xs
xsm
sm
md
lg

ปู ไปญี่ปุ่นแค่โชว์โฉมหรือไปเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บ้านพระอาทิตย์

ได้เห็นข่าวที่สื่อต่างประเทศชื่อดังอย่าง วอลสตรีท เจอร์นัล ที่นำเสนอบทความชิ้นหนึ่งที่เกี่ยวกับการเดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่นของ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตั้งแต่เมื่อต้นสัปดาห์ นัยว่าเพื่อไปสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนญี่ปุ่น ที่ประสบเหตุโรงงานน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้วจนได้รับความเสียหาย ซึ่งถือว่าเป็นวาระสำคัญ เพราะนักลงทุนของประเทศนี้มีสัดส่วนมากที่สุดในประเทศไทย

หากพวกเขาไม่เชื่อมั่นมันก็ย่อมมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ กระทบต่อการว่าจ้างแรงงานไทยตามไปด้วย

อย่างไรก็ดีจากบทความของสื่อต่างประเทศดังกล่าวที่สะท้อนออกมากลับกลายเป็นลบ ไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามยังไปสร้างความอึมครึม สร้างความสับสน ไม่ได้ตอบคำถามหรือข้อข้องใจให้เคลียร์เลยแม้แต่น้อย

ขณะเดียวกันบทความชิ้นนี้ของสื่อต่างประเทศยังออกไปในทางเหยียดหยามผู้นำไทย ซึ่งเดินทางไปในฐานะผู้แทนของประชาชนคนไทยทั้งประเทศทำนองว่า “ไร้สติปัญญา” ถ้าความหมายในแบบบ้านๆเข้าใจง่ายๆก็คือ นายกฯยิ่งลักษณ์ “โง่” นั่นแหละ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะนี่คือเกียรติภูมิศักดิ์ศรีของคนไทยและของชาติ จะต้องมีคำอธิบายชี้แจงว่าเป็นความจริงหรือไม่อย่างไร และที่สำคัญในการเดินทางไปคราวนี้ยังมีสื่อไทยร่วมขบวนไปด้วย สามารถยืนยันได้ว่า “โง่จริง” หรือไม่ หรือว่าสื่อฝรั่งนี่มันใส่ร้าย ดิสเครดิต เพราะถ้าอยู่ในประเทศอาจถูกกล่าวหาว่ารับงานจากฝ่ายค้านหรือกลุ่มการเมืองใดมาทำลายผู้นำที่เป็นสตรีเพศก็ได้

ข้อกล่าวหาที่ระบุว่า นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ เอาแต่ก้มหน้าก้มตาอ่านโพยภาษาไทยที่เตรียมมานานกว่า 7 นาที โดยไม่มีคำแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ และเมื่ออ่านเสร็จก็รีบเดินจ้ำออกไปทันทีโดยไม่มีการเปิดโอกาสให้นักลงทุนเหล่านั้นซักถาม หากมีเรื่องแบบนี้จริงก็ต้องมีการชี้แจงให้ทราบด้วย ว่าจริงหรือเปล่า เพราะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลต่อวัตถุประสงค์หลักของการเดินทางไป “โรดโชว์” ในครั้งนี้ด้วย โดยเฉพาะความตั้งใจไปสร้างความเชื่อมั่น ก็ต้องตอบคำถามให้เคลียร์ทุกเรื่อง และไม่มีข้อแม้

หรือหากกลัวว่าตัวเองไม่ได้เรื่องตอบคำถามไม่ได้ก็สามารถโบ้ยให้คนที่รับผิดชอบ อย่างเช่น คราวนี้เห็นว่ามี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจร่วมคณะไปด้วยตอบคำถามแทนก็ได้ ซึ่งวิธีการโบ้ยดังกล่าวก็เคยทำอยู่เป็นประจำ แต่การเดินจ้ำออกมาทันทีมันก็ไม่สวย

