กมธ.กิจการสภา แฉประธานสภากันงบสภา 200 ล้าน ศึกษาโครงการสร้างคอนโดที่พัก ขรก.สภาแห่งใหม่ ชี้ส่อรวบรัดผิดขั้นตอน กระทบวินัยคลัง เล็งยื่น กมธ.งบสอบ
วันนี้ (7 ก.พ.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการกิจากรรสภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า จากการประชุมคณะกรรมาธิการฯที่พิจารณาเกี่ยวกับการเตรียมการก่อสร้างอาคารที่พักให้กับข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างแห่งใหม่ ตามดำริของ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภา ซึ่งมีบันทึกเป็นข้อความส่งมายังคณะกรรมาธิการฯลงวันที่ 5 ม.ค.55 ระบุว่า กรรมการที่จะไปจัดเตรียมที่พักอาศัยมีเงื่อนไขว่าต้องอยู่ในรัศมี 15 กิโลเมตรจากอาคารรัฐสภาใหม่ มีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 5 ไร่ ซึ่งตอนแรกมีแนวคิดไปซื้อโรงแรมดีลักษณ์เพลส แถวเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของบรรษัทบริหารสินทรัพย์ (บสท.) ราคา 207 ล้านบาท ประมาณ 400 ห้อง แต่ปรากฎว่าโรงแรมแห่งนี้ขาดแบบพิมพ์เขียวตรวจสอบโครงสร้างอาคาร จึงถูกระงับไป ดังนั้นจึงมีการเสนอพื้นที่กรมธนารักษ์ ซึ่งเป็นโรงกษาปณ์เก่า พื้นที่ 12 ไร่ 1 งาน 45 ตารางวา อยู่ใกล้สภาใหม่ย่านเกียกกายไม่เกิน 2 กิโลเมตร แต่ทางกรมธนารักษ์ ทำจดหมายตอบกลับมาว่าไม่สามารถให้พื้นที่ดังกล่าวได้ เพราะจำเป็นต้องใช้งานต่อ สุดท้ายจึงยังหาสถานที่ก่อสร้างไม่ได้ แต่กลับมีการกันงบ 200 ล้านบาทไว้แล้ว
นายบุญยอด กล่าวอีกว่า โครงการดังกล่าวไม่เคยเสนอเป็นโครงการเพื่อของบประมาณมาก่อน แต่มีการใช้คำว่า ประธานสภาได้ขอกันเงินเหลือจ่ายของสภาในปี 54 จำนวน 200 ล้านบาท เพื่อทำโครงการนี้ ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่มี 2 ตึก แบบคอนโดมิเนียม 2 ห้องนอน 48 ตารางเมตร 2,200 ยูนิต ให้กับข้าราชการทั่วไป และ 2 ห้องนอน 66 ตาราเมตร อีก 400 ยูนิต ให้กับผู้บริหาร มีพื้นที่ส่วนกลาง มีที่จอดรถ ที่ออกกำลังกาย รวมค่าก่อสร้าง 4,185 ล้านบาท ค่าออกแบบ ค่าเช่าอาคารสำนักงานแทนโรงกษาปณ์ตั้งไว้ 200 ล้านบาท รวมแล้วเป็น 4,385 ล้านบาท โดยตั้งเป็นงบผูกพันปี 55-58 รวมแล้วจะมี 2,600 ยูนิต ทั้ง ๆที่ข้าราชการรัฐสภามีทั้งหมด 2,284 คน ซึ่งในที่ประชุมตนได้ตั้งคำถามว่าไม่เคยได้ยินโครงการนี้มาก่อน และไม่เคยผ่านคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.รายจ่ายประจำปี 2555 มาก่อน เหตุใดจึงผ่านมาได้ ซึ่งผู้อำนวยการ สำนักหนึ่งของสภา บอกว่าเป็นการทำข้อตกลงระหว่างประธานสภากับสำนักงบประมาณเมื่อเดือน ธ.ค.54 ให้ทำการศึกษาโครงการนี้โดยการกันเงิน 200 ล้านบาทไปก่อน ซึ่งมีหนังสือยืนยันในข้อตกลงมาแสดงด้วย และยังระบุว่าจะขออนุมัติงบจากครม.ต่อไปเพื่อเป็นงบผูกพัน อย่างไรก็ตาม ถือเป็นการเจรจากับสำนักงบประมาณหลังจากที่ประชุมสภาได้ผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 55 แล้ว
นายบุญยอด กล่าวอีกว่า คณะกรรมาธิการฯจึงได้สอบถามถึงแฟลตที่พัก400 ห้อง ซึ่งเป็นที่พักให้กับข้าราชการระดับ ซี 7 ลงไป 400 ห้อง ที่ถนนประชาชื่น 66 ซึ่งไม่มีคำอธิบายว่าจะนำที่พักนี้ไปทำอะไร หากได้ที่อาคารที่พักใหม่ และไม่ได้มีการสอบถามความเห็นพนักงานทั้งหมด ว่าต้องการที่พัก หรือค่าเช่าบ้าน เหมือนกับข้าราชการทั่วไป หากสอบถามอาจจะทำให้โครงการก่อสร้างเหลือแค่พันกว่ายูนิตก็ได้ ดังนั้นที่ประชุมคณะกรรมาธิการจึงมีมติให้ 1.ให้ประธานสภาและคณะกรรมกราสอบถามพนักงานว่าต้องการที่พัก หรือเงินชดเชย 2.แฟลตที่พักเก่า 400 ยูนิต จะทำอย่างไร 3.หากขอความร่วมมือให้กรมโยธาธิการออกแบบให้ จะประหยัดงบการออกแบบประมาณ 60 กว่าล้านบาทได้ และ 4. ที่พักของข้าราชการ ที่กำหนดให้อยู่ห่างจากสภาใหม่ ไม่เกิน 15 กิโลเมตร ทางข้าราชการก็ยังต้องเดินทางอยู่ดี
“ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า ประธานสภาอกหักจากการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ที่ไม่สามารถย้ายสถานที่ได้หรือไม่ จึงมาคิดโครงการใหม่ที่สามารถดูแลด้วยตัวเองได้ทั้งหมด แต่เห็นว่าโครงการนี้มีลักษณะรวบรัด และอาจจะผิดขั้นตอน รวมทั้งกระทบกับระเบียบวินัยการเงินการคลังในการใช้จ่ายงบประมาณ จึงอยากตั้งคำถามว่าทำไมประธานสภาถึงดูมุ่งมั่นกับโครงการที่เกี่ยวกับการก่อสร้างมากกว่าการปฏิบัติหน้าที่ประธานสภา ซึ่งดูวาระของสภาเห็นว่ามีผลงานออกมาน้อยและทำหน้าที่ปกป้องนายกฯมากกว่าปกป้องสภาด้วย” นายบุญยอด กล่าว
นายบุญยอด กล่าวต่อว่า ตนจะนำเรื่องดังกล่าวยื่นต่อคณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ศึกษาในเรื่องดังกล่าวว่าถูกหลักกฎหมายงบประมาณหรือไม่ เพราะถือว่าน่าตกใจมาก ที่อยู่ๆ ประธานสภาคนเดียวเคาะโครงการโดยที่ไม่ถามใครเลย โดยเอาเงื่อนไขว่าเป็นสวัสดิการให้กับข้าราชการสภา แล้วใช้งบผูกพัน 4 พันกว่าล้านบาท โดยไม่ผ่านการพิจารณาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงคิดว่ามีความไม่ชอบมาพากล และไม่น่าจะถูกต้อง
