xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” ชี้ “สหรัฐฯ-อิหร่าน” ซัดกันหนักแน่ แนะไทยไล่สองฝ่ายไปขัดแย้งที่อื่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (แฟ้มภาพ)
แกนนำพันธมิตรฯ คาด “สหรัฐฯ-อิหร่าน” ตอบโต้กันหนักแน่ หลังซีไอเอสังหารนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์อิหร่าน ขณะเมืองไทยกำลังกลายเป็นสวรรค์นักก่อการร้าย เพราะระบบ ตม.อ่อนแอ แนะไทยแสดงจุดยืนไม่เป็นเวทีขัดแย้งให้ทั้งสองฝ่าย เลิกเป็นสมุนรับใช้ตะวันตก

วันนี้ (16 ก.พ.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้ความเห็นเมื่อสายวันนี้ว่า ความขัดแย้งของโลกมาอยู่ที่อเมริกา กับอิหร่าน เพราะชาวอิรักคงจะทะเลาะเบาะแว้งภายในเพื่อช่วงชิงอำนาจกันอีกนาน และโลกตะวันตกใช้อิสราเอลเป็นตัวแทน การตอบโต้จากอเมริกาที่จะกระทำกับอิหร่าน ทำตรงๆ ไม่ได้ในเวลานี้ แต่เกิดขึ้นในลักษณะการสังหารนักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านโดยซีไอเอ (หน่วยสืบราชการลับกลางแห่งสหรัฐอเมริกา) จึงไม่แปลกใจที่อิหร่านจะหาทางตอบโต้โลกตะวันตกและยิวทั่วโลก

“และประเทศไทยเหมือนเป็นสวรรค์เพราะอ่อนแอในระบบตรวจคนเข้าเมือง ชาวตะวันออกกลางที่ขัดแย้งกับโลกตะวันตกจึงเข้ามาอยู่ในประเทศไทยอย่างเสรี ในขณะเดียวกัน ตำรวจและฝ่ายปกครองบ้านเราก็ตกเป็นเครื่องมือให้พวกฝรั่ง ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นสมรภูมิแห่งความขัดแย้ง ไทยควรแสดงจุดยืนในการเจรจากับทั้ง 2 ขั้วว่าประเทศไทยจะไม่ยอมให้เกิดความขัดแย้งภายในประเทศโดยเด็ดขาด (ไม่ว่าการจับกุมฝ่ายตรงกันข้าม หรือเข้ามาก่อวินาศกรรมเพื่อล้างแค้น) ใครทำไม่ได้ก็ไม่ควรให้เข้าประเทศ และควรเลิกทำตัวเป็นสมุนรับใช้โลกตะวันตกได้แล้ว เพราะรังแต่จะทำให้ประเทศไทยถูกลากเข้าไปในความขัดแย้งโดยไม้ได้ประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น ใครอยากจะทะเลาะกันจะไปที่ไหนก็ได้แต่ต้องไม่ใช่ในประเทศไทย”

ต่อมานายปานเทพได้โพสต์ข้อความต่อว่า นายสนธิแสดงความเห็นก่อนเที่ยงวันนี้ว่า "ถ้าจะดูโลกใบนี้ จะเห็นได้ว่า โลกถูกออกแบบโดยตะวันตกเพื่อให้ตอบสนองกับทุน ผ่านเศรษฐกิจโดยฉันทานุมัติกรุงวอชิงตัน ใน 4 รูปแบบ ได้แก่ 1. Cross Cultural (การข้ามผสานเผยแผ่ทางวัฒนธรรม) 2. Diversity (ความหลากหลาย) 3. Networking (โครงข่าย) และ 4. inter-dependent (การพึ่งพิงอาศัยซึ่งกันและกันระหว่างประเทศ) โดยมีคำอธิบายโดยสังเขปดังนี้

1. Cross Cultural คือ การข้ามผสานเผยแผ่วัฒนธรรม ผ่าน เพลง แฟชั่น ภาพยนตร์ ทีวีซีรี่ย์ สถานีข่าว การศึกษา และภาษา เพื่อให้โลกตะวันตกสามารถเข้าครอบงำให้เกิดความเชื่อว่า ตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา คือความก้าวหน้านำสมัย คือความถูกต้อง เช่น ฮอลลีวู๊ด โคคา-โคลา ในขณะที่วัฒนธรรมและความเชื่อของโลกตะวันออกคือความเลวร้าย ความล้าสมัย คือสิ่งผิด ในระยะหลังจะทำให้เกิดความแนบเนียนให้มากขึ้นโดยการแทรกชาวตะวันออกเข้าไปเพื่อให้ได้รับความน่าเชื่อถือมากขึ้น เช่น ภาพยนตร์บางเรื่องแทรกตัวละครชาวจีนเข้าไปในการป้ายสีความเลวร้ายของกระบวนการยุติธรรมในจีน เพื่อปูพื้นฐานให้ทั่วโลกดูถูกและหล่อหลอมทำให้เชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมของจีนไม่ยุติธรรมอันจะนำไปสู่การต่อต้านและไม่ยอมรับนับถือกระบวนการยุติธรรมของจีนในอนาคต แม้กระทั่ง สำนักข่าวในโลกตะวันตก เช่น BBC, Bloomberg, และ CNN ก็มักจะเอาคนเอเชียออกอากาศเป็นผู้ประกาศข่าว หรือวิเคราะห์ข่าวมากขึ้น เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือในข้อมูลโลกาภิวัฒน์เกิดขึ้นบทฐานส่งของโลกตะวันตกและอเมริกา ทั้งนี้ถือเป็นการหล่อหลอมหัวดำหัวฝรั่งให้เกิดขึ้นเพื่อนำไปสู่ตลาดเดี่ยว Single market เพื่อให้ซึมซับทั้งโลก ถ้าอยู่ในโลกาภิวัฒน์ที่ถูกต้องอยู่แบบชาวตะวันตกและอเมริกา

