รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ชี้ข่าวล็อบบี้ถอด “ภักดี” พ้น ป.ป.ช.แค่ลือ ชี้มติชัด ส.ว.มีคุณวุฒิ เป็นกลาง ด้าน “สมชาย” ชี้ช่องฟ้องกลับ “อนุดิษฐ์” ฐานขัดขวางองค์กรอิสระไต่สวนคอมพ์ฉาว
วันนี้ (9 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 กล่าวภายหลังที่ประชุมวุฒิสภานัดพิเศษ มีมติไม่ถอดถอน นายภักดี โพธิศิริ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้พ้นจากตำแหน่งด้วยคะแนน 84 ต่อ 56 เสียง ว่าหลังจากการลงมติในวันนี้ (9 มี.ค.) ตามข้อบังคับการประชุมนั้นจะต้องส่งมตินี้ไปให้คณะรัฐมนตรีและผู้ที่เกี่ยวข้องทราบโดยเร็ว ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีการล็อบบี้กันมาก เพื่อให้มีการถอดถอนนั้น ตนคิดว่าเป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น เพราะตัวเลขที่ออกมาจะเห็นได้ว่าวุฒิสภามีคุณวุฒิของตนเอง มีเหตุมีผลและข้อเท็จจริงในการตัดสินใจ ดังนั้นจึงแสดงให้เห็นว่าวุฒิสภามีความเป็นกลางสูง ตนเชื่อว่าหากสังคมได้เห็นหลักฐานหรือฟังการอภิปรายที่ผ่าน ก็จะเห็นได้ว่าอะไรที่ถูกต้องและไม่ถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการล็อบบี้เสียงจริงในการลงมติครั้งนี้ ถือว่าขัดต่อจริยธรรมหรือไม่ นายนิคมกล่าวว่า แน่นอน เพราะการกระทำใดที่ทำให้เกิดความเสื่อเสียต่อองค์กรวิชาชีพนั้นถือว่าขัดต่อหลักจริยธรรมอยู่แล้ว ตรงนี้ตนเชื่อว่าข้อบังคับประมวลจริยธรรมนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องศึกษาและพึงสังวรไว้ว่าจะต้องทำไรที่ไม่ก้าวก่ายและผิดหลักจริยธรรมอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าสถาบันของวุฒิสภายังคงเป็นสถาบันหลักของฝ่ายนิติบัญญัติที่ประชาชนยังเชื่อมั่นและให้ความเคารพ พร้อมทั้งคาดหวังว่าจะสามารถแห้ปัญหาให้แก่บ้านเมืองได้
ด้าน นายสมชาย แสวงการ สว.สรรหา กล่าวว่า ประเด็นการลงมติของ ส.ว.ที่ไม่ให้นายภักดี พ้นจากตำแหน่ง ป.ป.ช.นั้น หากมีการตรวจสอบได้ว่ากระบวนการการยื่นเรื่องให้วุฒิสภาพิจารณาให้กรรมการ ป.ป.ช.พ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 248 ของรัฐธรรมนูญนั้น มีผลเพื่อที่จะขัดขวางการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ของกระทรวงสาธารณสุข ทางฝ่าย ป.ป.ช. และประชาชนที่เห็นถึงความไม่บริสุทธิ์ใจดังกล่าวของฝ่ายผู้ร้องคือ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย และคณะ อาจหยิบยกประเด็นการลงมติของ ส.ว.ครั้งนี้ไปยื่นฟ้องร้องต่อศาลเพื่อให้พิจารณาได้ ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่าจะมีใครดำเนินการหรือไม่