โฆษกรัฐบาล เผยกำหนดการเยือน “อินเดีย” ระหว่างวันที่ 24-26 ม.ค.นายกฯพร้อมคณะเตรียมขนแผนบริหารจัดการน้ำ แจงหลังประสบมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนกลับคืน ต่อด้วยการเข้าร่วมประชุม (WEF) ระหว่างวันที่ 27-28 ม.ค.ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส
วันนี้ (23 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงกำหนดการเยือน กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 24-26 ม.ค.นี้ ว่า นายกฯจะออกเดินทาง ภายหลังการประชุม ครม.อังคารที่ 24 ม.ค.โดยเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการเพื่อกระชับความสัมพันธ์ที่ดี และร่วมงานเฉลิมฉลองวันสถาปนาสาธารณรัฐอินเดีย ไปพร้อมๆ กันด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลอินเดียได้เชิญนายกฯไทยเป็นแขกเกียรติยศในงานวันชาติอินเดียด้วย ซึ่งถือเป็นการให้เกียรติประเทศไทยสูงสุด เพราะปกติตามประเพณีอินเดียจะเชิญผู้นำประเทศที่เขาให้ความสำคัญเพียงปีละ 1 ประเทศเท่านั้น
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวด้วยว่า สำหรับการเยือนสาธารณรัฐอินเดียครั้งนี้ นายกฯ จะเน้นการสร้างความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยแต่นักลงทุนอินเดีย และชี้แจงถึงแผนการฟื้นฟูประเทศไทยหลังประสบอุทกภัย รวมถึงบทบาทของประเทศไทยในการส่งเสริมการค้า การลงทุน และโอกาสทางธุรกิจสำหรับอินเดีย นอกจากนี้ นายกฯจะย้ำให้อินเดียเห็นความสำคัญของไทยในการเป็นประตูสู่อาเซียนและเอเชียตะวันออก และจะมีการเจรจากับนายกฯอินเดียเพื่อบรรลุข้อตกลง FTA ไทย-อินเดีย เต็มรูปแบบในปี 55 เพื่อสร้างความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ในการเยือนอินเดียครั้งนี้ นายกฯได้สั่งการให้พิจารณาเพิ่มนักธุรกิจในสาขาต่างๆ ที่มีศักยภาพในการรองรับตลาดและการลงทุนจากอินเดียให้ร่วมเดินทางไปในครั้งนี้ด้วย ทั้งด้านการท่องเที่ยว สาธารณสุข การศึกษาและการค้าปลีก
นางฐิติมา กล่าวต่อว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการแล้ว นายกฯจะเดินทางเพื่อเข้าร่วมประชุม World Economic Forum (WEF) ครั้งที่ 42 ระหว่างวันที่ 27-28 ม.ค. ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส ทันที ซึ่งเวทีประชุม WEF ถือเป็นเวทีใหญ่ที่สุดในโลก มีผู้นำประเทศ และผู้บริหารภาคเอกชน ด้านสังคมรวมถึงสื่อมวลชนจำนวนมากประมาณ 2,500 คน โดยเป็นเวทีเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นถึงปัญหาใหญ่ของโลก และแนวทางแก้ไข
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวด้วยว่า การประชุม WEF ครั้งนี้ จะมีการสะท้อนถึงความกังวลของผู้นำโลก ความเชื่อมโยงของประเด็นต่างๆ หลังวิกฤตเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้นายกฯไทยจะได้ใช้โอกาสนี้ในการประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพการประชุม WEF on East Asia ระหว่างวันที่ 30 พ.ค.- 1 มิ.ย.55 ที่ประเทศไทยด้วย
ทั้งนี้ นายกฯจะได้หารือแบบทวิภาคีกับผู้นำประเทศต่างๆ เช่น ประธานาธิบดีโปแลนด์ ประธานาธิบดีแทนซาเนีย ประธานาธิบดีสมาพันธรัฐสวิส นายกฯปากีสถานและผู้นำภาคเอกชนต่างๆ และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนชั้นนำด้วย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และมาตรการ รวมถึงแผนการจัดการน้ำเพื่อให้มั่นใจว่าประเทศไทยจะไม่ตกอยู่ในสภาวะวิกฤตอุทกภัยเหมือนในปีที่ผ่านมา ให้นักลงทุนได้มั่ใจในศักยภาพของไทย
นางฐิติมา กล่าวอีกว่า ส่วนในกรณีที่มีการถามถึงการเตือนภัยก่อการร้ายในประเทศไทย ตรงนี้เราได้มีการเตรียมการไว้ ถ้ามีการถามก็พร้อมจะตอบในสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ นายกฯไม่ได้ถือโอกาสจะไปชี้แจง เพราะมีวัตถุประสงค์เพื่อไปสร้างความสัมพันธ์ และสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ เนื่องจากนักธุรกิจกังวลจุดนี้มากกว่า