“ส.ว.พิเชต” ฝาก “ชุมพล” เลิกคิดยึดตัวเลขนักเที่ยวเป็นผลงาน แนะเข้มพวกอาหรับแบ็กแพกเข้าเมือง ด้าน “ส.ว.มณเฑียร” สับมาตรฐานสายการบินไม่เข้าใจผู้โดยสารพิการสายตา พร้อมจี้ปฏิรูปค้าสลากกินแบ่งฯ เกินราคา
วันนี้ (20 ก.พ.) ที่รัฐสภา การประชุมวุฒิสภา มี พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา เป็นประธานในกาประชุม ก่อนเข้าสู่วาระเปิดโอกาสให้สมาชิกหารือ โดยนายพิเชต สุนทรพิพิธ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ฝากไปถึงรัฐบาลโดยเฉพาะนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ให้เปลี่ยนแนวคิดและนโยบายในการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ยึดจำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวเป็นผลงาน เป็นการเปิดประตูประเทศแบบ 180 องศา โดยเฉพาะการจัดให้ทำวีซ่า ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวรับเข้ามาหมดโดยเฉพาะแบ็กแพก ทำให้เจ้าหน้าที่กองตรวจคนเข้าเมืองซึ่งมีไม่เพียงพอเกิดแรงกดดันต้องทำงานอย่างเร่งรีบ ไม่มีเวลาตรวจข้อมูลครบถ้วน ซึ่งนักท่องเที่ยวแบบแบ็กแพกเข้ามา 100 คน น่าจะนำเงินเข้ามาน้อยกว่านักท่องเที่ยวในระดับที่ดีเพียง 10 กว่าคน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวแบ็กแพกจากตะวันออกกลางน่าจะต้องตรวจเข้มเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์โลกในปัจจุบัน การเปิดประเทศให้พวกนี้เข้ามาง่ายๆ หวังตัวเลข และรายได้จำนวนมากอาจก่อให้เกิดปัญหาได้ตามที่เป็นข่าวมาในปัจจุบัน และยังทำให้นักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพหดหายไปด้วย ดังนั้น ขอให้ รมว.ท่องเที่ยวฯ ทบทวน อาทิตย์ที่แล้วถ้าไม่พระสยามเทวาธิราชไม่ช่วยไว้ คนร้ายดำเนินการสำเร็จตามเป้า ธุรกิจท่องเที่ยวฟุบไปอีกนาน
ด้าน นายมณเฑียร บุญตัน ส.ว.สรรหา ได้หารือว่า มีเรื่องที่กระทบต่อชื่อเสียงของประเทศได้ โดยในสิ้นปีนี้เราจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสหภาพคนตาบอดและสภาด้านการศึกษาสำหรับผู้พิการทางการมองเห็น แต่ปรากฏว่ามาตรฐานการให้บริการของสายการบินในประเทศไทยยังมีปัญหา เพราะการให้บริการไม่ใช่แต่มีน้ำใจเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับผู้บริโภคหรือผู้โดยสารด้วย ตัวอย่างที่เห็นชัดเจน คือ ตนเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ซึ่งขากลับทุกครั้งที่สนามบินสุวรรณภูมิจะมีคนนำรถวีลแชร์ไปรับ สะท้อนให้เห็นว่าไม่เข้าใจเกี่ยวกับคนพิการและความพิการของทางสายการบิน ไม่ว่าจะเป็นการบินไทยหรือสายการบินอื่นๆ จึงขอให้ปรับแนวคิดใหม่ให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดความขายหน้าเกิดขึ้นอีก
นายมณเฑียรยังได้หารือถึงปัญหาราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีราคาแพงว่า ขณะนี้ราคาสลากขายส่งอยู่ที่ใบละประมาณ 96 บาท เกินราคาควบคุม 16 บาท เป็นกลไกราคาตลาดที่บิดเบือน มีการเก็งกำไรและหาประโยชน์อย่างมหาศาล แม้จะร้องเรียนมาหลายรัฐบาลก็ไม่สามารแก้ไขปัญหาได้ จึงอยากให้รัฐบาลได้เร่งปฏิรูปโดยอาจแก้ พ.ร.บ.เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ไม่กดขี่ขูดรีด