“รัฐบาล-พรรคเพื่อไทย-คนเสื้อแดง-ทักษิณ ชินวัตร”กับฝ่ายพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ประธานองคมนตรี จะซูเอี๋ยหรือไม่ซูเอี๋ย จูบปากสร้างภาพหรือต่อหน้าจับมือกันแต่ข้างหลังยังคงไม่มีใครวางใจใคร เรื่องเช่นนี้ไม่มีใครรู้
เพราะยังต้องดูกันอีกยาวไกล หลังผ่านพ้นมีตติ้งกระชับสัมพันธ์สองขั้วดังกล่าว ผ่านการจัดงาน “รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย”ที่รัฐบาลเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันทำให้ประเทศไทยฟันฝ่าวิกฤตอุทกภัยที่ผ่านมาเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ทำเนียบรัฐบาล
แต่ที่แน่ๆ “แดงสายล้มเจ้า-โค่นอำมาตย์-นปช.ฮาร์ดคอร์” ที่ยืนเคียงข้างพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร-เพื่อไทย ผิดหวังกันไม่น้อย กับท่าทีของรัฐบาลและแกนนำนปช.ที่นั่งเป็นเสนาบดี-ผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองต่างๆ ทั้งในฝ่ายบริหารและในสภาฯ ที่เปลี่ยนจากไพร่โค่นอำมาตย์ ไปร่วมเป็นแกนหลักจัดงานเลี้ยงดังกล่าวที่ไฮไลท์งานทั้งหมดกลับไปอยู่ที่พลเอกเปรม
ท่ามกลางข่าวว่า หลังจากนี้ เสื้อแดง-นปช.หลายส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับยุทธศาสตร์การเดินเกมการเมืองของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย เตรียมเสนอแกนนำนปช.ระดับคีย์แมนให้ตั้งวงถกเถียงกันจริงจังว่า เสื้อแดงจะทำการเมืองกันแบบไหนอย่างไรต่อไป เพราะหวั่นว่าแดงทั่วประเทศจะสับสนกับท่าทีของรัฐบาลและเพื่อไทย จนตีจากไปเรื่อยๆ ย่อมไม่เป็นผลดีกับรัฐบาลในอนาคต
แต่ก่อนจะทบทวนการขับเคลื่อนของเสื้อแดงว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ลำดับแรกที่แกนนำนปช.ทั้งในซีกการเมืองและระดับแกนนำภาคและจังหวัด กำลังจะถกแถลงกันในสัปดาห์หน้านี้ก็คือ
ตัวผู้นำนปช.แดงทั้งแผ่นดิน จะให้ “ธิดา ถาวเศรษฐ”รักษาการประธานนปช.ทำหน้าที่ประธานนปช.เต็มตัวเสียทีดีไหม หลังรักษาการมาได้ปีกว่าแล้ว หรือว่าจะเอาคนอื่นขึ้นมาแทน เป็นประธานนปช.อย่างเป็นทางการไปเลย ไม่ใช่ให้นั่งรักษาการกันไปเรื่อยๆ
เบื้องต้นระดับแกนนำวางไว้ว่า วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการนัดประชุมแกนนำและพวกโหวตเตอร์แดงสายต่างๆ มาลงมติเลือกกันว่าจะให้ใครเป็นประธานนปช. หลังมีการให้แดงสายวิชาการไปร่างระเบียบการเลือกประธานนปช.มาไว้แล้ว
ซึ่งต้องดูกันว่าจะมีการลงมติกันเลยวันนั้นหรือไม่ จะเลื่อนออกไปหรือไม่ เพราะหากคลื่นใต้น้ำระดับแกนนำด้วยกันเองยังไม่นิ่ง พวกหัวโจกทั้งหลายในนปช.ทั้งแดงนักการเมือง-แดงฮาร์ดคอร์-แดงล้มเจ้า-แดงคุมพื้นที่ระดับจังหวัด-แดงวิชาการ -นายทุนแดง ยังคุยกันไม่ตกผลึก จนพวกนี้หวั่นกันเองว่าเลือกประธานนปช.ออกมาแล้ว ผลออกมาไม่เป็นที่ยอมรับ แดงจะแตกกัน
ก็เป็นไปได้ที่อาจจะเลื่อนออกไปก่อน แล้วอ้างสารพัดเหตุผล แต่เบื้องต้นระดับแกนนำหลายคนบอกว่าพร้อมแล้วสำหรับการประชุมนัดสำคัญเลือกประธานนปช.ไม่น่าจะมีเหตุให้เลื่อนออกไป เพราะมั่นใจว่าคุมสภาพได้ ไม่มีแตกแถวกันเองในกลุ่มเสื้อแดง
