xs
xsm
sm
md
lg

“ยงยุทธ” ยันจ่ายเยียวยาไร้ปัญหา ได้หมด “แม่ผัว-ลูกสะใภ้-เมียน้อย”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยงยุทธ วิชัยดิษฐ (แฟ้มภาพ)
“ยงยุทธ” ยันจ่ายเยียวยาไม่วุ่น แม้มีปัญหา “แม่ผัว-ลูกสะใภ้” ถ้ามีหลักฐาน ข้อเท็จจริงได้หมด ทั้งพ่อ แม่ เมียหลวง-เมียน้อย แบ่งเท่าๆ กัน คาด 1-2 สัปดาห์หากตรวจสอบเสร็จจ่ายได้ทันที ส่วนผู้ประกอบการที่เสียหายจากการชุมนุม นัดประชุมเยียวยา 12 มี.ค. โยน “เฉลิม” หาช่องทางนำ “นช.แม้ว” กลับประเทศ

วันนี้ (9 มี.ค.) นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดรับการเยียวยาที่เกิดความวุ่นวายเรื่องแม่ผัว-ลูกสะใภ้ว่า เป็นธรรมดา ไม่ได้แปลกประหลาดอะไร แต่ข้อเท็จจริงอยู่ที่ว่าใครเป็นคนอุปการะเขา หรือเขาอุปการะใครในข้อเท็จจริงก็ถามได้ และไม่ได้ใช้กฎหมายมรดก ใช้ข้อเท็จจริง ข้อพิสูจน์ ซึ่งจะแบ่งเป็นคนละส่วนว่าจะมีผู้เกี่ยวข้องหลายรายก็จะต้องยุติธรรม ใช้ข้อเท็จจริงเป็นหลักมีพยาน มีการสอบถามว่าผู้ตายอุปการะใคร และใครเป็นคนอุปการะผู้ตาย หากมีหลายคนต้องแบ่งเป็นส่วนๆ ไป

ส่วนกรณีที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสจะทำอย่างไรนั้น นายยงยุทธกล่าวว่า ก็ไม่มีปัญหา ถ้ามีการยืนยันว่าได้อยู่อย่างสามีภรรยากันจริง มีลูกหรือไม่มีก็ทราบกัน เพราะมีบ้านติดกัน คนนี้อยู่ติดคนนี้ การมาเป็นสามีภรรยากันไม่จำเป็นต้องจดทะเบียน เมื่อถามว่าพ่อแม่ผู้เสียชีวิตก็จะได้รับรวมถึงลูกเมียหรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า ใช่ ยุติธรรม ยืนยันให้ได้ และตนอยากเรียนเพิ่มเติมว่าสำหรับคนที่เคยกล่าวว่าเงินก้อนนี้แพงไปนั้น เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ศาลแพ่งได้พิพากษาเรียบร้อยแล้วกรณีนักศึกษาเอแบคที่ตกรถเมล์ศาลได้สั่งจ่าย 9.85 ล้านบาท เกือบ 10 ล้าน ก็จะได้เป็นข้อยุติสักทีกับข้อกล่าวหาที่ว่าชีวิตมนุษย์แพงไป หรือถูกไป ก็อย่าพูดกันลอยๆ อย่างน้อยศาลก็มีคำพิพากษาที่เป็นหลักเกณฑ์แล้ว เพราะความประมาทเลินเล่อขององค์การขนส่งมวลชน และความประมาทของคนขับ ก็เป็นอุทธาหรณ์ที่ทำให้สังคมรับได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องเงินมีจำนวนเยอะมาก เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการสร้างพยานให้ตัวเองได้รับเงิน นายยงยุทธกล่าวว่า ในกรณีตายต้องมีหลักฐาน มีใบมรณบัตร และมีข้อเท็จจริงที่สื่อมวลชนทุกคนก็ทราบ ชื่อพวกนี้มีการประกาศกันมาตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้ว สำหรับคนที่บาดเจ็บ พิการ ก็จะมีหลักฐานเอกสารอยู่ที่โรงพยาบาล และจะมีข้อมูลพยานเยอะแยะไปหมด ความหวั่นเกรงต่างๆ ก็ดี แต่ว่าทางคณะกรรมการเองต้องระมัดระวัง เพราะนี่เป็นเสียงเตือนจากสื่อมวลชนที่ทำให้คณะกรรมการก็ต้องระวังมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าการเยียวยาผู้ชุมนุมได้รับเงินอย่างรวดเร็ว แต่เรื่องเยียวยาน้ำท่วม 5,000 บาท ยังได้ไม่ครบก็ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมาก นายยุงยุทธกล่าวว่า ก็เกือบจะหมดแล้วเรื่องน้ำท่วม ไม่มีอะไรเหลือแล้ว น่าจะเหลือทางใต้ที่ท่วมช้ากว่าจังหวัดอื่น ก็ทำเร็วไม่มีการเลือกปฏิบัติ ยืนยันว่าเงินน้ำท่วม 5,000 บาท ก็ไปจ่ายครบ 100 เปอร์เซ็นต์

