โฆษก ปชป.โต้ “ณัฐวุฒิ-ก่อแก้ว” รุมถล่มนายหัวชวน ตะเพิดไปขอเงินแม้วจ่ายเยียวยาแก๊งแดงชุมนุมทางการเมือง แค่เล่นละครสร้างกระบวนการปรองดองจอมปลอม เชื่อสังคมไม่มีวันลืมปฏิบัติการเผาเมือง ด้าน “บุญยอด” เหน็บ “ณัฐวุฒิ” ไม่กล้าลาออก ส.ส.หวังใช้เอกสิทธิ์คุ้มหัว
วันนี้ (8 ก.พ.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมต.ประจำสำนักนายกฯ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวหาว่านายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ มีจิตใจคับแคบที่เรียกร้องให้ผู้ชุมนุมที่ออกมาสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และล้มล้างรัฐบาลอภิสิทธิ์เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ไปขอเงินชดเชยเยียวยาจาก พ.ต.ท.ทักษิณเองว่า สิ่งที่นายชวนได้พูดนั้นถูกต้องแล้ว เพราะการชุมนุมทางการเมืองดังกล่าวเอาเพียงเรื่องประชาธิปไตย หรือชนชั้นมาบังหน้า เพื่อปลุกปั่นมวลชนให้หลงเชื่อมาร่วมชุมนุม ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการชุมนุมที่หวังเพียงล้มล้างรัฐบาลเพื่อจะให้พวกของตัวเองได้เข้ามามีอำนาจ เพื่อเริ่มต้นขบวนการล้างความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งขณะนี้แกนนำหลายคนที่อ้างว่าเป็นไพร่ ก็ได้รับการตบรางวัล เป็นอำมาตย์ มีเงินทอง ร่ำรวย เพราะฉะนั้นการชดเชยเยียวยาบุคคลเหล่านี้ที่มากระทำผิดกฎหมายของบ้านเมืองเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ควรไปวางบิลเก็บเงินจากคุณทักษิณเอง
“พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันไม่สนับสนุนการจ่ายเงินให้กับผู้กระทำการผิดกฎหมาย ใช้ความรุนแรง และเชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศที่เห็นเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองในครั้งนั้นก็คงไม่มีใครยินดีให้รัฐบาลชุดนี้นำเงินภาษีของพวกเขาไปจ่ายเป็นรางวัลตอบแทนให้กับกองกำลังส่วนตัวของรัฐบาล โดยหากรัฐบาล หรือแกนนำ นปช.แน่ใจในความบริสุทธิ์ เหตุใดไม่รอให้กระบวนการยุติธรรมเสร็จสิ้นจึงค่อยมาพูดถึงเรื่องการชดเชยเยียวยา เพราะยังมีพี่น้องทหารอีกมากมาย รวมทั้งประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมต้องเสียชีวิต ไม่รอการเยียวยา ชดเชย แต่บุคคลเหล่านี้ก็มีศักดิ์ศรีพอที่จะไม่ให้ใครเอาเงินมาฟาดหัว แต่ยืนหยัดที่จะพิสูจน์ความจริงในชั้นศาล ตรงกันข้ามที่รัฐบาลและแกนนำคนเสื้อแดง กลับไม่พูดถึงเรื่องการพิสูจน์ความจริงอีกแล้ว แต่หวังเพียงจะใช้เงินภาษีของประชาชนมาตบรางวัลและปิดปากผู้ที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้ตนเองได้เสวยสุขในตำแหน่งไปนานๆ และหากนายก่อแก้วได้แสดงความคัดค้านหรือโต้แย้งกลุ่มแกนนำ นปช.ให้ยุติการหลอกลวงประชาชนมาเป็นเหยื่อทางการเมือง ประชาชนก็คงไม่โดนหลอกให้มาเสียชีวิตมากมายขนาดนี้”
ส่วนที่รัฐบาลจัดงานรักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย ที่มีการเชิญ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษเข้าร่วม แสดงให้เห็นแล้วว่าคนในรัฐบาลชุดนี้นั้นไม่มีความจริงใจ พร้อมจะแสดงละครได้ทุกเวลา รวมทั้งไม่มีจุดยืนใดๆ นอกจากการอยู่เสวยสุขกันในอำนาจเงินทอง และสรุปได้ว่าความพยายามปรองดองที่พูดมานั้นเป็นกระบวนการปรองดองจอมปลอมเท่านั้น
ด้าน นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยลาออกจากการเป็น ส.ส.เพื่อขึ้นไปเป็นรัฐมนตรีว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ ที่ได้เป็นรัฐมนตรีจึงไม่ได้ลาอกจากการเป็น ส.ส.เช่นเดียวกับนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล และนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ที่ลาออกและไปเป็นรัฐมนตรีในการปรับ ครม.ปู 2 ทั้งที่มาตรฐานของพรรเพื่อไทยที่ผ่านมา เมื่อ ส.ส.คนใดได้ขยับไปเป็นรัฐมนตรีก็จะลาออกเพื่อขยับให้เพื่อ ส.ส.คนอื่นในระบบบัญชีรายชื่อได้ขยับลำดับมาเป็น ส.ส. จึงมองได้ว่าอาจเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ หรือเป็นเรื่องของสองมาตรฐานใหม่ของรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ซึ่วอาจเป็นไปได้ว่านายณัฐวุฒิมีที่มาจากการเป็นแกนนำคนเสื้อแดงที่นำคนออกมาชุมนุมจนเกิดเป็นเหตุจราจลเผาเมือง และมีคดีติดตัวรุนแรงขั้นก่อการร้ายจึงอาจไม่กล้าตัดสินใจลาออกเพื่อต้องการใช้เอกสิทธิ์ของ ส.ส.คุ้มครองจากคดี
“ผมเชื่อว่านายณัฐวุฒิคงไม่กล้าที่จะลาออกจากการเป็น ส.ส. แม้จะได้เป็น รมช.เกษตรฯ เพราะถ้าคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำเป็นความถูกต้องก็ต้องกล้าที่จะสู้คดีในชั้นศาล โดยไม่ต้องใช้เอกสิทธิ์ใดๆ คุ้มครอง ถ้ากลัวและไม่กล้าลาออกจากการเป็น ส.ส.เพราะอาจถูกศาลตัดสินลงโทษ ก็แสดงว่าเกิดความกลัวในการกระทำของตัวเองว่าได้ทำความผิดจริง”