“ณัฐวุฒิ” ยันแก้ รธน.เพื่อบ้านเมือง เป็นก้าวแรกสู่ความปรองดอง เหน็บคนต้านโรคจิตตีตนไปก่อนไข้ โวยจะเป็นไปได้ไงแก้เพื่อคนๆเดียว ทุกอย่างทำโดยเปิดเผยไม่ได้ไปทำในมุมมืด ส.ส.ร.ก็ทำบนดินเห็นกันทั่วประเทศจะล็อกสเปกได้อย่างไร ก่อนเย้ยคนร้องศาลอ้าง รบ.จะล้มล้าง รธน. อย่าหวังลุ้นหวยศาล รธน.ไม่ได้จะถูกทุกงวด
คลิกที่นี่ เพื่อฟังการอภิปรายโดย “นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ”
วันนี้ (24 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่าคนที่อภิปรายว่าไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ ก็อยากถามว่าแล้วทำไมตอนมีการทำรัฐประหารเมื่อมีคนปล้นอำนาจแล้วเผลอใจไปด้วยกับแก็งค์ปล้น วันนี้คนที่เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหารยังไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ 19 กันยายน 49 ก็ยังเข้ามาเป็น ส.ส.ตอนนี้ ที่บอกว่าทำไมต้องเร่งรีบแก้รัฐธรรมนูญ ก็ขอบอกว่ารัฐบาลสามารถทำงานได้หลายอย่างควบคู่ไปกันได้ นโยบายหลายเรื่องก็ขับเคลื่อนเดินหน้าไปได้ แม้เราไม่สามารถคิดนโยบายยิ่งใหญ่อย่างเอาไข่ไก่ไปชั่งกิโลได้ แต่หลายอย่างกำลังเดินหน้า จำนำข้าวแจกแท็บเล็ต
นายณัฐวุฒิย้ำว่า ที่บอกการแก้ครั้งนี้คือการตีเช็คเปล่าให้ ส.ส.ร. ไม่ใช่เช็คเปล่า แต่เป็นเช็คเข้าบัญชี ระบุชื่อบัญชีประชาธิปไตยขีดคร่อม 291 ว่าไม่แตะต้องสถาบันเบื้องสูง มีประชาชนเป็นผู้ตรวจสอบบัญชี รัฐธรรมนูญปี 50 ต่างหากเป็นการตีเช็คเด้งให้ประชาชนแล้วไม่ใช่เด้งเดียวแต่หลายเด้ง เช่นเด้งแรกเป็นรัฐธรรมนูญจากคณะรัฐประหาร และเด้งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่มาจากเลือกตั้งสองครั้ง และยังเด้งเอาพรรคที่แพ้เลือกตั้งมาเป็นรัฐบาล พวกตีเช็คเด้งมีสองประเภท คือ หนึ่ง ล้มเหลวสิ้นเนื้อประดาตัวและรวมหัวกันโกงประชาชนและประชาธิปไตย แล้ววันนี้จะเลือกเอาเช็คฉบับไหน
มีการวิจารณ์กันว่า รธน.ฉบับใหม่จะกระทบสถาบันเบื้องสูง เราก็ยืนยันว่าไม่มี พวกที่เสนอไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาล ที่แสดงจุดยืนชัดเจนว่าเราไม่เห็นด้วยไม่ดำเนินการแต่พยายามจะมาเชื่อมโยงกัน พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ลงนามแต่งตั้ง ป.ป.ช.โดยไม่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งแล้วคนเดียวกันนี้แต่งตั้ง ส.ส.ร.แล้วทำไมตอนนั้นไม่ออกมาสู้ หลายคนตอนนี้เวลานั้นอยู่ไหน แบ่งเค้กกันอยู่ที่ไหน
“เนื้อหา รธน.ปี 50 มีการดึงตุลาการเข้ามาสู่สถานการณ์ขัดแย้งการเมืองมากเกินไป ไปตั้งเป็นกรรมการสรรหาองค์กรอิสระและกรรมการองค์กรอิสระ ชี้ให้รัฐบาลเป็น รัฐบาลตาย ยุ่งไปหมด เอากรรมการมาเป็นผู้เล่น กองเชียร์ก็เลยลงสนามกันหมด เห็นด้วยอำนาจตุลาการต้องมี ต้องได้รับการปกป้องเห็นด้วยแต่ไม่ใช่ให้ทุกศาลลงมาหาเรื่อง” นายณัฐวุฒิระบุ