หรือถ้าจะพูดเรื่องอ่านโพยหรือสคริปต์ที่มีคนเขียนเอาไว้ให้ล่วงหน้าก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หากมีการกล่าวสุนทรพจน์อย่างเป็นทางการ เพื่อไม่ให้ผิดพลาด ที่ไหนเขาก็ทำกัน แม้แต่ผู้นำญี่ปุ่นก็ใช้แบบเดียวกัน และส่วนใหญ่ยังพูดภาษาญี่ปุ่นไม่พูดภาษาอังกฤษ แต่ที่อาจแตกต่างก็คือเขาจะตอบคำถามได้สดๆ เป็นเนื้อเป็นน้ำได้มากกว่าจนเทียบกันไม่ได้

การเสนอบทความของวอลสตรีท เจอร์นัล ที่มีการตั้งคำถามเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ก็เช่นเดียวกัน มันก็ยิ่งตอกย้ำสร้างความอับอายมากขึ้นทับทวี โดยเฉพาะหากบอกว่าเธอจบปริญญาโทมาจากมหาวิทยาลัยเคนตักกี้ในสหรัฐฯ แล้วยังใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้เรื่อง มันก็ยิ่งสงสัยว่าที่ผ่านมาเธอสอบผ่านมาได้อย่างไร

ขณะเดียวกันมันยังมีคำถามต่อเนื่องว่าที่ผ่านมาเธอเคยเป็นถึงผู้บริหารสูงสุดของบริษัทขนาดใหญ่ที่เป็นธุรกิจของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสื่อสาร ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก่อนที่จะให้มาเป็นนายกรัฐมนตรี บริษัทเหล่านี้ก็น่าจะต้องติดต่อกับต่างประเทศเป็นประจำแล้วทำไมมันถึงยังใช้ภาษาไม่ได้เรื่อง มันก็เป็นเรื่องแปลก

ไม่น่าเชื่อว่า ทุกครั้งที่เธอเดินทางไปต่างประเทศไปพบกับผู้นำต่างประเทศ หรือไปร่วมประชุมในเวทีใหญ่ๆที่มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า และเลี่ยงไม่ได้ ก็มักมีข่าวทำนองให้น่าอับอายตามหลังมาทุกครั้ง คราวก่อนที่ไปร่วมประชุมผู้นำเศรษฐกิจชั้นนำที่สวิสฯก็ทำขายหน้าบนเวทีเรื่องการใช้ภาษาแบบด้อยคุณภาพมาคราวหนึ่งแล้ว ต่อมาเมื่อต้องการ “สร้างภาพ” เป็นข่าวดังคู่กับอองซานซูจี ระหว่างไปเยือนพม่า เธอก็ก้มหน้าก้มตาแอบดูโพยแม้กระทั่งระหว่างสนทนาซึ่งมีคลิปประจานให้เห็นจนน่าขบขัน ล่าสุดระหว่างไปเยือนญี่ปุ่นก็มีข่าวทำนองเดียวกันอีก

อย่างไรก็ดีเมื่อย้อนกลับไปพิจารณาจากคำพูดก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง “เรือดันน้ำ” และ “หญ้าแพรก” จนถูกตำหนิว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่มีความรู้รอบตัว ไม่อ่านหนังสือ ไม่พร้อมที่จะเป็นผู้นำประเทศ ก็ทำท่าจะจริง และมีน้ำหนักมากขึ้นไปอีก

แต่การเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นคราวนี้มีเป้าหมายเพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน แต่ถ้าออกมาในลักษณะที่บทความของสื่อต่างประเทศดังกล่าว ระบุแล้ว นอกจากจะวัตถุประสงค์ของการเดินทางจะไม่สำเร็จแล้ว ยังทำลายเกียรติภูมิของชาติให้ตกต่ำ สร้างความขบขับในเวทีโลกทำให้คนไทยต้องอับอาย ขายหน้าอยู่เรื่อยๆ เพราะนี่ไม่ใช่ผู้บริหารธุรกิจครอบครัวชินวัตร แต่เธอเป็นผู้นำประเทศ

ดังนั้นต้องมีการชี้แจง โดยเฉพาะสื่อไทยที่ร่วมขบวนไปด้วยน่าจะเป็นพยานได้ดีว่าจริงหรือไม่ว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจนสื่อต่างชาติเหยียดหยามผู้นำไทย !!
กำลังโหลดความคิดเห็น