“เอกยุทธ” เชื่อคนร้ายหมายเอาชีวิต เผยรู้ตัวคนร้ายเด็กใคร กระตุ้นจนท.จัดการ แย้มหากไม่คืบจะไปลงบันทึกประจำวัน เหน็บ “เหลิม” อย่าแกล้งโง่ พร้อมท้าพูดตัวต่อตัวต่อหน้าสื่อ ยันเดินหน้าสู้ เตรียมประสาน “หมอพรทิพย์” ตรวจบาดแผลเป็นหลักฐานหากมีการฟ้องร้อง ระบุมีผู้หวังดีพร้อมส่งทหารหน่วยรบพิเศษคุ้มครอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 12 ก.พ. นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุกิจด้านการเงินละเจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ กล่าวว่า ตนยังคงยืนยันว่าการที่จะให้ตนไปแจ้งความตำรวจไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดหมดแล้ว ซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่ตนมี ด้านเจ้าหน้ารัฐเองก็ทราบชัดอยู่แล้วแต่ไม่ดำเนินการทำไมต้องรอให้ไปร้องทุกข์ และตนก็จะเดินในเกณฑ์ของตนที่มีอยู่ เพราะตอนนี้ตนทราบหมดแล้วว่าใครที่อยู่เบื้องหลัง และรู้ว่าคนที่ใส่ชุดซาฟารีเป็นคนของใคร เฉลิมจะไม่ฉลาดพอเลยหรือว่าคนนั้นลิงก์ไปถึงใคร และเหตุการณ์ในครั้งนั้นตนเชื่อว่ามากกว่าต่อย เพราะชายดังกล่าวก็ถึงขั้นจะชักปืนขึ้นมายิงตน แต่บังเอิญเขาล้มไปก่อนและมีคนวิ่งเข้ามาช่วยพอดีทำให้คนร้ายวิ่งหนีไป และยืนยันว่าวันนั้นตนไม่มีบอดี้การ์ด และชาย 3 คนนั้นเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรม รัฐบาลเลอะเทอะไปกันใหญ่แล้ว อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีการประสานมาแต่อย่างใด และถ้ามีควมจำเป็นตนก็จะไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้จะมีการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยให้ตนเองหรือไม่ นายเอกยุทธกล่าวว่า ตนไม่ใช่นักเลงแต่ตนอาจต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อย เพราะอยู่ต่างประเทศไม่เคยโดนทำร้าย ซึ่งตอนนี้มีคนจะส่งชุดทหารหน่วยรบพิเศษมาดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับตน ซักต่อว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์มีคนโทรศัพท์มาข่มขู่หรือไม่ นักธุรกิจด้านการเงินกล่าวว่า สำหรับตนไม่มี แต่คนรอบข้างได้รับโทรศัพท์แปลกๆ ถามอีกว่าถ้าถึงสุดท้ายแล้วจะบุกไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อขอคำตอบหรือไม่ นายเอกยุทธกล่าวว่า ทุกวันนี้เขาแถลงข่าวอยู่ฝ่ายเดียวอยู่แล้ว เอาอย่างนี้ดีกว่า ตนกับเฉลิมมาเจอกันต่อหน้าสื่อมวลชนเลยดีกว่า พูดกันคนละครั้ง
แหล่งข่าวใกล้ชิดนายเอกยุทธเปิดเผยว่า นายเอกยุทธเตรียมประสาน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ตรวจบาดแผลจากการถูกทำร้าย เพื่อใช้เป็นหลักฐานหากมีการฟ้องร้อง