xs
xsm
sm
md
lg

ถกลับนโยบาย-เรื่องชู้สาว ที่ชั้น 7 มาถึงวันนี้ “ปู” ต้องชี้แจงด่วน!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

ตอนแรกก็เข้าใจว่าเป็นแค่เรื่องหมั่นไส้ หรือเป็นฝีมือของพวกหน่วยรักษาความปลอดภัย รวมไปถึงลูกน้องที่เดือดร้อนแทนนายจึงลงมือทำร้าย เอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุกิจชื่อดังจนได้รับบาดเจ็บ และมีการโพสต์ภาพลงในเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ด้วยข้อความที่เขาพูดออกมาแบบครึ่งๆ กลางๆ สื่อนัยออกมาบางอย่าง เช่น บอกว่า “เกี่ยวข้องกับศีลธรรม” พร้อมทั้งขู่ว่าจะมีการแฉออกมาเป็นรายวัน หากฝ่ายรัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่ดำเนินการกับคนที่ทำร้ายเขา

อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมาเรื่องทำท่าจะหายเข้ากลีบเมฆตามที่ “บางคน” ตั้งใจเอาไว้ แต่ดันกลายเป็นเรื่องบานปลายขึ้นมาจนได้ เพราะพวก “ลิ่วล้อ” ที่แม้หวังดีแต่กลายเป็นประสงค์ร้ายต่อ “เจ้านายคนสวย” อย่างร้ายกาจที่สุด เพราะไปกันคนละทาง และมีพิรุธมากขึ้นจนทำให้สังคมที่ตอนแรกมีความสนใจอยู่ในวงจำกัด ขยายเป็น “อยากรู้อยากเห็น”มากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่น่าเชื่อ ทำนองยิ่งปิดก็ยิ่งอยากแอบดูนั่นแหละ

คนแรกที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างรองนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ให้มาทำหน้าที่ไม่ต่างจาก “โฆษกเรื่องส่วนตัว” อีกตำแหน่งหนึ่ง เพราะข่าวตอนแรกบอกว่าการเดินทางไปโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.จนถึงเวลาประมาณ 16.00 น.ของนายกรัฐมนตรีเป็น “เรื่องส่วนตัว” แต่ “ปิดลับ” และตัวนายกฯยิ่งลักษณ์ ก็ยอมรับด้วยตัวเอง แต่ให้ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นผู้แถลงรายละเอียด

ซึ่งก็เป็นไปตามสไตล์นั่นคือมีเอกสาร อ้างว่าเป็นสำเนาภาพถ่ายที่ได้จากกล้องวงจรปิดของโรงแรมที่มีชายคนหนึ่งร่างสูงใหญ่ปรี่เข้ามาทำร้าย เอกยุทธ จนหน้าตาบวมปูดก่อนวิ่งหลบหนีไปพร้อมทั้งสันนิษฐาน 4 ข้อ ทั้งเรื่องหมั่นไส้ส่วนตัวไปจนถึงเรื่องแย่งกันจีบสาวเป็นต้น แต่ที่เป็นประเด็นก็คือ ร.ต.อ.เฉลิม ขยายความว่าสาเหตุที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ขึ้นไปที่ชั้น 7 นั้นออกมาในทำนองว่าไปประชุม แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไม่ได้เตี้ยมกันในรายละเอียดหรือเปล่า เพราะก่อนหน้านั้น นายกฯบอกเองว่าไม่ได้ไปประชุมแต่ไปเรื่องส่วนตัว และอ้างว่านายกฯ มีสิทธิ์ที่จะไปที่ไหนก็ได้ แต่ความหมายก็คือ ไม่ได้ไปประชุมแน่นอน

ขณะเดียวกัน อาจเป็นเพราะคราวซวยของ นายกฯ นกแก้วก็ได้ เพราะดันมีทีมงาน “ผู้หวังดี” ที่เป็นทีมโฆษกของทั้งรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ที่แย่งกันแถลงจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์ เท่าที่จับใจความได้ก็คือ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ไป “ถกลับ” กับพวกนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และนักวิชาการกลุ่มหนึ่งเพื่อออกนโยบายของรัฐบาล แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่มีเรื่องไม่งาม อีกทั้งสถานที่ดังกล่าวก็เป็นโรงแรมหรู มีคนพลุกพล่าน

ถัดมาก็มี นพดล ปัทมะ คนใกล้ชิด ทักษิณ ชินวัตร ก็ยังออกมาแถลงชี้แจงแทนโดยย้ำว่า ไม่มีเรื่อง “ชู้สาว” แน่นอน

