นายกฯ ลงบางบาล เยี่ยมซ่อมประตูระบายน้ำ และพื้นที่แก้มลิง กรมชลฯ เผย ชาวบ้าน 90% ยอมจม แต่ขอทำนาปรังปีละ 2 ครั้ง เพิ่มสาธารณูปโภค ขอค่าชดเชยเป็นธรรม คาดเก็บได้ 90 ล้าน ลบ.ม.เจ้าตัวขอบคุณเสียสละ ฝากผู้ว่าฯ ช่วยดูแล โอ่พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวรองรับจัดเวิลด์เอ็กซ์โป
วันนี้ (16 ก.พ.) ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเวลา 15.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะได้เดินทางมายังพื้นที่ อ.บางบาล เพื่อตรวจเยี่ยมการปรับปรุงประตูระบายน้ำและการเตรียมพื้นที่รองรับน้ำนอง (แก้มลิง) ในพื้นที่ อ.บางบาล พร้อมทั้งรับฟังการบรรยายสรุปจาก นายชลิต ดำรงค์ศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทานด้วย ทั้งนี้ มีอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กว่าพันคนให้การต้อนรับ
โดยอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวรายงานว่า อำเภอบางบาล ถือเป็นพื้นที่แก้มลิงในส่วนของโครงการพระราชดำริ และจากการทำประชาคมได้รับความมือร่วมมือจากประชาชน 90% แต่อยากให้ภาครัฐช่วยเหลือโดยสามารถทำนาปรังได้ปีละ 2 ครั้ง ช่วยในเรื่องสาธารณูปโภค ให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ในขณะที่น้ำท่วม และเมื่อเวลาหมดน้ำก็ขอให้รัฐจ่ายค่าชดเชยอย่างเป็นธรรม ในช่วงหน้าแล้งที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือจากเกษตรกรให้เป็นพื้นที่นำร่องเอาน้ำเข้าไปในแก้มลิง 29 ล้านลูกบาศ์กเมตร ถ้าทำเป็นแก้มลิงก็ต้องมีระบบวิศวกรรมคือ ต้องมีประตูเปิด-ปิดประตูน้ำ ต้องโรงสูบน้ำออก พร้อมต้องมีการบริหารน้ำเพื่อการเกษตรด้วยต้องมีอาคารส่งน้ำ มีการยกระดับถนนและยกระดับบ้าน ถ้าทำโครงการนำร่องนี้ได้ ก็จะทำให้เก็บน้ำได้ 29 ล้านลูกบาศ์กเมตร ทำแก้มลิงได้จะเก็บน้ำได้ 90 ล้านลูกบาศ์กเมตร โครงการนำร่องจะเร่งเสริมคันกั้นน้ำโดยใช้งบ 303 ล้านบาท
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนขอขอบคุณชาวบางบาล ที่เสียสละให้พื้นที่รับน้ำทำแก้มลิง ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์มาก เพราะเรามีความจำเป็นต้องหาพื้นที่รับน้ำชั่วคราว ทั้งนี้ ขอฝากผู้ว่าราชการจังหวัดไปดูแลประชาชน เพราะถือว่าทำคุณประโยชน์ให้กับจังหวัดและประเทศ ซึ่งวิธีการนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะจะสามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างเป็นระเบียบ และพื้นที่เหล่านี้ก็จะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อแม่น้ำสายหลัก และต้องไปดูการขุดลอกคูคลองเพื่อให้น้ำไหลผ่านลงมาสู่แก้มลิง จากนั้นก็สูบน้ำระบายออกในเวลาที่เหมาะสม จะต้องให้กระทบกับการดำรงชีวิตของประชาชนให้น้อยที่สุด นี่คือ หัวใจสำคัญที่เข้ามาทำการขอร้องประชาชน เรามีความรู้สึกประทับใจที่ประชาชนเสียสละให้กับรัฐบาล และ กยน.ในการหาพื้นที่รับน้ำ ถ้าเราจัดให้น้ำอยู่เป็นระบบเราก็จะแก้ไขปัญหาน้ำที่ไม่มีจุดจบได้ โดยพรุ่งนี้ (17 ก.พ.) ตนจะลงไปดูพื้นที่ปลายน้ำทั้งหมดเพื่อให้น้ำไหลผ่านลงทะเลได้อย่างสะดวก ซึ่งระหว่างนั้นเราต้องพักน้ำในแก้มลิงก่อน ทั้งนี้รัฐบาลยืนยันว่าจะพัฒนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและพัฒนาเศรษฐกิจต้อนรับเวิลด์เอ็กซ์โป 2020 ด้วย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางไปยังพื้นที่เกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจเยี่ยมการบูรณะพื้นที่โบราณที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยครั้งที่ผ่านมา