แกนนำ นปช.ผู้นี้อภิปรายอีกว่า ที่บอก ส.ส.ร.ในร่างนี้จะล็อกสเปก ล็อกได้อย่างไร ก็ทำบนดินเห็นกันทั่วประเทศ มาบอกจะไปทำใต้โต๊ะงุบงิบ ทั้งที่กกต.ชุดนี้ที่ทำคดียุบพรรคแล้วคดีขาดอายุความเป็นคนดำเนินการ ส.ส.ร.ชุดก่อนให้มีสมัชชาแห่งชาติสองพันคนแล้วเลือกกันเอง 200 คน ในสองพันคน มีไม่เลือกแม้แต่ตัวเองถึง 502 คน คือได้คะแนนศูนย์ เห็นได้ว่า 502 คนอาจเป็นเพราะคนที่เสนอชื่อส่งชื่อเท่านั้นขนาดตัวเองยังไม่เลือกตัวเอง
ที่บอกแก้เพื่อช่วยคนคนเดียว ใครเข้าฝันให้คิด เป็นไปได้หรือ รัฐบาลมาจากเลือกตั้งประชาชนจะคิดแบบนั้น รัฐบาลไม่ได้ชงเองกินเอง แต่ประชาชนมีส่วนร่วม ทำไมต้องดูถูกประชาชน ทุกอย่างทำโดยเปิดเผยไม่ได้ไปทำในมุมมืดโดยเฉพาะขั้นตอนสุดท้ายในการทำประชามติ จะไปเหยียบย่ำประชาชนได้อย่างไรคิดหรือประชาชนจะยอมให้รัฐบาลแก้รัฐธรรมนูญเพื่อคนๆเดียว ต่อให้เป็นรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งก็ต้องโดนพลังของประชาชน มีผู้ใหญ่บอกผมมาว่าจะมีคนไม่เห็นด้วยแก้รัฐธรรมนูญจะไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญว่ารัฐบาลจะล้มล้างรัฐธรรมนูญ แล้วล้มล้างที่ไหน เพราะทำตาม 291 ไม่ใช่ล้มล้างแต่แก้ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ อย่าไปทำให้สังคมสับสน อย่าลุ้นหวยศาลรัฐธรรมนูญนักเลย ไม่ได้จะถูกทุกงวด
“การแก้ครั้งนี้ก็เหมือนกับรัฐธรรมนูญอยู่ในห้องที่ถูกล็อก เราก็เอาลูกกุญแจไปไขห้องนี้โดยให้ ส.ส.ร.ที่ประชาชนเลือกไปเอาออกมาแล้วให้ประชาชนตัดสิน กุญแจยังไม่ได้ไขเลย เราแค่ถือลูกกุญแจเวียนไปเวียนมาแล้วมีพวกโรคจิตไปถ้ำมองเห็นตะคุ่มๆ แล้วตีโพยตีพาย บ้านเมืองนี้มีปัญหากับพวกโรคจิตแบบนี้ได้อย่างไร ให้ถอนตาออกจากฝาห้องแล้วตั้งสติอย่ามีพฤติกรรมเช่นนั้น เห็นใจรัฐธรรมนูญอยู่ในห้อง แต่เธอถูกค่อนแคะจากพวกถ้ำมอง ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าต้องถูกแก้ไข ยืนยันการแก้ครั้งนี้เพื่อให้บ้านเมืองเดินไปตามวิถีประชาธิปไตย เป็นช่องทางสำคัญในการสร้างความปรองดอง ไม่ได้บอกว่าแก้แล้วสันติภาพ ปรองดองเกิดขึ้นทันทีแต่มันจะทำให้บรรยากาศเสียดทานขัดแย้งลดลงและคลี่คลายลดลงแน่นอน ไม่อยากเชื่อบ้านเมืองนี้จะมีคนเสียหายจากการเป็นประชาธิปไตย จะมีคนเดือดร้อนจากการปรองดอง แล้วรัฐบาลจะเยียวยาพวกนี้อย่างไร รัฐบาลตบตาประชาชนไม่ได้ เพราะเคารพศักยภาพประชาชน หลอกลวงประชาชนทั้งแผ่นดินไม่ได้ อย่าดูแคลนประชาชน เราต้องการทำให้กติกาสูงสุดของประเทศเป็นของประชาชน สร้างความปรองดองได้จริง ตอนนี้มีสัญญาปรองดองเกิดขึ้น ราวกับดาวฤกษ์หลายดาวเกิดโดยพร้อมเพียงกัน มีงานที่ทำเนียบรัฐบาล แต่คนจะตรวจสอบราคาวงดนตรีที่มาในงาน ที่ผ่านมามีกำลังใด อำนาจใด สรรพาวุธใดไม่เคยใช้กับพวกผมบ้างแล้วทำไมประชาชนจำนวนมากเดินมากับพวกผม” นายณัฐวุฒิระบุตอนท้าย