พรรครักประเทศไทยวุ่น “ชัยวัฒน์” ยื่น กกต.ไม่ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคจนเป็นเหตุให้ต้องพ้นจากเก้าอี้ ส.ส. ขณะที่ “ชูวิทย์” ส่งหลักฐานยันลาออกแล้ว ด้านนายทะเบียนพรรคการเมืองเตรียมตั้ง คกก.สอบข้อเท็จจริง “สดศรี” ชี้คลุมเครือมีผลต่อการลงมติในสภาอาจทำให้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โยน ปธ.สภาพิจารณาจะให้เข้าประชุมหรือไม่
วันนี้ (1 ก.พ.) นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ กล่าวถึงกรณีการลาออกตำแหน่งเลขาธิการพรรครักประเทศไทยและการเป็นสมาชิกพรรคของนายชัยวัฒน์ ไกรฤกษ์ ทำให้ขาดจากการเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อว่า เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้มีหนังสือถึงนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง แจ้งว่านายชัยวัฒน์ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคลงวันที่ 11 ม.ค. 2555 ซึ่งตามข้อบังคับพรรครักประเทศไทยข้อ 11 (2) ถือว่านายชัยวัฒน์ได้สิ้นสุดความเป็นสมาชิกพรรคตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. 2555 โดยนายทะเบียนสมาชิกพรรครักประเทศไทยได้ลงลายมือชื่ออนุมัติหนังสือลาออกของนายชัยวัฒน์ พร้อมกับแนบสำเนาการประชุมกรรมการบริหารพรรคมา และพรรครักประเทศไทยได้บันทึกการลาออกของนายชัยวัฒน์ลงในระบบฐานข้อมูลพรรคการเมืองอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงาน กกต. ซึ่งนายชูวิทย์ได้ลงรายมือชื่อรับรองไว้ด้วย
แต่ต่อมาในวันที่ 19 ม.ค. 2555 นายชัยวัฒน์ได้ส่งหนังสือคัดค้านการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรครักประเทศไทยมายังนายทะเบียนพรรคการเมือง โดยแจ้งว่าไม่เคยประสงค์ขอลาออกจากสมาชิกพรรค และที่ผ่านมาไม่เคยมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคเรื่องการลาออกแต่อย่างใด โดยนายชัยวัฒน์ยินดีเข้าให้ถ้อยคำและส่งเอกสารประกอบการพิจารณาให้ กกต.
นางสดศรีกล่าวว่า ทั้งนี้ ตามหลักฐานนายชัยวัฒน์ได้มีหนังสือลาออกจากการเป็นเลขาธิการพรรคจริง แต่ไม่ได้เจตนาลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค เนื่องจากทราบว่าการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคจะทำให้การเป็น ส.ส.สิ้นสุดลง และนายชัยวัฒน์ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ลงนามลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ตามที่พรรคได้ยื่นแสดงต่อ กกต. ซึ่งกรณีดังกล่าวทางสำนักกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ จะต้องนำเสนอประธาน กกต.เพื่อขอให้พรรครักประเทศไทยชี้แจงปัญหาการลาออกของนายชัยวัฒน์ เนื่องจากกรณีดังกล่าวเกิดปัญหาขึ้นว่าสถานภาพของนายชัยวัฒน์ยังคงความเป็น ส.ส.อยู่หรือไม่
โดยเมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา เลขาธิการสภาฯ ได้มีหนังสือสอบถามสถานภาพการเป็นสมาชิกพรรครักประเทศไทยของนายชัยวัฒน์มายัง กกต.ด้วย เพราะนายชัยวัฒน์ยังคงเข้าประชุมสภาฯ ตามปกติอยู่ อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวเป็นประเด็นที่จะต้องพิจารณาว่านายชัยวัฒน์จะเข้าประชุมสภาฯ โดยชอบหรือไม่ ซึ่งเป็นอำนาจของประสภาฯจะพิจารณาว่าการประชุมสภาฯ โดยมี ส.ส.คนหนึ่งที่มีปัญหาเรื่องสมาชิกภาพอยู่ หรือจะดำเนินการอย่างไร เพราะอาจมีผลต่อการลงมติกฎหมายต่างๆ ได้
ด้าน นายธนิศร์ ศรีประเทศ รองเลขาธิการ กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นประเด็นปัญหาโต้แย้งที่เกิดขึ้นภายในพรรครักประเทศไทย เพราะตามกฎหมายหากลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองก็จะทำให้ความเป็น ส.ส.สิ้นสุดลงไปด้วยตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งกรณีนี้ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทั้งสองฝ่าย เพราะนายชัยวัฒน์ได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่เคยลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งทาง กกต.จะดำเนินการตรวจสอบด้วยความเป็นธรรมว่านายชัยวัฒน์มีการลาออกจากการเป็นสมาชิพรรคจริงหรือไม่ โดยขั้นตอนต่อจากนี้จะนำเสนอเรื่องให้นายทะเบียนพรรคการเมืองตั้งกรรมการขึ้นมาสอบข้อเท็จจริงก่อนที่จะแจ้งไปยังประธานสภาฯ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาการตรวจสอบไม่นาน เพราะว่าไม่ได้เป็นประเด็นที่ซับซ้อน หากมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนจะวินิจฉัยได้โดยเร็ว ถ้ามีฝ่ายใดปลอมแปลงเอกสารขึ้นมาก็ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