อาจมีบางคนล้ำเส้น วิพากษ์วิจารณ์ทิศทางการทำงานของเสื้อแดงโดยเฉพาะตัว “ธิดา”ออกมาพูดผ่านสื่อในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนเลือกประธานนปช.ไปบ้าง ก็ถือเป็นสิทธิส่วนตัว แต่สุดท้ายระดับแกนนำยังเชื่อว่าเอาอยู่หมัด
ข้อสรุปที่ให้มีการเลือกประธานนปช.เกิดขึ้นหลังแกนนำนปช.ร่วม 50 คนไปเปิดรีสอร์ทกลางเมืองนครนายกคือ อิงธาร รีสอร์ท ตั้งวงคุยกันถึงทิศทางเสื้อแดง เมื่อ 6-7ก.พ.ที่ผ่านมา
ตามข่าวที่ปรากฎคือบางคนก็ไปนอนค้าง บางรายก็แวะไปร่วมสนทนาปราศรัยแบบไปเย็นดึกกลับ มีทั้งณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ นางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธานนปช.โดยที่สามี นพ.เหวง โตจิราการ ก็ไปด้วย พร้อมกับส.ส.เสื้อแดงอย่างจตุพร พรหมพันธ์ ก่อแก้ว พิกุลทอง เป็นต้น
ข้อสรุปที่ได้จากการเปิดรีสอร์ทนั่งถกแถลงคุยกันซึ่งพวกที่ไปพยายามบอกว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยดี ไม่ได้มีการกดดันไล่บี้ “ธิดา”ให้ทบทวนตัวเอง หรือจะให้ลาออกอะไร
แต่ข่าวอีกบางกระแสก็ว่า พวกนปช.สายที่ไม่ถูกกับธิดาก็ใช้โอกาสนี้พูดถึงบทบาทการนำของ “ธิดา”ในช่วงที่ผ่านมา จนสุดท้ายได้ข้อสรุปจากการคุยกันดังกล่าว 2 เรื่องใหญ่
คือหนึ่งจัดให้มีการเลือกประธานนปช.วันพุธที่ 15ก.พ. สองคือเรื่องทิศทางการเดินของคนเสื้อแดงในปี 2555 ที่ได้ข้อสรุปว่าปีนี้เรื่องใหญ่การเมืองคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คนเสื้อแดงจะต้องเข้าไปร่วมกับฝ่ายรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยด้วย เช่นช่วยรณรงค์ให้ประชาชนมาออกเสียงทำประชามติ
ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวว่าในการหารือดังกล่าว แกนนำบางคนเห็นว่าควรให้คนเสื้อแดงคอยเฝ้าระวังเป็นหูเป็นตาให้รัฐบาล เพราะแกนนำหลายคนก็พยายามให้ข้อมูลกับพวกแกนนำด้วยกันเองว่าสถานการณ์ยังไม่น่าวางใจยังมีขบวนการจ้องล้มรัฐบาลทุกรูปแบบอยู่ จึงต้องเฝ้าระวังด้วย
อย่างไรก็ตาม พวกแกนนำนปช.ที่ไปงานดังกล่าวที่นครนายก พยายามจะบอกแต่เรื่องการขับเคลื่อนของเสื้อแดงในการปกป้องรัฐบาล ต่อต้านรัฐประหาร ขณะที่ปมปัญหาความขัดแย้งเรื่องตัวประธานนปช.พบว่าแกนนำเสื้อแดงพยายามปิดปากไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้มากนัก
เหตุเพราะคงอาจมีการตกลงกันไว้แล้วว่าห้ามพูดเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้มวลชนฝ่ายตัวเองผิดหวังที่แกนนำแตกคอกันเองเอาแต่แย่งตำแหน่งจนทะเลาะเบาะแว้งกัน เพื่อหวังสร้างภาพว่าระดับแกนนำยังคงมีความเป็นเอกภาพกันดีอยู่
ทั้งที่ก็เห็นกันอยู่ว่ามีปัญหาแน่นอน ไม่เช่นนั้นคงไม่มีการสั่งให้มีการเลือกประธานนปช.ออกมาแน่นอน เพราะหากทุกอย่างราบรื่นไม่มีปัญหา จริงๆ ระดับแกนนำที่ไปร่วม 40-50 คน ก็คุยกันที่นครนายกให้จบแล้วโหวตกันเองภายในตั้ง “ธิดา” เป็นประธานนปช.ไปเลยก็ย่อมได้ ไม่จำเป็นต้องมาสร้างภาพว่าเสื้อแดงมีการเลือกตั้งประธานนปช.
