รมว.กลาโหม เผยภารกิจเยือนมาเลย์หวังเจรจาหาทางดับไฟใต้ ส่วนเรื่องขอตัวผู้ต้องหาชาวอิหร่านคดีระเบิดปล่อยเป็นหน้าที่ สมช. เชื่อความขัดแย้ง “อิหร่าน-อิสราเอล” กระทบทั่วโลก ยันไทยไม่เป็นฐานก่อการร้ายแน่
วันนี้ (20 ก.พ.) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวก่อนออกเดินทางไปเยือนมาเลเซีย ร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เเละพล.อ.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่า วันนี้ไปหารือถึงเรื่องภาคใต้ว่า ทางมาเลเซียมีข้อมูลอย่างไรในการช่วยประเทศไทยได้บ้าง รวมทั้งหารือความร่วมมือทางทหาร ส่วนจะหารือเรื่องส่งคนร้ายชาวอิหร่านกลับมาดำเนินคดีในไทยหรือไม่นั้น เรื่องนี้ทางทหารจะไม่คุย แม้จะมีข้อมูลนี้ก็ตาม แต่คงพูดไม่ได้ เพราะ สมช.คงจะหารือ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงจริงๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่สำหรับสถานการณ์ที่ตึงเครียดในขณะนี้ระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล รมว.กลาโหมกล่าวว่า เป็นห่วงเพราะความขัดแย้งมันเกิดทั่วโลก ไม่เฉพาะเจาะจงเกิดในไทยเท่านั้น แต่เมื่อเกิดเหตุต้องเข้มงวดและเข้มข้นขึ้นส่วนข่าวการใช้ไทยเป็นฐานก่อการร้ายนั้น ตอนนี้คงน้อยลง เพราะเชื่อว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้นแล้ว แต่จะไม่ประมาทและเตรียมรับมือให้ดี
เมื่อถามว่า พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษานายกฯ อ้างว่าเหตุระเบิดในไทยนั้น เป็นเพราะไทยเป็นประเทศเสรีในการเดินทางเข้าออก รมว.กลาโหมกล่าวว่า มันเป็นเรื่องที่ได้อย่างเสียอย่าง มันไม่ได้ทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้เป็นนโยบายต่อประเทศที่ได้เงินจากการท่องเที่ยว ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบแล้วขึ้นแล้ว ฝ่ายปฏิบัติก็ต้องทำงานหนักขึ้นอีก เพื่อให้นโยบายประเทศเดินหน้าต่อไป