2. Diversity คือ ความหลากหลาย ถือเป็นจุดเปลี่ยนของการตลาด ในอดีตโลกผลิตแบบสายพาน แต่เดี๋ยวนี้ มีรุ่นและเวอร์ชั่นของสินค้าให้มีความหลากหลายมากมาย เพราะหลังจากได้เผยแผ่ทางวัฒนธรรมแล้ว ก็ต้องมีการการเพิ่มโอกาสทางการตลาด เพราะถ้าใช้ระบบสายพานแต่เพียงอย่างเดียวก็จะแพ้ตะวันออกซึ่งมีต้นทุนถูกกว่า อเมริกาและตะวันตกจึงต้องเป็นเจ้าแห่งดีไซน์ ควบคูไปกับการจดลิขสิทธิ์ จดสิทธิบัตรเพิ่ม เพื่อดึงความได้เปรียบและดึงความมั่งคั่งจากตะวันออก

3. จากการสร้างขบวนการ Cross Cultural และ Diversity แล้ว จึงต้องสร้าง Networking คือ โครงข่าย ได้แก่การย้ายฐานการผลิตไปยังตะวันออก ไม่ว่าจีน เวียดนาม ไทย ฯลฯ ทำให้นอกจากจะได้ต้นทุนที่ถูกแล้ว ยังสร้างระบบที่แบ่งประโยชน์ค่าแรงและการผลิต(ในราคาถูกๆ)ให้เป็นผลตอบแทนในประเทศโลกตะวันออกเพื่อไม่ให้เกิดการต่อต้าน อันเป็นการเพิ่มหลักประกันในประการต่อมา คือ

4. Inter-dependent การพึ่งพิงอาศัยระหว่างประเทศ เมื่อ โลกถูกล้างสมอง และเกิดกระบวนการทั้งสามแล้ว คือ Cross Cultural + Diversity + Networking แล้วก็จะทำให้ โลกตะวันออกถูกครอบงำทางความคิด และการผลิต และต้องเกิดการพึ่งพิงพิงโลกตะวันตกและอเมริกาโดยโงหัวไม่ขึ้น

ด้วลักษณะ 4 รูแแบบดังกล่าวข้างต้น ทำให้ทุนที่มีขนาดใหญ่กว่าจากโลกตะวันตกและอเมริกา จึงสามารถเข้าครอบงำและสูบความมั่งคั่งจากโลกตะวันออกได้ สอดคล้องกับเป้าหมายของฉันทานุมัติกรุงชิงตัน และเกิดการสร้างเครื่องมือในรูปแแบบของายองค์กรเพื่อเคลื่อนไหวให้เป็นประโยชน์ต่อทุนใหญ่ในสหรัฐอเมริกาและโลกตะวันตก หรือขจัดอุปสรรคทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ที่จะขัดขวางการสูบความมั่งคั่งของกลุ่มทุนขนาดใหญ่ในประเทศต่างๆ เช่น กลุ่ม illuminati, Council on Foreign Relation (CFR), CIA, บริษัทล็อบบี้ยิสต์ หรือกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากทุนใหญ่หรือสภาคองเกรซในสหรัฐอเมริกา

“ประเทศไทยจึงต้องระวังพวกเรา ไม่ลุ่มหลง มีสติ อันเป็นธรรมของพระพุทธเจ้า และความรักชาติรักแผ่นดิน ตลอดจนสถาบันพระมหากษัตริย์ทีทรงทศพิธราชธรรม ถือเป็นลักษณะของชาตินิยมและเป็นภูมิคุ้มกันประเทศ ซึ่งย่อมเป็นอุปสรรคต่อทุนข้ามชาติที่มุ่งหวังเพียงแค่จะสูบความมั่งคั่งและปล้นทรัพยากรในประเทศออกไป หากเรายอมจำนน โลกทั้งใบจะตกเป็นทาสทุนของบรรษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ในที่สุด และสุดท้ายทักษิณจะอยู่ในฐานะเป็นแค่ "Butler" หรือ "หัวหน้าคนใช้" ของบรรษัทข้ามชาติเท่านั้น !!!”

ข้อความในเฟซบุ้คของนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
กำลังโหลดความคิดเห็น