ทัวร์ “นกแก้ว” วางหมากเดินสาย ประเดิมเน้นติดตามเรื่องน้ำ

เปิดตางรางทัวร์ “นกแก้ว” 13-17 ก.พ.เน้นติดตามบูรณาการ จัดการน้ำทั้งระบบ “ปู” จ้องจี้ ผวจ.ตามเส้นทาง หลังส่งงบประมาณลงพื้นที่ งานต้องเดิน พร้อมขนคณะรัฐมนตรี จัดประชุม ครม.สัญจรต่อ “อุดรฯ” 21-22 ก.พ.สั่ง รมต.ลงพื้นที่ติดตามงาน

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการประชุมเพื่อวางแผนการเดินทางของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในโครงการทัวร์นกขมิ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของรัฐบาลนั้น เบื้องต้นได้วางกำหนดการไว้ระหว่างวันที่ 13-17 ก.พ.ซึ่งโครงการครั้งแรกนี้จะเป็นรูปแบบของการของไล่ติดตามการบริหารจัดการและบูรณาการเรื่องน้ำ เริ่มตั้งแต่ จ.ตาก พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ ลพบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ปทุมธานี โดยเป้าหมายการเดินสายของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ก็เพื่อติดตาม เร่งรัด และวางแผนการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการซึ่งในพื้นที่เป้าหมายจะต้องทำให้สำเร็จโดยเร็วเพื่อให้ทันรับมือและเตรียมความพร้อมสำหรับฤดูฝนที่จะเริ่มต้นในเดือน พ.ค.นี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายชัดเจนแล้วว่าในเมื่อมีงบประมาณให้ไปแล้วก็ต้องเร่งดำเนินการให้สำเร็จ จะต้องไม่มีข้ออ้างอะไรเกิดขึ้นมาอีก หรือถ้ามีอุปสรรคก็ต้องหาทางแก้ไขร่วมกัน ซึ่งถ้านายกรัฐมนตรีไม่ลงไปติดตามงานในพื้นที่ก็จะเกิดความล่าช้าและไม่ทัน รับมือกับฤดูฝนที่จะมาถึง แล้วปัญหาก็จะตามมาอีก

“ในการเดินสายเพื่อติดตามงานครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี เป็นคนละรูปแบบกับสมัยที่อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยทำมาก่อน ซึ่งสมัยนั้นจะเป็นการติดตามและรับฟังปัญหาในพื้นที่นั้นๆ แต่ครั้งนี้ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเน้นเรื่องการบริหารจัดการน้ำ โดยกำหนดจุดใหญ่ไว้ 20 จุด โดยเริ่มตั้งการดูปริมาณน้ำที่เขื่อนภูมิพล จ.ตาก และติดตามงานโดยเริ่มตั้งแต่ลุ่มแม่น้ำปิง ยม แม่น้ำน้อย ป่าสัก เจ้าพระยา โดยที่ จ.พิจิตร จะเน้นติดตามการดำเนินการพัฒนาบึงสีไฟ เพื่อให้เป็นพื้นที่แก้มลิงในการรองรับน้ำ จ.นครสวรรค์ ก็จะมีการฟื้นฟูและเร่งพัฒนาปรับปรุงบึงบอระเพ็ดให้สามารถเป็นพื้นที่รองรับน้ำได้เต็ม 100% เพราะปัจจุบันเกิดการบุกรุกพื้นที่สาธารณะเป็นจำนวนมาก จากพื้นที่ทั้งหมดของบึงบอระเพ็ดที่มีประมาณแสนไร่ เหลือเป็นพื้นที่รองรับน้ำเพียง 3 หมื่นกว่าไร่เท่านั้น นอกจากนี้ ก็จะมีพื้นที่ที่ จ.อุทัยธานี บริเวณต้นแม่น้ำสะแกกรัง ที่จะพัฒนาทำเป็นพื้นที่แก้มลิง (รองรับน้ำ) จากนั้นก็จะเป็นการติดตามงานในพื้นที่ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง ชัยนาท โดยที่ ลพบุรี นายกรัฐมนตรีจะลงไปดูพื้นที่บริเวณประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ส่วนพื้นที่อยุธยา ปทุมธานี จะเน้นเรื่องของพื้นที่เศรษฐกิจ นิคมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะพื้นที่ที่อำเภอบางบานนั้น อาจจะมีการพัฒนาเป็นพื้นที่แก้มลิง ทั้งนี้ จะมีรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงบประมาณ ไปด้วยตลอด” แหล่งข่าว กล่าว

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ยังเปิดเผยต่อด้วยว่า หลังเดินสายตามโครงการทัวร์นกขมิ้นแล้ว ในระหว่างวันที่ 21-22 ก.พ.ก็จะมีการจัดประชุม ครม.นอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่จ.อุดรธานี โดยเบื้องต้นคาดว่า จะใช้บริเวณศาลกลางของจังหวัดเป็นสถานที่ประชุม ส่วนวันที่ 21 ก.พ.นั้น ก็จะมอบหมายให้บรรดารัฐมนตรีลงพื้นที่ทั้ง จ.อุดรธานี ยโสธร เพื่อติดตามงานตามนโยบาย เนื่องจากการทำงานของรัฐบาลจนถึงปัจจุบันถูกวิพากวิจารณ์อย่างหนักว่านโยบาย ที่ได้ประกาศไว้ยังไม่เดินหน้าเท่าที่ควร