“ประยุทธ์” ไล่ “นิติราษฎร์” แจงสังคมแก้ ม.112 ชี้ไม่ต้องมาแจงตนเพราะไม่ใช่คนที่มีอำนาจนอกกฎหมาย เตือนทำอะไรอย่าให้กระทบจิตใจคนอื่นมากนัก ก่อนเปิดโครงการ “หน่วยทหารสีขาว” นำทหารถวายสัตย์ไม่ยุ่งยาเสพติด สั่ง ทภ.3 สอบทางลับคดี “ปิยะณัฐ” ค้ายา ชี้หน่วยไม่ทราบเรื่อง
วันที่ 2 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ที่กลุ่มนิติราษฎร์ต้องการเข้าพบเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า จะมาพบตนเรื่องอะไร ไม่ต้องมาชี้แจง ไปชี้แจงต่อสังคมโน่น ทำไมต้องมาชี้แจงกับตน ตนไม่ใช่คนที่มีอำนาจนอกกฎหมาย ตนอยู่ภายใต้รัฐบาล กระทรวงกลาโหม และกองทัพไทย ตนไม่ใช่อำนาจนอกระบบ ไม่ต้องมาชี้แจงตน นักวิชาการมีแนวคิดของท่านก็ว่ากันไป แต่อย่าให้ไปกระทบกระทั่งจิตใจคนอื่นเขามากนัก ส่วนจะทำให้เกิดความแตกแยกหรือไม่นั้น สื่อก็มีคำตอบอยู่แล้ว และสถานการณ์จะนำไปสู่การปะทะกันหรือไม่นั้น สื่อก็ถามเอง ตอบเองได้หมดอยู่แล้ว ท่านต้องพยายามลดระดับทุกเรื่องลงมาให้เบาลงหน่อย ถ้าตีกันทุกเรื่องก็ตาย แล้วตนก็คงจะสติแตกตายก่อนมั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ในวันเดียวกันนี้ ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นประธานเปิดโครงการ “หน่วยทหารสีขาวและหมู่บ้าน ชุมชนสีขาว” เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการปราบปรามยาเสพติดอย่างเต็มขีดความสามารถในทุกมิติ โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้มอบธงสัญลักษณ์ของโครงการ เพื่อเป็นการแสดงพันธะสัญญาการเข้าร่วมโครงการหน่วยทหารสีขาวให้กับผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกจำนวน 36 หน่วย ได้แก่ แม่ทัพภาคที่ 1, 2, 3, 4 และหน่วยขึ้นตรงอื่นๆ อีก 32 หน่วย พร้อมนำกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อต้านยาเสพติดต่อพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าปัญหายาเสพติดถูกกำหนดให้เป็นวาระของประทศ และยาเสพติดเป็นสาเหตุสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งปัจจุบันปัญหายาเสพติดได้ขยายตัวและมีความซับซ้อมมากขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและจิตวิทยา และเทคโนโลยี โดยเฉพาะการพัฒนาด้านเศรษฐกิจได้ส่งผลให้ยาเสพติดขยายรวดเร็ว แพร่ไปในกลุ่มเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติ ผลกระทบของยาเสพติดมีมาก ตั้งแต่ครอบครัว ทำให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ครอบครัวอ่อนแอ ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสังคม มาตรการในการแก้ไขปัญหายาเพติดคือครอบครัว หมู่บ้าน และชุมชน ที่อยู่ใกล้เคียงหน่วยทหาร หากทุกท่านใช้ศักยภาพสร้างความเข้มแข็งให้หน่วยและชุมชนโดยรอบจะนำมาซึ่งความเข้มแข็งของสถาบันชาติ ขอให้ผู้บังคับหน่วยทุกท่านทุ่มเทมุ่งมั่นทำโครงการนี้เต็มความสามารถ พร้อมทั้งดูแลกวดขันหน่วยในบังคับบัญชาให้ทำตามโครงการโดยการน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาใช้ในการดำเนินการทุกขั้นตอน การบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ เพื่อให้หน่วยทหารเป็นหน่วยทหารสีขาวและเป็นสังคมสีขาวต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์สัมภาษณ์ภายหลังเปิดโครงการถึงความคืบหน้ากรณีที่ พ.ต.ปิยะณัฐ เจษจำรัส นายทหารกรมทหารช่างที่ 3 กองพลพัฒนาที่ 3 เกี่ยวพันกับคดีลักลอบค้ายาเสพติด ว่า ตอนนี้ให้กองทัพภาคที่ 3 ดำเนินการตรวจสอบย้อนหลังเพราะเรื่องเกิดมา 3 ปี กำลังตรวจสอบทางลับ โดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินอยู่ แต่เท่าที่ตรวจสอบขั้นต้นพบว่าหน่วยไม่ทราบเรื่องนี้ คงเป็นเรื่องทำทางลับทาง ผบ.หน่วยอาจจะไม่ทราบด้วยซ้ำไป แต่มีการติดตามเฝ้าระวังมาโดยตลอด คิดว่าคงไมใช่ข้อบกพร่องอะไร ซึ่งบางครั้งการทำงานเปิดเผยไม่ได้ทั้งหมด ตราบใดที่หลักฐานยังไม่ชัดเจน ตนเข้าใจว่าตอนนั้นหลักฐานยังไม่ชัดเจน เป็นการตรวจสอบทางการเงินเฉยๆ และไม่ได้มีคดีความขึ้นมาก็แจ้งหน่วยไม่ได้ แต่เรื่องนี้อย่าให้เกิดขึ้นอีก ต่อไปนี้หากมีการสอบสวนต้องแจ้งให้หน่วยทหารทราบโดยเร็ว ตนไม่ตำหนิใครทั้งสิ้น