“มาร์ค” ไม่ขัด พท.ชงแก้ ม.291 ตั้ง ส.ส.ร.ยกร่าง รธน.ใหม่ จี้รัฐบาลพูดให้ชัดไม่แตะหมวดพระมหากษัตริย์ ไม่นิรโทษกรรม “นช.แม้ว” และแก้ กม.อาญา ม.112 เพื่อปลดชนวนความขัดแย้ง เหน็บเห็น “นายกฯ ปู” พูดหลายครั้งจะใช้ความเป็นผู้หญิงลดความขัดแย้ง แต่ไม่เห็นดำเนินการตามที่บอกไว้ ปัดตอบเชิญ “ป๋าเปรม” ร่วมกาลาดินเนอร์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพื่อตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ภายในสัปดาห์นี้ว่า หากมีการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับ คือ จัดให้มีการประชุมร่วมรัฐสภา ซึ่งเป็นสิทธิของสมาชิกหรือประชาชนที่มีสิทธิตามกฎหมาย ส่วนที่มาของ ส.ส.ร.ที่พรรคเพื่อไทยกำหนดว่าจะมี 99 คนนั้น เป็นเรื่องที่รัฐสภาต้องช่วยกันพิจารณา แต่ตนอยากย้ำว่ารัฐบาลจะต้องมีความชัดเจนเกี่ยวกับเป้าหมายในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ว่าขอบเขตของการแก้ไขอยู่ตรงไหน เพราะเป็นสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ห่วงใยมาโดยตลอด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลการสำรวจล่าสุดพบว่าประชาชนมีความสุขลดลงเนื่องจากเป็นห่วงความขัดแย้งเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ขณะที่นายกรัฐมนตรีเคยบอกว่าจะเข้ามาบริหารประเทศเพื่อให้คนไทยมีความสุข คิดว่านายกฯ ควรจะตระหนักต่อความรู้สึกประชาชนในขณะนี้อย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งได้ก็จะเป็นเรื่องดี หากรัฐบาลจะเดินหน้าเรื่องนี้จุดที่จะปลดชนวนความขัดแย้งได้ก็คือ การพูดให้ชัดถึงขอบเขตของการแก้ไขว่าไม่เกี่ยวข้องกับหมวดพระมหากษัตริย์ และไม่เกี่ยวข้องกับความพยายามที่จะนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หากคลายปมเรื่องเหล่านี้ได้ปัญหาก็จะจบ เรื่องรัฐธรรมนูญก็จะดำเนินไปตามแนวทางความคิดของแต่ละคนในเรื่องของประชาธิปไตย
“ผมคิดว่าการที่รัฐบาลนำเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาทำในช่วงที่ยังมีความหวาดระแวงค่อนข้างมากในสังคมจะไม่เป็นผลดี เพราะบรรยากาศของบ้านเมืองจะตึงเครียดมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าหากมีการคลายปมอย่างที่ผมเสนอ คือ พูดให้ชัดในเรื่องขอบเขตการแก้ไขจะช่วยแก้ปัญหาได้ ตัวนายกรัฐมนตรีก็ควรจะให้ความสำคัญในเรื่องนี้จริงๆ ท่านพูดหลายเวทีด้วยว่าจะอาศัยความเป็นผู้หญิงในการลดความขัดแย้ง แต่เรายังไม่เห็นการดำเนินการตรงนี้เลย ปัญหาจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็อยู่ที่ว่าพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลก้าวพ้น พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ ผมคิดว่ารัฐบาลและพรรคเพื่อไทยน่าจะประเมินดูว่าสังคมกับปัญหานี้ติดหล่มมานานแล้ว ถ้าสามารถก้าวพ้น พ.ต.ท.ทักษิณได้ก็จะเป็นผลดีกับทุกคนรวมทั้งตัวรัฐบาลด้วย” นายอภิสิทธิ์กล่าว
ส่วนกรณีที่รัฐบาลเตรียมจัดงานกาลาดินเนอร์ขอบคุณ ศปภ.และทุกหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือในวิกฤตน้ำท่วมโดยเชิญ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มาเป็นประธานในงานมีความเหมาะสมหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็น โดยบอกเพียงสั้นๆ ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดว่ารัฐบาลมีวัตถุประสงค์อะไรในการจัดงานครั้งนี้