หน.รักประเทศไทย อ้าง “ชัยวัฒน์” น้อยใจลาออกสมาชิกพรรคเอง หลังโดนติงไม่เคยเข้าพรรค ใช้ตำแหน่งหาประโยชน์ ยันเจ้าตัวเซ็นจริงๆ มี กก.บห.เป็นพยาน ลั่นมีหลักฐานแจ้งเท็จ กกต. โวยตอนหาเสียงทำอยู่คนเดียวจะมาให้ลดบทบาทเป็นไปไม่ได้ แฉจ่อซบลงส.ส.เขตพรรคอื่น แถมตีซี้ “ไอ้ตู่” ด้วย เผย “โปรดปราน” ก็เซ็นออกด้วย คาดสัปดาห์หน้าชัด เล็งปูดซ่องวันวาเลนไทน์
วันนี้ (3 ก.พ.) ที่พรรครักประเทศไทย นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ได้ส่งเรื่องการลาออกจากสมาชิกพรรคของ นายชัยวัฒน์ ไกรฤกษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า เรื่องนี้เกิดจากการที่ตนได้เรียกนายชัยวัฒน์ เข้ามาตักเตือนถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในหลายเรื่องหลังจากที่ได้เข้ามาเป็น ส.ส. เบื้องต้นได้ให้ลาออกจากเลขาธิการพรรค เพราะที่ผ่านมานายชัยวัฒน์ ไม่เคยทำงานให้กับพรรคเลย ที่ทำการพรรคก็ไม่ได้เข้าแม้แต่วันเดียว จึงมีการเซ็นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคเมื่อวันที่ 9 ม.ค.55 ต่อมาวันที่ 11 ม.ค.55 ก็ได้เรียกนายชัยวัฒน์เข้ามาตักเตือนอีกครั้ง เพราะทราบว่ามีการใช้ตำแหน่งหน้าที่หาผลประโยชน์ เข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 168 ที่ห้ามไม่ให้ ส.ส.เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณ ทำให้นายชัยวัฒน์ น้อยใจและเซ็นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรค
หัวหน้าพรรครักประเทศไทยยืนยันด้วยว่า นายชัยวัฒน์ได้ลงนามในเอกสารลาออกจากสมาชิกพรรคจริง โดยกล่าวว่ามีกรรมการบริหารพรรคหลายคนเป็นพยาน ตนจึงส่งเรื่องแจ้งไปยัง กกต. เมื่อนายชัยวัฒน์ ทราบเรื่องก็ปรึกษาใครก็ไม่รู้ แล้วเกิดเปลี่ยนใจจึงส่งเรื่องแย้งไปยัง กกต.ว่าไม่เคยลงนามในเอกสารลาออก ถือเป็นการแจ้งเท็จต่อ กกต. ซึ่งเรื่องนี้ตนมั่นใจว่ามีหลักฐานในการเอาผิดต่อนายชัยวัฒน์ เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจน โดยตั้งใจว่าจะนำออกมาแถลงข่าวในสัปดาห์หน้า ส่วนเรื่องที่ว่านายชัยวัฒน์ ไม่พอใจที่ไม่ได้รับการเปิดโอกาสให้ทำงานในฐานะ ส.ส. เห็นว่าเรื่องแบบนี้ช่วยไม่ได้ เพราะตอนหาเสียงพรรคก็มีตนอยู่เพียงคนเดียว คนอื่นก็ไม่ได้มาช่วยหาเสียง ตนมีบทบาทเด่นของตัวเอง คนอื่นก็สามารถสร้างบทบาทของตัวเองได้ การจะให้ตนลดบทบาท เพื่อให้ ส.ส.คนอื่นขึ้นมาเด่นก็คงเป็นไปไม่ได้ ตนเป็นหัวหน้าพรรคเวลามีผลงาน ลูกพรรคก็ได้ประโยชน์ หรืออย่างเวลาการตัดสินใจอะไร พรรคอื่นก็ต้องมาถามหัวหน้าพรรคเป็นเรื่องปกติ หากไม่พอใจก็ควรไปอยู่พรรคอื่น
“วันนี้ผมต้องขอโทษประชาชนที่เอาคนอย่างนี้มาเข้าพรรค และต้องการกวาดบ้านตัวเอง ไม่เช่นนั้นคงไปตรวจสอบคนอื่นไม่ได้ ผมเป็นคนพาเขาเข้ามาเป็น ส.ส. งานก็ไม่มาช่วย แต่วันนี้คิดข้ามช็อตไปไกล อยากไปลงสมัคร ส.ส.เขตที่นครศรีธรรมราชในนามพรรคอื่นแล้ว” นายชูวิทย์กล่าว
นายชูวิทย์ยังได้กล่าวถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งที่นายชัยวัฒน์ลงคะแนนสนับสนุนนายประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในการลงมติไม่ไว้วางใจด้วยว่า ตอนนั้นก็เข้าใจว่านายชัยวัฒน์ลงคะแนนผิดจริง ก็บอกในห้องประชุมให้ยกมือแจ้งต่อประธาน แต่นายชัยวัฒน์กลับเฉย จนต้องมาแถลงข่าวแก้ต่างให้ แต่ภายหลังมาทราบว่าต้องโหวตเอาใจคนในรัฐบาล และทราบด้วยว่าได้ไปสนิทสนมกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกันที่ จ.นครศรีธรรมราช ส่วนเรื่องรับผลประโยชน์เพื่อโหวตในครั้งนั้นก็ได้ยินมาบ้าง แต่ไม่ทราบรายละเอียด
นายชูวิทย์เปิดเผยด้วยว่า นอกจากนายชัยวัฒน์แล้ว นายโปรดปราน โต๊ะราหนี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็ได้ลงนามหนังสือลาออกจากพรรคแล้ว เพราะได้มีการเรียกมาตักเตือนพฤติกรรมเช่นเดียวกัน โดยเตรียมที่จะแจ้งต่อ กกต. ภายหลังจากที่เรื่องของนายชัยวัฒน์เสร็จสิ้นลง ทั้งนี้ในการแถลงข่าวสัปดาห์หน้านอกจากจะมีเรื่องความชัดเจนของ 2 ลูกพรรคแล้วยังจะถือโอกาสช่วงวันวาเลนไทน์ในการเปิดโปงขบวนการค้ามนุษย์ และซ่องโสเภณีในพื้นที่นครบาลด้วย
อย่างไรก็ตาม หาก กกต.ชี้ขาดว่านายชัยวัฒน์ และนายโปรดปราน พ้นจากสมาชิกพรรครักประเทศไทยจริง จะทำให้การเป็น ส.ส.ของทั้งคู่สิ้นสุดลงไปด้วยตามรัฐธรรมนูญ สำหรับคนที่จะได้เลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.แทนได้แก่ นายสมเพชร แต่งงาม รองเลขาธิการพรรค และนายวุฒิชัย จันเกษม เหรัญญิกพรรค