ต่อข้อถามว่าผู้ลงทะเบียนและตรงตามหลักเกณฑ์มีกำหนดได้รับเงินเยียวยาเมื่อไหร่ นายยงยุทธกล่าวว่า เร็วที่สุดน่าจะ 1-2 สัปดาห์นี้ ก็จะเริ่มจ่ายเพราะว่าเขาก็ทนกันมานานแล้ว เมื่อถามว่า จะลดปัญหาความวุ่นวายต่างๆ อย่างไร เพื่อให้เกิดความราบรื่น ให้คณะกรรมการทำงานได้โดยไม่ต้องมาแก้ปัญหาเหล่านี้ นายยงยุทธกล่าวว่า ธรรมดาปัญหาจะเกิดขึ้นคู่กับมนุษย์กับโลกอยู่แล้ว คนที่เขาบอกว่าจะเป็นคนที่ทำงานได้ดีคือ ทุกปัญหาต้องมีทางออก แต่ปัญหานั้นจะต้องมี และคนที่ทำงานไม่สำเร็จก็เรียกว่าทุกทางออกมีปัญหาไปหมดเลย ตรงนี้ก็เป็นเรื่องที่มีทางออกทุกเรื่อง เพียงแต่เราต้องมีกฎเกณฑ์ มีความยุติธรรม

ผู้สื่อข่าวถามว่าคณะกรรมการกลัวหรือไม่ว่า การที่คณะกรรมการชี้ขาดในแต่ละกรณีอาจมีการฟ้องร้องในส่วนของคนที่ไม่ได้ หรือไม่พอใจ คณะกรรมการจะลดแรงเสียดทานตรงนี้อย่างไร นายยงยุทธกล่าวว่า ลดได้ด้วยความยุติธรรม ดูข้อเท็จจริงให้มากที่สุด อย่างที่ถามว่าคนที่ไม่จดทะเบียนสมรสจะทำอย่างไร เราก็มีข้อเท็จจริง มีบ้านที่อยู่ติดกันก็มีคนเห็นว่าสามีภรรยาคู่นี้อยู่ด้วยกันมา หากไม่จดทะเบียนก็ไม่เป็นไรก็ให้ได้ เพราะเราไม่ได้ทำตามกฎหมายแพ่งหรือกฎหมายมรดก เราทำตามข้อเท็จจริงและก็จะสามารถแก้ปัญหาตรงนี้ไปได้เยอะ

เมื่อถามว่า เวลาเพียงนิดเดียวก่อนการจ่ายเงินเยียวยา เรื่องความรอบคอบความระมัดระวังจะมีมากน้อยแค่ไหน นายยงยุทธกล่าวว่า อยากกราบเรียนพี่น้องประชาชนว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ไม่ใช่ของส่วนตัวของรัฐบาล ไม่ใช้เงินส่วนตัวของตน แต่เป็นเงินภาษีอากรของประชาชนทุกคน ตนก็มารับภาระ เพียงแต่ว่าต้องดูแลให้เกิดความเป็นธรรม เพราะฉะนั้นการจะใช้จ่ายเงินที่ไม่ใช่เงินของเราและเป็นเงินภาษีอากรของประชาชนจะต้องรอบคอบให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ส่วนบางครอบครัวที่ไม่ได้จดทะเบียนและยังมีอีกบ้านหนึ่งนั้น นายยงยุทธกล่าวว่า ก็ต้องเฉลี่ยไป ก็ต้องมีพยานยืนยันว่าอยู่บ้านนู้นด้วยอยู่บ้านนี้ด้วย ต้องให้เป็นส่วนๆ ไป ให้ทั้งเมียหลวง เมียน้อย หรือถ้ามี 3-4 ครอบครัวก็ให้หมด เพราะผู้ตายคงอุปการะทั้ง 3-4 ครอบครัวนี้ หากขาดผู้นำครอบครัวคงเดือดร้อน เมื่อถามว่า ภรรยากับแม่ใครจะได้มากกว่ากัน นายยงยุทธ กล่าวว่า คงได้คนละส่วน อาจจะให้เท่ากัน เมื่อถามว่า แม่ของผู้เสียหายเสนอว่าน่าจะให้เงินเป็นก้อนครั้งเดียวจบเลย นายยงยุทธกล่าวว่า ไม่ได้ หลักเกณฑ์นี้จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ 3 ล้านจ่ายทันที 4.5 ล้านจะได้เป็นกองทุนยังชีพต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า เงินเยียวยา 2,000 ล้านจะเพียงพอหรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า เพียงพอ เพราะเป็นวงเงินที่ใช้เฉพาะผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และคนพิการ ส่วนการเยียวยาผู้ประกอบการจะประชุมกันในวันที่ 12 มี.ค.นี้ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์

นายยงยุทธยังกล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะพา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับประเทศไทยปลายปีนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เป็นคนไทย ก็ต้องอยากกลับบ้านเป็นธรรมดา ส่วนจะเป็นช่องทางใดนั้น ร.ต.อ.เฉลิมคงมีความคิดในศีรษะของท่านอยู่
กำลังโหลดความคิดเห็น