“ธงทอง” เผยตัวเลข 10 ล้าน จัดงาน “รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย” ตัดพ้อเหนื่อยแล้วยังโดนด่า ยันไม่ฟุ่มเฟือยสมราคาแทนคำขอบคุณร่วมมือฟันฝ่าวิกฤตน้ำท่วม ระบุความปรองดองเป็นผลพลอยได้ แย้มองคมนตรี “พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุก-พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์-นายอำพล เสนาณรงค์” ตอบรับร่วมงานด้วย
วันนี้ (9 ก.พ.) นายธงทอง จันทราศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดงาน “รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย” ในวันศุกร์นี้ ที่มี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานในงานว่า เป็นที่ทราบเราผ่านวิกฤตภัยธรรมชาติมาด้วยกัน ซึ่งการที่เราผ่านวิกฤตมาได้ไม่ใช่คนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ แต่เป็นเพราะความร่วมมือจากทุกฝ่าย การกล่าวคำขอบคุณอย่างเป็นทางการซักครั้งหนึ่งโดยใช้ดนตรีสื่อความหมาย ถ่ายทอดความรู้สึกดีๆ ให้กับคนไทย หวังมีผู้ที่เข้าใจและเห็นประโยชน์ของการจัดงานครั้งนี้ สำหรับบางฝ่ายอาจมีการติติงมาบ้างก็เป็นเรื่องปกติในสังคมประชาธิปไตย อย่างไรก็ดีหากกังวลในข้อติติงแล้วหยุดไม่เดินหน้าการทำงาน สุดท้ายอาจจะไม่ได้ทำอะไรเลยในชีวิตนี้ ถ้าตั้งใจทำให้ดีที่สุดโดยคิดว่าเป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ตนคิดว่าคงไม่มีข้อกังวลห่วงใยอะไร ก็จะต้องทำต่อไป
เมื่อถามว่า เชื่อมั่นหรือไม่ว่าการจัดงานครั้งนี้จะนำไปสู่ความปรองดองได้ ตามที่ได้ตั้งใจไว้ นายธงทองกล่าวว่า จะคิดว่าเป็นผลพลอยได้หรือผลหลักก็แล้วแต่วิธีจะมองอย่างที่กราบเรียนเป็นเรื่องการแสดงการขอบคุณ แต่อย่างน้อยก็เป็นกรณีตัวอย่างที่ทำให้เราเห็นว่า การผ่านวิกฤตมาได้ไม่ใช่เพราะคนใดคนหนึ่งถ้าเรามองเหตุการณ์ที่ผ่านมา 3-4 เดือน ว่าทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือ ในความหมายของคำว่าปรองดองตนคิดว่า ก็คงควบคุมถึงบรรยายกาศแบบนี้ ฉะนั้นถ้าเราจะอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคำว่าปรองดองไม่ได้เกิดขึ้นโดยเฉพาะในงานวันศุกร์นี้เท่านั้น แต่ความปรองดองและความร่วมมือจากทุกฝ่ายเดินหน้ามาหลายเดือนแล้วในเมืองไทยของเรา
เมื่อถามว่า ถ้าวัตถุประสงค์เพื่อความปรองดองจริงๆ ทำไมไม่เชิญฝ่ายค้าน นายธงทอง กล่าวว่า การเชิญจะเชิญในลักษณะผู้แทนองค์กรต่างๆ ทางสภาก็ได้เชิญทั้งประธานสภาผู้แทนราษฏรมา หากจะไปลงรายละเอียดก็ต้องมีการเชิญ ส.ส.ทุกพรรคทุกการเมืองไป ดังนั้นจึงต้องมีการเชิญตัวแทนแต่ละองค์กร ซึ่งก็แล้วแต่สะดวกของแต่ละองค์กรด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตถึงงบประมาณในการจัดงาน นายธงทองกล่าวว่า ตนคิดว่าเราก็ใช้อย่างประหยัดที่สุด ให้ดูก่อนว่าการจัดงานในวันศุกร์นี้จะออกมาเป็นอย่างไร และบรรยายกาศของงานที่เราจะสื่อคำขอบคุณไป มีหลายๆอย่างที่ขอมาฟรี แต่อะไรที่จ่ายก็ต้องจ่าย โดยประหยัดและคำนึงถึงประโยชน์ที่จะได้รับสูงสุด ซึ่งตัวเลขจริงๆ ทั้งหมดคือ 10 ล้านบาท โดย 3.5 ล้านบาท ใช้จ่ายในเรื่องการอำนวยความสะดวกทั้งหมด ทั้งเรื่องน้ำ ไฟ โทรศัพท์ การเดินทาง อาหารและอื่นๆ ส่วนอีก 6.5 ล้านคือเรื่องของวงดนตรี เวที แสง เสียงต่างๆ
“ผมก็อยากจะคุยอย่างเปิดอก แต่บางทีการที่จะบอกว่า เช่าวงดนตรี 6.5 ล้านบาท สุดท้ายก็ไปถามอาจารย์สุกรี เจริญสุข คณบดีวิทยาลัย ดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล อีกว่าทำไมแพงนัก ทำไมถูกนัก ผมกับอาจารย์สุกรีก็เหมือนว่าเหนื่อยแล้วทำไมต้องมาโดนด่าอีก ผมก็เรียนด้วยความเคารพจริงๆ เม็ดเงินจริงที่ตัวสำนักนายกฯ เป็นคนใช้ในส่วนอื่น เรื่องอาหาร เรื่องบัตรเชิญ ทั้งหลาย 3.5 ล้านก็ดูแลไม่ได้ฟุ่มเฟือยอะไร ซึ่งเงิน10 ล้านจึงกลายเป็นว่ารัฐบาลสุรุ่ยสุร่ายก็คำนึงถึงเรื่องนี้อยู่” นายธงทอง กล่าว
นายธงทองกล่าวว่า แต่ดนตรีเขาซ้อมมาเป็นแรมเดือนเดือนจากยะลาก็มีการเตรียมตัวมาเราก็คิดว่าไม่ใช่แค่เรื่องค่าใช้จ่ายเท่านั้น หากมีอะไรเหลือบ้างเล็กน้อยพอเป็นทุนเขา ซึ่งไม่เคยมีใครให้ทุนเขาแม้แต่บาทเดียว ในระยะยาวจะได้เป็นการประคับประคอง กิจกรรมอย่างนี้ให้ก้าวเดินต่อไปคู่กับบ้านเมือง เมื่อถามว่า แสดงว่ามีการเตรียมการมามากว่า 1 เดือนแล้ว นายธงทองกล่าวว่า ก็มีการซ้อมมาสม่ำเสมอว่าจะออกงานตรงไหน เขาต้องเตรียมงานล่วงหน้าพอสมควร
นายธงทองเปิดเผยด้วยว่า นอกเหนือจากเชิญ พล.อ.เปรมมาเป็นประธานในงานแล้ว ในส่วนขององคมนตรีที่ตอบรับมาร่วมงานยังจะมีองคมนตรีท่านอื่นมาร่วมงานด้วย เช่น พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุก พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ นายอำพล เสนาณรงค์ เป็นต้น และรูปแบบจะเน้นสีทอง
