“เหลิม” ม่ายเมา... แต่อภิปรายไม่ได้

สะเก็ดไฟ

การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ซีกรัฐบาลตั้งแท่นเสนอเรื่องเข้ามาเมื่อวันที่ 23-24 กุมภาพันธ์ ทำท่าว่าจะจบด้วยดี แฮปปี้เอนดิ้งของฝ่ายรัฐบาล เพราะที่สุดแล้วคะแนนโหวตก็ผ่านฉลุยในวาระแรก 399 ต่อ 199

แต่มันมีรายการผิดคิวช่วงก่อนจะจบ เมื่อ “เหลิม บางบอน” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ลุกขึ้นประท้วงถี่ยิบตอนที่ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ผู้นำฝ่ายค้านอภิปรายอยู่ ตะโกนย้ำแล้วย้ำอีกว่าพูดนอกประเด็น จนผิดสังเกต ประธานในที่ประชุมจับความผิดปกติได้ ฝ่ายค้านก็โห่ฮา

“รังสิมา รอดรัศมี” ส.ส.สมุทรสงคราม สวมบทดาวสภา ซัดโครม “ท่านประธานปล่อยให้คนเมาเข้ามาในที่ประชุมได้อย่างไร”

ประธานสั่งพักประชุมทันที ความชุลมุนโกลาหลไม่จบ เมื่อ “เหลิม” ยังเดินปรี่เข้าไปพูดจากับ “รังสิมา” แต่สุดท้ายก็ยิ้มแย้มหน้าอมชมพู นอกจากนั้น “อนันต์ ศรีพันธุ์” ส.ส.อุดรธานี ลูกน้อง ร.ต.อ.เฉลิมอีกคนหนึ่งก็ลุกขึ้นประท้วงลักษณะเดียวกัน แต่รายนี้หนักกว่าถึงขั้นเดินเอียง เซไปมา

กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ ลูกเข้าตีนฝ่ายค้าน เอามาขยายผลต่อเนื่อง “บุญยอด สุขถิ่นไทย” ถึงขั้นไปขุดคุ้ยขยะสภาหาขวดเหล้า

แต่ปมนี้ดูเป็นตลกคาเฟ่มากกว่า เพราะไปค้นอย่างนั้นก็เจอขวดสปาย เหล้าขาว พวกคนติดตาม ส.ส.อาจแอบเอามากินก็ได้

ฝ่ายค้านหยิบประเด็นนี้มาถล่ม ขอให้ตั้งกรรมการสอบจริยธรรม ขอให้ติดตั้งเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ พร้อมประกาศจะเดินหน้ายื่นกระทู้ถามสด ตั้งแท่นขยายแผล เพราะ “เหลิม” ช่วงนี้กำลังขึ้นหม้อ เดินหน้าทำงานเป็นชิ้นเป็นอัน โดยเฉพาะเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติด

เรื่องรัฐธรรมนูญฝ่ายค้านโหวตแพ้ขาดขนาดนั้น คงไม่มีอะไรพูดได้มาก รอไปพูดในวาระ 2-3 หรือ วาระตั้ง ส.ส.ร.น่าจะมีประโยชน์กว่า วันนี้เอาปม “ไม่เมาหล้าแต่เมารัก” มาขยี้ซ้ำก่อนเข้าท่ากว่า

แต่ “เหลิม” มีหรือจะยอมง่ายๆ สั่งตรวจสอบข้อมูลข่าวสารทุกแขนง พร้อมสั่งลูกน้องไปแจ้งความดำเนินคดีทันที ใครพูดพาดพิงกล่าวหาว่าเมา ไล่ฟ้องดะ ทั้งสื่อ ทั้ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ สั่งตัดเกม ตัดไฟต้นลม ใครพูดอีกฟ้องอีก นัยว่าเป็นการตัดกระแสไปในตัว

คนตั้งข้อสงสัย “เหลิม” เมาจริงหรือไม่ ท่าทางการพูดจาก็ทำให้หลายคนเชื่อได้ว่าเป็นอย่างนั้นจริง และติดใจว่าเหตุใดคนสรุปอภิปรายของซีกรัฐบาลจึงไม่ใช่ ร.ต.อ.เฉลิม กลายเป็น “สุนัย จุลพงศธร” ไปเสียฉิบ หรือว่าจะเมาจริงๆ

อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเสียหาย เสียรูปมวยสำหรับพรรคเพื่อไทย เพราะทุกอย่างทำท่าจะไปได้สวย จบด้วยดีอยู่แล้ว และวิปรัฐบาลก็ตกลงว่าปล่อยให้ฝ่ายค้านว่าไปเต็มที่ก่อนจะจบ แต่ ร.ต.อ.เฉลิมดันผิดคิว

เพราะไปงานข้างนอก กรึ๊บมาจากข้างนอกเพิ่งกลับเข้ามาในสภา

ส.ส.หลายคนในพรรคแอบป้องปากนินทา เชิงตำหนิ ร.ต.อ.เฉลิม ทำเสียกระบวน หลายคนส่ายหน้าด้วยความเอือมระอา พลาดนิดเดียวแท้ๆ เสียทรงไปเลย