่การตรวจสอบของ กกต.ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะ กกต.จะปล่อยให้มีผู้ขาดคุณสมบัติมาเป็น ส.ว.โดยไม่ชอบไม่ได้ ถึงแม้คณะกรรมการสรรหา ส.ว.จะลงมติแต่งตั้งเป็น ส.ว.มาแล้ว กกต.ก็ยังมีอำนาจตรวจสอบได้ในกรณีความปรากฏว่า ส.ว.รายใดอาจขาดคุณสมบัติ” นางสดศรีกล่าว