แต่ที่ไม่ทำ ให้วิเคราะห์จากสภาพปัญหาภายในแกนนำนปช.ด้วยกันเองรวมถึงจากคำให้สัมภาษณ์ของแกนนำเสื้อแดงหลายคนต่อเรื่องการปรับโครงสร้างการนำของนปช. วิเคราะห์ได้ว่า มันมีการขัดขากันแน่นอนกับการที่แกนนำนปช.บางส่วนไม่พอใจการทำงานของ “ธิดา”รวมถึงการวางตัวในฐานะผู้นำนปช. และพยายามเขี่ย “ธิดา”ออกจากตำแหน่ง แต่เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศการพูดคุยกันที่นครนายก ก็เลยให้ใช้วิธีกลับมาแล้วให้มาเลือกตั้งประธานนปช.กันที่กรุงเทพฯดีกว่า
เพียงแต่ให้ใช้คำว่าปรับโครงสร้างการนำทั้งส่วนกลางและภูมิภาคเพื่อให้แลดูดี แต่ของจริงใครๆก็รู้ แกนนำนปช.ที่มีบารมีและสามารถคุมการนำได้จริงๆ ก็มีแค่ไม่กี่คน ไม่มีความจำเป็นต้องปรับโครงสร้างอะไร
แต่เบื้องหลังของความพยายามให้มีการเลือกประธานปช.และปรับโครงสร้างนปช. ก็เป็นเพราะมีการช่วงชิงการนำในกลุ่มแกนนำเสื้อแดงด้วยกันเอง ที่มีหลายคนไม่พอใจตัว “ธิดา” โดยเฉพาะยิ่งช่วงหลังไปพลาดท่าสนับสนุนแนวทางของ “กลุ่มนิติราษฎร์”ในหลายเรื่อง จนทำให้ฝ่ายประชาธิปัตย์เอาเทปคำพูดของ “ธิดา” ที่บอกว่า แดงกับนิติราษฎร์เป็นขาเป็นแขนกัน ที่ไม่เป็นผลดีกับนปช.และรัฐบาลเพื่อไทยไปด้วย
พวกเสื้อแดงเลยหวั่นว่าการคุม “ธิดา” ไม่อยู่ เธอจะพานปช.เข้ารกเข้าพงพังไปด้วย แต่ที่ผ่านมา พวกที่อยู่คนละฝั่งกับเจ๊ธิดา ที่มีตัวหลักเช่น ชินวัฒน์ หาญบุญพาด ที่ปรึกษารมว.คมนาคม ยังหาจังหวะปลด “ธิดา” ไม่ได้ เหตุเพราะแกนนำหลายคนยังหนุนหลังอยู่โดยเฉพาะสองแกนนำหลักคือ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ-จตุพร พรหมพันธ์ ทำให้แกนนำที่ไม่เอาด้วยกับเจ๊ธิดา ก็ขยับอะไรไม่ได้เพราะบารมีเป็นรอง “ตู่-เต้น”เทียบไม่ติด
อย่างไรก็ตาม ดูแล้วกว่าจะถึงวันเลือกประธานนปช.15 กุมภาพันธ์ คงมีการนัดเคลียร์ใจกันระหว่างแกนนำด้วยกันเองหลายรอบ ก่อนจะถึงวันลงมติแน่นอน เพื่อไม่ให้แกนนำแตกแถวกันจนทำให้เสียขบวนทัพ
โดยล่าสุดแกนนำนปช.หลายคนเห็นตรงกันว่า คนที่จะมาเป็นประธานนปช.ต้องไม่มีตำแหน่งการเมืองในซีกบริหาร-นิติบัญญัติ เช่นรัฐมนตรี-ส.ส.-ที่ปรึกษารัฐมนตรี-เลขานุการรัฐมนตรี เพราะไม่มีความคล่องตัวในการขับเคลื่อน หากไปรับตำแหน่งจะทำให้ตกเป็นเป้าได้ง่ายหากเกิดอะไรขึ้น ควรให้ทำหน้าที่เป็นแถวสองคือคอยแบ็คอัพอยู่ข้างหลังคนที่จะขึ้นเป็นหัวแถวประธานนปช.ดีกว่า
หากเป็นแบบนี้ โอกาสที่ “ธิดา” จะได้ตำแหน่งประธานนปช.ก็มีสูง เพราะแกนนำส่วนใหญ่ก็มีตำแหน่งการเมืองกันเกือบหมด ส่วนบางคนเช่น คณิน บุญสุวรรณ ที่เคยมีคนเสนอก่อนหน้านี้ ดูแล้วเจ้าตัวคงไม่อยากเปิดหน้าเล่นบทบาทนี้ สู้รอโอกาสจะเข้าไปเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญดีกว่า
แต่ก็ไม่รู้ว่าสูตรที่จะไม่ให้คนมีตำแหน่งการเมืองมาเป็นประธานนปช.จะได้รับการขานรับจากเสียงส่วนใหญ่หรือไม่ ไม่แน่อาจมีคนไม่เห็นด้วยก็ได้ จึงต้องรอดูวันที่ 15 ก.พ.อีกที
คงเป็นอีกครั้งที่ ทักษิณ ชินวัตร จะลงมาคลุกวงในคุยกับแกนนำสายต่างๆ ด้วยตัวเองในการจัดทัพนปช. เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นในกลุ่มหัวโจกแดง จนส่งผลต่อรัฐบาลและเพื่อไทยเป็นโดมิโนตามไปด้วย