รองโฆษกประชาธิปัตย์ ซัดรัฐเมินแก้ปัญหาเกษตรกร เปิดจำนำมันในช่วงชาวไร่ไม่มีผลผลิต ส่อสวมสิทธิ์คึกคัก แฉชาวบ้านร้องรัฐไม่พร้อมส่งใบเกษตรกรทำจำนำไม่ได้ ซ้ำทำผลผลิตเขมรทะลักเพียบ ทำราคาตกเหลือ 1.80 บาทต่อกิโลฯ
วันนี้ (1 ก.พ.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า กรณีความไม่ใส่ใจต่อการแก้ปัญหาให้แก่เกษตรกรของรัฐบาลในโครงการรับจำนำมันสำปะหลัง วงเงิน 3.3 หมื่นล้านบาท จำนวน 10 ล้านตัน ในราคากิโลกรัมละ 2.75 บาท โดยจะมีการเริ่มดำเนินโครงการวันนี้ถึงวันที่ 31 พ.ค. ซึ่งถือเป็นอีกผลงานหนึ่งของรัฐบาลที่ชี้ให้เห็นถึงการผิดฝาผิดตัว เพราะตามปกติจะมีการเริ่มโครงการจำนำมันสำปะหลังในช่วงเดือน พ.ย.ถึงเดือน เม.ย.เพราะเป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวของเกษตรกร แต่เมื่อมีการเริ่มโครงการในเดือนนี้ทำให้เกษตรกรกว่าครึ่งไม่มีผลผลิตในมือมาเข้าร่วมโครงการ เพราะได้เก็บเกี่ยวไปแล้ว ดังนั้นจะเกิดปัญหาการสวมสิทธิ์กันอย่างคึกคักเหมือนกรณีโครงการรับจำนำราคาข้าว
นพ.วรงค์กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรหลายจังหวัด เช่น สระแก้ว กำแพงเพชร พิษณุโลก และจันทบุรีว่า แม้โครงการจะเริ่มต้นในวันนี้ แต่ปรากฏว่ารัฐบาลไม่มีความพร้อมที่จะส่งใบเกษตรกรให้แก่เกษตรกรกว่าครึ่ง ทำให้ไม่สามารถนำมันสำปะหลังไปจำนำได้ แต่ผลพวงที่ตามมาคือ เกษตรกรที่มีใบเกษตรกรตามมาทีหลังจะมีการสวมสิทธิ์เกิดขึ้น ปัญหาเป็นเพราะรัฐบาลไม่ใส่ใจ เห็นได้จากก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายนเกษตรกรเคยร้องเรียนไปยังรัฐบาลแล้วว่าว่าผลผลิตมันสำปะหลังจะออกมาจำนวนมากในช่วงเดือน พ.ย. ซึ่งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.พาณิชย์ในครั้งนั้นได้รับปากว่าจะเริ่มโครงการวันที่ 15 พ.ย.ในราคาจำนำกิโลกรัมละ 2.60 บาท แต่ก็ไม่มีการดำเนินการ จนกระทั่งมีเกษตรกรออกมาขู่จะก่อม็อบ หากรัฐบาลยังไม่รีบเปิดลานมันภายในสัปดาห์หน้า ทำให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมช.พาณิชย์ รีบออกมารับปากว่ารีบดำเนินการโดยด่วน
“เป็นอีกกรณีหนึ่งที่ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้ใส่ใจต่อเกษตรกร หลายโครงการที่ออกมามีเกษตรกรได้รับผลประโยชน์ส่วนน้อย แต่ส่วนใหญ่ตกไปอยู่ในมือนายทุน ข้าราชการ นักการเมือง ที่รวยจากโครงการนี้ และเวลานี้เริ่มมีกองทัพมันสำปะหลังจากเขมรเข้ามาจำนวนมาก ทำให้ลานมันในประเทศไม่รับซื้อจากเกษตกรไทยที่ วันนี้ราคาตกเหลือ 1.80 บาทเท่านั้น แต่พ่อค้าก็ยังไม่รับซื้อเพราะของเขมรมีราคาถูกกว่า” นพ.วรงค์กล่าว