พท.ปัดส่ง “สุดารัตน์” ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.หลังปลดล็อกทางการเมือง บอกมีความสามารถเกินกว่าจะมาเป็นแค่พ่อเมือง เผยมี “ประภัสร์-อุเทน-ยุรนันท์” เป็นแคนดิเดตแล้ว
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส. กทม.และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทยมีการประชุมในส่วนของภาค กทม. เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ภายหลังมีกระแสข่าวว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จะลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ก่อนครบวาระ โดยจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 5 ชุด เพื่อติดตามตรวจสอบผลงานระดับเขตติดตามตรวจสอบผลงานระดับผู้บริหาร กทม.ตรวจสอบการใช้งบประมาณ เผยแพร่ผลงานที่ย่ำแย่ของ กทม. และชุดยุทธศาสตร์ปรับเปลี่ยนเพิ่มเติม โดยคน กทม.เพื่อคน กทม. เพื่อการพัฒนา กทม.อย่างจริงจัง
นอกจากนี้ ที่ประชุมภาค กทม.มีการหารือและมีการเสนอชื่อแคนดิเดตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ไว้แล้ว 3-4 คน เช่น ประภัสร์ จงสงวน กรรมการผู้ช่วย รมว.คมนาคม นายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตประธานคณะกรรมการระบายน้ำลงทะเล ศูนย์ปฏิบัติการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) และนายยุรนันท์ ภมรมนตรี ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ซึ่งล้วนแต่เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ทั้งนี้จะมีการส่งตัวผู้สมัครเป็นผู้หญิงหรือไม่นั้น ต้องมีการประชุมเพื่อคัดสรรกันอีกครั้ง
ส่วนกรณีที่มีผู้เสนอชื่อนางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ด้วยนั้น นายจิรายุแสดงความคิดเห็นว่า นางสุดารัตน์มีความเหมาะสมแต่เป็นบุคคลที่มีความสามารถมากเกินกว่าการบริหารงานของ กทม.ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.จะมีสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ลงสมัครด้วยหรือไม่นั้น อยากให้รอการปลดล็อกทางการเมืองผ่านพ้นไปก่อน จึงจะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง
ส่วนกรณีที่นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทในกรณีที่เดินหน้าตรวจสอบการทุจริตกล้อง CCTV นั้น นายจิรายุระบุว่าไม่รู้สึกตื่นเต้น เพราะถือว่าเป็นการทำหน้าที่ในฐานะ ส.ส.และรองประธานกรรมาธิการติดตามตรวจสอบกล้อง CCTV พร้อมยืนยันว่าจะทำหน้าที่ต่อไป
สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินการของคณะกรรมาธิการฯนั้น ขณะนี้ได้ส่งหนังสือให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และฝ่ายกฎหมายทำคำวินิจฉัยว่าการกระทำของนายธีระชนว่าเป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 15 พ.ร.บ.คำสั่งเรียก ส.ว., ส.ส.หรือไม่ เพื่อฟ้องดำเนินคดีต่อนายธีระชนต่อไป
นายจิรายุยังเรียกร้องไปยังพรรคประชาธิปัตย์ที่ออกมาคัดค้านการออก พ.ร.ก.4 ฉบับ ว่าให้หยุดการกระทำดังกล่าว เนื่องจาก พ.ร.ก.4 ทั้งฉบับถูกกำหนดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยอย่างยั่งยืนให้กับประชาชน เป็นการแก้ไขปัญหาน้ำโดยตรง ทำเพื่อคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งต่างจาก พ.ร.ก.เงินกู้ สมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ที่เป็นออก พ.ร.ก.กู้เงิน ต่างตอบแทนกับพรรคร่วมรัฐบาล
นายจิรายุยังระบุว่า พรรคเพื่อไทยมีมติชัดเจนว่าจะไม่เข้าไปแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แต่ฝ่ายค้านก็พยายามเชื่อมโยงให้เป็นประเด็นทางการเมือง ซึ่งเพื่อไทยก็ยืนยันชัดเจนว่า ต้องแก้รัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2550 ที่มาจากการปฏิวัติ รัฐประหาร ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย พร้อมทั้งเรียกร้องให้หยุดเชื่อมโยงประเด็นต่างๆ ไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยอยากให้ฝ่ายการเล่นการเมืองแบบสร้างสรรค์