“โคทม” โผล่สภา ยื่นรองประธานสภา เสนอที่มา ส.ส.ร.เพิ่มสัดส่วนตามประชากรในพื้นที่รวม 150-200 คน หวังรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญอย่างทั่วถึง รับจังหวัดละคนน้อยเกินไป พร้อมจี้กำหนดเงื่อนไขห้ามหาเสียง แถมลง ส.ส., ส.ว.ไม่ได้ใน 5 ปี ลบครหาไต่เต้าสู่อำนาจการเมือง และเพิ่มเวลายกร่างเป็น 1 ปี ด้าน “เจริญ” จ่อชง กมธ.วิฯ เล็งเชิญร่วมแจงด้วย ยันไม่ง่ายคนของพรรคจะได้นั่งเก้าอี้
วันนี้ (24 ก.พ.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 11.00 น.นายโคทม อารียา อาจารย์ประจำสถาบันสิทธิมนุษยชน และสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ยื่นหนังสือต่อ นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอแนวทางความคิดเห็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญและที่มาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) โดยกล่าวว่า ขอเสนอเรื่องที่มาของส.ส.ร. ซึ่งในร่างรัฐธรรมนูญที่เสนอแก้ไขให้มี ส.ส.ร.จังหวัดละ 1 คน รวม 77 คน ควรพิจารณาเพิ่ม ส.ส.ร.ตามสัดส่วนประชากรในพื้นที่ โดยให้จำนวนส.ส.ร.อยู่ที่ 150-200 คน เพื่อรณรงค์แนวทางเรื่องรัฐธรรมนูญได้อย่างทั่วถึง หากให้มี ส.ส.ร.จังหวัดละ 1 คน ถือว่าน้อยไป ซึ่งการให้มี ส.ส.ร.ได้จังหวัดละมากกว่า 1 คน เปิดโอกาสผู้ที่ไม่มีคะแนนจัดตั้งสามารถเข้ามาเป็น ส.ส.ร.โดยไม่ต้องอิงพรรคการเมือง อีกทั้งการเลือกตั้ง ส.ส.ร.ควรกำหนดเงื่อนไขว่า ห้ามมีการหาเสียง ให้ใช้การแนะนำตัวได้เพียงอย่างเดียว และหากใครได้เป็น ส.ส.ร.ห้ามลงสมัคร ส.ส.และ ส.ว.ภายในเวลา 5 ปี เพื่อไม่ให้มีข้อครหาอาศัย ส.ส.ร.เป็นช่องทางไต่เต้าไปสู่อำนาจทางการเมืองหรือพรรคการเมืองส่งคนไปแทรกแซง ส.ส.ร.ได้ ส่วนขั้นตอนการยกร่างรัฐธรรมนูญของ ส.ส.ร.ควรเพิ่มเวลาจาก 180 วัน เป็น 365 วัน เพื่อการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญทำให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมได้มากขึ้น
ด้าน นายเจริญ กล่าวว่า จะนำข้อเสนอดังกล่าวของนายโคทมส่งให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำนวน 45 คน ที่จะจัดตั้งขึ้นหลังจากผ่านการลงมติในวาระ 1เพื่อให้เชิญนายโคทม มาให้ข้อเสนอถึงแนวทางการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็เป็นไปได้ที่กรรมาธิการฯจะรับฟังข้อเสนอ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ได้รับการเลือกตั้งส.ส.ร.จะเป็นคนของพรรคการเมืองในพื้นที่นั้นๆ นายเจริญ กล่าวว่า รู้ได้อย่างไร เป็นการจินตนการเอง ตนลงพื้นที่ 7 สมัย ก็ต้องหาเสียง เพราะไม่แน่ใจว่าจะได้รับเลือกตั้งหรือไม่ อย่าไปดูถูกประชาชน มันไม่ง่ายที่คนของพรรคการเมืองจะได้เป็น ส.ส.ร.
