มหาดไทยสั่งเข้มผู้ว่าฯ 31 จังหวัด เร่งรัดโครงการ Flagship ป้องกันน้ำท่วมให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน ย้ำห้ามมีทุจริตไม่โปร่งใส พร้อมกำชับนายอำเภอ-ผญบ.เฉียบขาดพวกจุดไฟเผาป่าในพื้นที่ภาคเหนือ
วันนี้ (2 มี.ค.) ที่กระทรวงมหาดไทย นายประชา เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะโฆษกกระทรวงฝ่ายข้าราชการประจำ กล่าวว่าจากการที่รัฐบาลได้ลงพื้นที่ติดตามแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ จึงเกิดโครงการแก้ปัญหาอุทกภัย ที่มีความสำคัญเร่งด่วนเพิ่มเติม หรือ Flagship โดยให้จังหวัดในพื้นที่ดังกล่าว 31 จังหวัดรับผิดชอบ และต้องให้เสร็จภายใน 3 เดือน
นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการต่างๆ เพื่อให้การทำงานความคล่องตัว ไม่ต้องทำเรื่องมาที่กระทรวง งานที่ทำจะได้ไม่ล่าช้า เพราะฉะนั้น ขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างต้องมีความโปร่งใสเป็นธรรม ถือเป็นเรื่องที่กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญมาก อย่าให้มีข้อครหา ผู้ว่าฯ ทุจริต กินค่าหัวคิว หรือถูกนำไปแอบอ้างเพื่อผลประโยชน์อย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหลายพื้นที่ประสบกับปัญหาภัยแล้ง จึงเป็นอำนาจของผู้ว่าฯที่จะประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ ดังนั้นการใช้จ่ายหรือแจกสิ่งของต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านนั้นจึงต้องทำอย่างโปร่งใสเช่นกัน
รองปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าวอีกว่า เมื่อประชาชนพบความไม่โปร่งใสต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ข้าราชการ สามารถโทร.มาแจ้งที่สายด่วน 1567 ของศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย โดยผู้ที่แจ้งไม่จำเป็นต้องบอกชื่อ นามสกุล เพื่อการตรวจสอบทุจริต
ขณะที่สถานการณ์หมอกควันจากไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน นายประชากล่าวว่า นายอำเภอและผู้ใหญ่บ้านต้องร่วมมือในการป้องกันการจุดไฟป่า ดำเนินการเอาผิดต่อผู้ที่ทำการจุดไฟเผาอย่างจริงจัง และร่วมกันรณรงค์ห้ามจุดไฟเผาป่าหรือพื้นที่เพื่อทำการเกษตร เพราะทำให้เกิดหมอกควัน ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และการเดินทาง
วันนี้ (2 มี.ค.) ที่กระทรวงมหาดไทย นายประชา เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะโฆษกกระทรวงฝ่ายข้าราชการประจำ กล่าวว่าจากการที่รัฐบาลได้ลงพื้นที่ติดตามแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ จึงเกิดโครงการแก้ปัญหาอุทกภัย ที่มีความสำคัญเร่งด่วนเพิ่มเติม หรือ Flagship โดยให้จังหวัดในพื้นที่ดังกล่าว 31 จังหวัดรับผิดชอบ และต้องให้เสร็จภายใน 3 เดือน
นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการต่างๆ เพื่อให้การทำงานความคล่องตัว ไม่ต้องทำเรื่องมาที่กระทรวง งานที่ทำจะได้ไม่ล่าช้า เพราะฉะนั้น ขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างต้องมีความโปร่งใสเป็นธรรม ถือเป็นเรื่องที่กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญมาก อย่าให้มีข้อครหา ผู้ว่าฯ ทุจริต กินค่าหัวคิว หรือถูกนำไปแอบอ้างเพื่อผลประโยชน์อย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหลายพื้นที่ประสบกับปัญหาภัยแล้ง จึงเป็นอำนาจของผู้ว่าฯที่จะประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ ดังนั้นการใช้จ่ายหรือแจกสิ่งของต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านนั้นจึงต้องทำอย่างโปร่งใสเช่นกัน
รองปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าวอีกว่า เมื่อประชาชนพบความไม่โปร่งใสต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ข้าราชการ สามารถโทร.มาแจ้งที่สายด่วน 1567 ของศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย โดยผู้ที่แจ้งไม่จำเป็นต้องบอกชื่อ นามสกุล เพื่อการตรวจสอบทุจริต
ขณะที่สถานการณ์หมอกควันจากไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน นายประชากล่าวว่า นายอำเภอและผู้ใหญ่บ้านต้องร่วมมือในการป้องกันการจุดไฟป่า ดำเนินการเอาผิดต่อผู้ที่ทำการจุดไฟเผาอย่างจริงจัง และร่วมกันรณรงค์ห้ามจุดไฟเผาป่าหรือพื้นที่เพื่อทำการเกษตร เพราะทำให้เกิดหมอกควัน ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และการเดินทาง