โอ นี่มันอะไรกัน ทำไมมันมั่วซั่ว จากเดิมที่เป็นเรื่องธรรมดาไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นพวก รปภ.ที่หมั่นไส้ หรือกร่างโดดเข้าชกหน้าเอกยุทธ อัญชันบุตร เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างคนทำร้ายและคนที่ถูกทำร้ายดังกล่าว แต่ไปๆ มาๆ เวลานี้กลายเป็นเรื่องที่ต้องมีการ “สอบสวนหาความจริง” กันแล้ว

เพราะหากเป็นเรื่องที่บอกว่าเป็นการไป “หารือลับ” กับบรรดานักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อออกเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล และยังเปิดเผยไม่ได้ นั้นมันเป็นนโยบายอะไรกันแน่ เกี่ยวข้องกับเรื่องนโยบายทำฝลัดเวย์ โดยใช้ที่ดินทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดสำหรับเป็นพื้นที่รับน้ำหรือเปล่า ซึ่งหากเป็นแบบนี้มันก็ย่อมมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง

จากข้อมูลที่ออกมาจากปากของเอกยุทธ ก็ยังเคยย้ำว่ามีเรื่องแบบนี้รวมอยู่ด้วย พร้อมทั้งมีการเอ่ยชื่อถึงนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ “หนุ่มใหญ่” คนหนึ่งด้วย ขณะที่มีข้อมูลจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุออกมาจาก มัลลิกา บุญมีตระกูล ที่ว่าในช่วงเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปีที่แล้วรัฐบาลได้ผันน้ำไปทางตะวันตก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำท่วมโครงการบ้านจัดสรรของนักธุรกิจบางคน ทำให้เป็นที่สงสัยว่าเป็น “คนเดียวกัน” หรือเปล่า และที่สำคัญระหว่างที่นายกฯยิ่งลักษณ์ เดินทางไปโรงแรมโฟส์ซีซันนั้น หากเป็นเรื่องส่วนตัว ก็เป็นการทุจริตเวลาราชการ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาของการประชุมสภา

ล่าสุด รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ฐิติมา ฉายแสง ก็ออกมาย้ำแทนสำทับอีกว่า ไม่มีเรื่องเสื่อมเสียแน่นอน แต่เหตุผลสำหรับการไปที่นั่นก็ไม่อาจเปิดเผยได้ มันก็ยิ่งชวนให้อยากรู้ว่า ทำไมถึงเปิดเผยไม่ได้ มันยิ่งเผยให้เห็นพิรุธ และชวนให้ค้นหาความจริงว่าแท้จริงแล้วมันคือเรื่องอะไรกันแน่ ไม่ใช่คนนั้นคนนี้มาแถลงชี้แจงยืนยันแล้วก็จบกัน เพราะในฐานะนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำประเทศ เป็นบุคคลสาธารณะจะต้องเปิดเผย ตรวจสอบได้ และไม่ใช่ว่าจะทำธุระส่วนตัวไม่ได้ ทำได้ อย่างเช่น ไปรับประทานอาหาร ไปพบสนทนากับคนรู้จักก็ไม่เห็นเสียหายตรงไหน แต่กลายเป็นว่าทำเป็นลับๆ ล่อๆ มีพิรุธ ยิ่งทำให้เข้าใจว่า มีเรื่องไม่งาม เกี่ยวกับเรื่องศีลธรรม หรือไม่ ซึ่งมันก็ช่วยไม่ได้ที่จะเกิดการซุบซิบขึ้นมา

และยิ่งมีการแถลงย้ำว่าเป็นการไปหารือเกี่ยวกับนโยบายสำคัญของรัฐบาลยิ่งต้องชี้แจงให้เคลียร์ว่าไปหารือกับใคร ทำไมไม่คุยกันที่ทำเนียบรัฐบาล บ้านพิษณุโลก หรือแม้แต่สภาเป็นการประชุมลับก็ได้ อีกทั้งถ้าเป็นนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ตามที่หลายฝ่ายจับจ้องกันอยู่นั้นมันก็ไปกันใหญ่ เนื่องจากธุรกิจของครอบครัวนายกรัฐมนตรีเองก็ทำธุรกิจดังกล่าวด้วย ทำให้น่าสงสัยว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนหรือเปล่า โดยยกเอาเรื่อง “ชู้สาว” ออกไปก็ได้ เพราะถ้าเป็นแบบนี้จริงมันไม่น่าเป็นเรื่องส่วนตัวอย่างแน่นอน

ที่สำคัญมาถึงตรงนี้ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะต้องเคลียร์ให้หายข้องใจด้วยตัวเอง!!
กำลังโหลดความคิดเห็น