เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 จะไม่ให้ระทึกใจได้อย่างไรหลังจากที่ ศาลรธน.รับพิจารณาพ.ร.ก. 2 ฉบับฉบับโอนหนี้ 1.14 ล้านล้านให้แบงก์ชาติรับภาระกับฉบับให้กระทรวงการคลังกู้เงินมาบริหารจัดการเรื่องน้ำและสร้างอนาคตประเทศ 3.5 แสนล้านบาทที่ ฝ่ายค้านและ วุฒิสมาชิกส่งไปตีความ ซึ่งตามกรอบเวลาคงใช้เวลาแบบเร่งด่วนเหมือนกันคือ ไม่เกิน 30 วัน ฝ่ายรัฐบาลนายกฯนกแก้ว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ตามคาดหมายคือให้ กิตติรัตน์ ณ ระนอง ในฐานะ รมว.คลังไปชี้แจงต่อศาล ขณะที่ฝ่ายค้านก็มี กรณ์ จาติกวณิช ในฐานะหัวเรือใหญ่ และ วุฒิสมาชิก คำนูณ สิทธิสมาน เป็นตัวแทนไปชี้แจงต่อหน้า ซึ่งงานนี้ดูแล้วน่าจะต้องลุ้นกันหน้าเขียวจริงๆโดยเฉพาะฝ่ายรัฐบาล เพราะนี่เป็นกม.การเงิน ถ้าพลาดขึ้นมาก็ป๊อกเดียวจอด ไม่อยากหลับตานึกภาพ
00 อย่างไรก็ดีอีกมุมหนึ่งในใจแล้วอยากให้ “เครือข่ายแม้ว” ได้ลากกันไปแบบนี้ให้นานๆอีกสักพักหนึ่ง เพราะการจะได้เห็นธาตุแท้ ฝีมือของใครมันต้องให้โอกาสดูกันยาวๆ อย่าให้ได้มีโอกาสมาอ้างหรือสร้างเรื่องเพื่อกลบเกลื่อน ต้องล็อกเอาไว้ทุกทาง เหมือนกับตอนนี้มีทุกอย่างอยู่ในมือพร้อม ทั้งคน อำนาจรัฐ ถ้ายัง “ห่วย”ไม่เลิกก็จะได้รู้ ไม่ต้องมาโทษคนโน้นคนนี้ให้รำคาญใจ จะได้รู้ว่าจะกระชากค่าครองชีพลงมาได้อย่างไร ข้าวราดกระเพราหมู-ไก่(ไม่มีไข่ดาว) จะขายในราคาจานละ 25 บาทตามที่กระทรวงพาณิชย์แนะนำหรือไม่ แล้ว “แม่ค้าเสื้อแดง”ที่ เมื่อก่อนเคยร้องเพลง “ยิ่งลักษณ์-ยิ่งรัก”จะทนได้มั๊ย ที่ผ่านมา 5-6 เดือนก็เริ่มเห็นแวว(หายนะ) แล้วไม่ใช่หรือ ทนอีกนิดซีพี่น้อง อีกนี้ดด !!
00 นี่ก็ไม่รู้ผิดหวังที่ไม่ได้เลื่อนชั้นจาก “ไพร่”ขึ้นมาเป็น “อำมาตย์” เหมือนกับ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อหรือเปล่า เพราะเห็นท่าทาง จตุพร พรหมพันธุ์ แล้วล่าสุดน่าจะเป็นเอามาก ยังไม่เลิกโวยวายเรื่อง “คนจ้องล้ม” รัฐบาลปู ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่ายังมีใครหน้าไหนที่จะคิดจะล้ม ยิ่งเห็นสติปัญญานายกฯ ผลงานของรมต.แต่ละคนที่สะสม “ความห่วย” ได้รายวันแบบต่อเนื่องก็ขอให้โชคดีแล้วกัน ไม่มีใครเขาโง่มาปฏิวัติสร้างเงื่อนไขให้เสื้อแดงออกมาตายกลางถนนหรอก
00 น่าจับตาดูปฏิกิริยาของพวกคนเสื้อแดงจะมีความรู้สึกอย่างไร กับการจัดงาน “รักเมืองไทย” ที่มีโต้โผใหญ่อย่าง นิวัฒ์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกฯ โดยมีการเชิญ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มาเป็นประธานเปิดงานซึ่งยืนยันว่า “ป๋า” ได้ตอบรับมาแล้ว อ้างว่าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ เป็นการก้าวข้ามความขัดแย้งแล้วเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน ว้าว ซึ้ง น้ำตาจะเล็ด !!
00 ชอบใจทั้งคำพูดของ อมร จันทรสมบูรณ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ปรมาจารย์ด้านกม.และ บรรเจิด สิงคเนติ กูรูอีกคนหนึ่งที่ช่วยกันชำแหละการเมืองไทยได้อย่างถึงกึ๋นและตรงเผงว่าไม่ต่างจากบริษัท ที่มีนายทุนใหญ่เข้ามาลงทุนซื้อเสียงแล้วเข้ามาผูกขาดอำนาจรัฐแล้วก็คอรัปชั่นและมองว่าเวลานี้มีเสื้อคลุมประชาธิปไตยอยู่แต่เนื้อในกลับเป็นเผด็จการผูกขาดโดยผ่านพรรคการเมืองที่เป็นบริษัทการเมืองตามรัฐธรรมนูญเป็นระบบอุปถัมภ์ เรียกว่าเป็นประชาธิปไตยแต่เปลือก ซึ่งถ้ามองลึกให้เข้าใจก็คือ ทักษิณ ชินวัตร ที่เข้ามาซื้อ ส.ส.ชี้นำทุกอย่าง ทำได้แม้กระทั่งชี้นิ้วให้ใครก็ได้เป็นรมต. และเป็นไปได้อย่างไรเพียงแค่ไม่กี่ปีคนในครอบครัว “เหลี่ยมจัด” เป็นนายกได้ถึง 3 คน และมี นายกฯ “หุ่นเชิด” จากข้างนอกอีก หนึ่ง เอวัง !!