กมธ.ปรองดอง สาย พท.ไม่สนผลวิจัยสถาบันพระปกเกล้าหมกเม็ด สอบถามผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับคดี คตส.และการนิรโทษกรรม เดินหน้ารับลูกผลวิจัย อ้างเพื่อหาทางออกของชาติ พร้อมเสนอขอขยายเวลาทำงานอีก 30 วัน
นายชวลิต วิทยสุทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฏร เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้ (13 มี.ค.) จะเป็นการสรุปและตัดสินใจเลือกแนวทางและข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้า ที่ทำการศึกษาและวิจัยแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ
ทั้งนี้ เบื้องต้นข้อเสนอที่ให้นิรโทษกรรมผู้ชุมนุมทางการเมือง และคดีที่ผ่านการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ทาง กมธ.จะมีการนำมาหารือใน 2 ประเด็น พร้อมกับทางเลือกให้ปฏิบัติว่าจะเลือกแบบไหน
อย่างไรก็ตาม ส่วนหนึ่งของผลการศึกษาของสถาบันพระปกเกล้าที่สรุปประเด็นดังกล่าว ถือเป็นบทสรุปที่ฟันธงแล้วว่า คดี คตส.ผิดหลักการไต่สวน ส่วนการนิรโทษกรรมเป็นสิ่งที่ลดความขัดแย้ง เบื้องต้นอาจมีการคุยในรายละเอียดว่าจะนิรโทษกรรมให้ใครบ้าง
นอกจากนี้ ประเด็นผลการศึกษาที่ระบุว่า ต้องยึดหลักเมตตาและให้อภัยนั้น เบื้องต้นเห็นว่ามาตราการ 66/23 ที่เกิดสมัย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี มีผลในทางปฏิบัติที่น่าสนใจ ส่วนการทำหน้าที่ของ กมธ. ที่ต้องรีบสรุปนั้น เป็นเพราะสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ระบุในที่ประชุม กมธ.ว่า ความขัดแย้งเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ
ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์จะคัดค้านข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้า โดยอ้างว่าสรุปมาจากความเห็นของผู้ต้องหาคดีชุมนุมทางการเมือง และเป็นผู้ถูก คตส.ตรวจสอบมาก่อนนั้น รายละเอียดเบื้องต้นทราบว่า ข้อเสนอนั้นถูกสรุปมาจากบทเรียนความขัดแย้งของต่างประเทศ ส่วนความเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 47 คนนั้นไม่ได้นำมาสรุป
“วันนี้จะหารือในรายละเอียดของผลการศึกษาสถาบันพระปกเหล้า ถือเป็นครั้งสุดท้ายก่อนสรุปให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฏร ส่วนการต่ออายุทำงานไปอีก 30 วันหลังวันครบกำหนดทำงาน 16 มี.ค.นั้น เนื้อหาจะเป็นเรื่องความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้” นายชวลิตกล่าว
